ReadyPlanet.com


หนี้สินของสามี /สินสมรสของภรรยา และหนี้สินกับบุตร


 

มีเรื่องร้อนใจอยากปรึกษามากค่ะ รบกวนช่วยให้คำตอบหน่อยนะคะ

- สามีภรรยา จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีบุตร 3 คน

- ตั้งแต่แต่งงานมา 30 ปี สามีไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูภรรยาและลูกแต่อย่างใดแต่ทั้งภรรยาและลูกอาศัยอยู่กับครอบครัวของสามี โดยที่ภรรยาหาเลี้ยงชีพตนเองและลูกด้วยการขายของเล็กน้อยๆ ทั้งนี้ ทั้งสามีและภรรยาพักอยู่ในห้องเดียวกันเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป ไม่ได้จดทะเบียนหย่า

- เมื่อ 3 ปีก่อน ภรรยาได้มรดกเป็นที่ดิน ซึ่งได้จัดการขายเป็นเงินเก็บไว้ก้อนหนึ่ง

- เมื่อ 2 ปีก่อน สามีได้รับมรดกเป็นที่ดิน ซึ่งได้แอบไปจำนองไว้กับนาย ก. และเอาเงินมาใช้ส่วนตัวจนหมด อีกไม่กี่เดือนจากนี้ที่ดินนั้นจะโดนยึดไป รวมเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเงิน 3 แสนและยังมีหนี้สินอื่นๆ ที่สามีไปหยิบยืมไว้ รวมได้จำนวนกว่า 1 ล้านบาท

- ที่ดินที่สามีไปจำนองไว้กับนาย ก. นั้น เป็นที่ดินตาบอด ใช้ทางออกร่วมกับที่ดินของพี่น้องฝ่ายสามี ซึ่งทางญาติๆต้องการให้ไถ่ถอนคืนมา โดยกดดันให้ภรรยาและลูกๆไปไถ่ถอนและชดใช้แทน

…………………………………………………………………………………………..

หนูเป็นลูกของสามีภรรยาคู่นี้ค่ะ เลยอยากจะถามเป็นข้อๆนะคะ

1.        หนี้สินของบิดาที่ได้ก่อไว้ จะมีผลอย่างไรกับแม่และหนูบ้างคะ

1.1     กรณีถ้าหย่าตอนนี้

1.2     กรณีไม่หย่า

2.        ถ้าคุณแม่ตัดสินใจหย่าตอนนี้เงินที่แม่ได้มาจากการขายที่มรดกจะต้องถูกแบ่งให้พ่อมั้ยคะ

 

3.        หากคุณแม่ไม่หย่า (หนูคิดว่า คุณแม่เกรงว่าเงินมรดกจะถูกแบ่งค่ะ เนื่องจากตั้งใจไว้เป็นเงินหาที่อยู่ใหม่เพื่ออาศัยอยู่เฉพาะเราแม่ลูก) แล้วหากหนูและแม่หาซื้อบ้านใหม่

3.1     ถ้าบ้านนี้เป็นชื่อแม่ จะมีปัญหาภายหลัง เกี่ยวเนื่องกับหนี้สินของพ่อมั้ยคะ

3.2     หรือถ้าเป็นชื่อหนูและน้อง จะมีปัญหาภายหลัง เกี่ยวเนื่องกับหนี้สินของพ่อมั้ยคะ

 

4         หากหนูไถ่ถอนที่ดินที่พ่อจำนอง โดยการ***้เงินจากที่อื่น มาส่งให้นาย ก. ก็คือที่ดินนั้นหลุดจำนอง แต่ที่ดินยังเป็นชื่อคุณพ่ออยู่หนูเข้าใจถูกใช่ไหมคะ

 

5         ถ้าหนูและน้องจะไถ่ถอนที่ดินนี้ หนูมีวิธีอย่างไรได้บ้างคะ หากต้องการให้ที่ดินไม่เป็นชื่อพ่ออีกต่อไป (เนื่องจากเกรงว่าท่านจะเอาไปขาย/จำนองอีก หนูเสียดายที่ดินของอากงอาม่า ท่านเสียใจมากค่ะที่พ่อทำแบบนี้ )

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ ปัทมา ศ. :: วันที่ลงประกาศ 2006-09-26 00:53:32 IP : 124.120.99.101


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (635415)

 

เพิ่มเติมนะคะ

6       จากเหตุผลเรื่องเกรงว่าพ่อจะเอาที่ดินไปขาย หรือจำนองอีก ถ้าดิฉันยื่นเงื่อนไขไถ่ถอนที่ดินให้ โดยหาแหล่งเงิน***้จากคุณอา ไถ่ถอนที่ดินจากนาย ก.แล้วให้พ่อจำนองที่ดินไว้กับคุณอา โดยดิฉันและน้องจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยกับคุณอาแทน เพราะถ้าอย่างนี้หากผ่อนเงินต้นและดอกเบี้ยหมดที่ดินก็ยังเป็นชื่อคุณพ่ออยู่ดี ดิฉันสามารถทำสัญญาระหว่าดิฉันกับคุณอาเพื่อระบุว่าดิฉันและน้องเป็นผู้ผ่อนชำระ หากชำระหมด สัญญาจำนองสิ้นสุด พ่อจะต้องโอนที่ดินให้เป็นชื่อดิฉันและน้องได้ไหมคะ

 

