1. มีวิธีที่จะไล่เบี้ยจำเลยที่ 1 ยังงัยครับ เอาทุกวิชาครับ(รวมวิชามารด้วยนะครับ) ให้คืนและชำระฝ่ายเดียว  รีไฟแนนท์ได้เปล่าครับ

ตอบ  เอาแบบพื้นฐานนะครับ  คุณควรจะแต่งทนายเข้าไปสู้คดีเฉพาะจำเลยที่ ๒ ให้ลดยอดหนี้ลงมาก่อนครับ ,เมื่อศาลพิพากษาแล้ว ควรจะอุทธรณ์ ให้คดีระหว่างคุณกับโจทก์ ขึ้นศาลอุทธรณ์ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ ๑-๒ ปี ซึ่งในระหว่างนั้น คุณก็ต้องสืบหาทรัพย์สินของจำเลยที่ ๑ แล้วไปแจ้งให้โจทก์ทราบ เพื่อให้โจทก์ไปดำเนินการบังคับคดีกับจำเลยที่ ๑ เมื่อโจทกืบังคับคดีได้พอใจแล้ว คดีที่คุณอุทธรณ์ ก็จะลงมาโดยที่คุณไม่ต้องรับผิดครับ

2. กรณีที่ต้องไปตามหมายศาล นัดชี้ จำเลยที่1 ไม่ไป จำเลยที่2ผู้ค้ำประกันไปคนเดียว มีผลแตกต่างกันยังงัยครับ

ตอบ ถ้าจำเลยที่ ๑ ไม่ไป ศาลก็ต้องงดชี้สองสถานครับ เท่ากับ โจทก์มีหน้าที่นำสืบทั้งหมด ตามฟ้องครับ ไม่ได้มีผลดีอะไรกับจำเลย

3.ผมเป็นผู้ค้ำประกันได้มาขึ้นศาลที่กรุงเทพฯ  ซึ่งไม่สะดวกเพราะอยู่ต่างจังหวัดครับ มีวิธีที่จะร้องศาลเพื่อจะขอขึ้นศาลที่ต่างจังหวัดได้เปล่าครับ

ตอบ ในกรณีที่จำเลย ถูกฟ้อง ไม่ได้ครับ ,ไม่มีกฎหมายสนับสนุน

4.กรณีที่บริษัทโจทย์มีทนายประจำบริษัท แต่ผมจำเลยผู้ค้ำประกันไม่ได้ติดต่อทนาย  หลังจากไปนามนัดชี้ แล้ว ถ้าดอกเบี้ยหรือค่าเสียหายที่โจทย์ฟ้อง มันเยอะเกินไปโดยใช่เหตุ ผมจะต้องทำขั้นตอนอะไรต่อไป ครับ และต้องก่อนหรือหลังศาลพิพากษาคดีครับ

ตอบ ควรจะแต่งทนาย ขออนุญาตยื่นคำให้การ เนื่องจาก หากคุณไม่ยื่นคำให้การ ศาลก็จะไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย แล้วอาจจะตัดสินให้ คุณเป็นฝ่ายแพ้คดี ในยอดหนี้ ตามที่โจทก์ขอมา หากคุณแต่งทนายยื่นคำให้การ ศาลก็จะได้มีประเด็นที่จะวินิจฉัยปรับลด ค่าเสียหายของโจทก์ครับ

5.บริษัทคุณปมุขมีเครือข่ายอยู่ต่างจังหวัดบ้างมั้ยครับ ที่ไหนบ้างเพื่ออยากติดต่อครับ

ตอบ  ไม่มีครับ , เพราะ

ขอบคุณมากครับสำหรับคำตอบ

ผมขอรบกวนคุณปมุข ขอเรียนถามเพิ่มเติมครับ

ผมจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกัน หลังจากไปฟังนัดชี้ตามหมายศาลแล้ว  และจำเลยที่ 1 ไม่ไป หลังจากวันนัดชี้แต่ยังไม่มีคำพิพากษาผมต้องติดต่อทนายเพื่อที่จะอุทธรณ์ได้เปล่าครับ เพราะก่อนศาลนัด ผมยื่นคำให้การไม่ทัน 15 วันหลังรับหมายศาล  จะมีผลเป็นยังงัยครับสำหรับกรณีดังกล่าวข้างต้น