รบกวนนะคะ เพราะอีกสองสามเดือนที่ดินจะโดนยึดแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัทมา วันที่ตอบ 2006-09-26 01:19:48 IP : 124.120.99.101


ความคิดเห็นที่ 2 (635999)

1. หนี้ที่บิดาก่อไว้...คงที่ผลต่อมารดา...ถ้ามีการฟ้องร้องบังคับคดี...เจ้าหนี้สามารถยึดทรัพย์ที่สามีภรรยามีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน...เว้นแต่เป็นทรัพย์ส่วนตัวของมารดา...สำหรับบุตรไม่ต้องร่วมรับผิดในหนี้ของบิดา......กรณีหย่าเจ้าหนี้น่าจะตามยึดทรัพย์ของภรรยาได้ลำบาก...เว้นแต่เป็นหนี้ที่ภรรยาเป็นลูกหนี้ร่วม

2. เงินจากทรัพย์มรดกเป็นทรัพย์ส่วนตัวของมารดา  ถ้าหย่าคงไม่ต้องแบ่งให้บิดา...เว้นแต่เจ้ามรดกจะระบุไว้ว่ามอบมรดกเพื่อเป็นสินสมรส....

3...3.1  ถ้าบ้านได้มาระหว่างสมรสถือเป็นสินสมรส...บิดาย่อมส่วนด้วยครึ่งหนึ่ง...เจ้าหนี้สามารถยึดได้

3.2  ถ้าโอนให้เป็นของบุตรปัญหาเรื่องหนี้สินของบิดาคงไม่เกี่ยวข้องกับบ้านอีกต่อไป

4.  ถูกต้อง

5. ให้คุณพ่อโอนที่ดินให้คุณพร้อมติดจำนอง......คุณก็ผ่อนไป.....เมื่อหนี้หมดคุณก็เป็นเจ้าของที่สมบูรณ์...ที่จริงเป็นเจ้าของสมบูรณ์ตั้งแต่คุณพ่อโอนให้คุณ.......แต่ยังติดจำนองอยู่เท่านั้น

6.  ทำตามข้อ 5...

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-09-26 13:08:40 IP : 203.172.199.254


ความคิดเห็นที่ 3 (636880)

 

ขอบคุณผู้เฒ่ามากๆเลยค่ะ

หลังจากเมื่อวานนี้ มีกรณีต่อมาคือ คุณแม่บอกว่าเคยเจรจาขอหย่าจากคุณพ่อ ตั้งแต่ 3 ปีก่อน ก่อนที่จะมีกรณีหนี้สินเกิดขึ้น แต่ตอนนั้นคุณพ่อไม่ยอมหย่า และก็ยังคงไม่ส่งเสียเลี้ยงดู หรือดูแลใดๆเช่นเดิม (ซึ่งหนูก็ไม่เข้าใจเค้าเหมือนกันค่ะ)

คุณแม่ไม่รู้จะทำยังไง หากคุยแล้วคุณพ่อไม่ยอมหย่าอีก เนื่องจากหนูและแม่ตั้งใจว่าจะออกจากบ้านนี้แล้ว หนูอยากให้เคลียร์ปัญหาให้เสร็จก่อน ไม่อยากให้มีพันธะติดตัวคุณแม่และหนูอีก

ถ้าครั้งนี้เจรจาแล้วคุณพ่อไม่ยอมหย่า พอจะมีทางทำอย่างไรได้บ้างคะ หนูอยากให้จากกันด้วยดี ไม่อยากให้ถึงเรื่องฟ้องร้องกัน  หนูคิดเผื่อไว้ว่าหากคุยแล้วคุณพ่อไม่ตกลง ถ้าหนูไปแจ้งความไว้ที่โรงพักไว้ก่อนจะสามารถช่วยอะไรได้ไหมคะ หรือจะเกินเหตุไป ถ้าอย่างนั้นมีทางไหนพอทำได้บ้างคะ

กรณีที่ดินที่อากงอาม่ายกให้พ่อแล้ว พ่อทำอย่างนี้ อากงอาม่าสามารถเรียกคืนได้ไหมคะ ถ้าจะเรียกคืน จะทำอย่างไรได้บ้างคะ

กวนผู้เฒ่า แนะนำอีกครั้งนะคะ

หมายเหตุเพิ่มเติม : สรุปแล้วเค้าจะมายึดที่ วันที่ 20 ต.ค.นี้แล้วค่ะ ดูเหมือน นาย ก. เค้าตั้งใจปล่อยให้หลุดจำนอง เพราะที่ผืนนี้ค่อนข้างสวยกว่าแปลงอื่นๆ ติดถนน เข้าออกสะดวกกว่าคนอื่นค่ะ หนูเศร้าจังค่ะ...

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัทมา วันที่ตอบ 2006-09-26 22:41:15 IP : 124.120.94.235


ความคิดเห็นที่ 4 (637117)

---ถ้าบิดามารดาไม่มีทางจะปรองดองกันได้   และคุณพ่อไม่ยอมหย่า   ก็ใช้วิธีแยกกันอยู่เมื่อครบ 3 ปีก็สามารถเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ครับ แต่ก็ต้องฟ้องศาลอยู่ดี    

--สำหรับที่ดินที่อากงอาม่ายกให้  ถ้ามีการประพฤติเนรคุณ  ไม่ยอมให้การเลี้ยงดูตามสมควร   ก็สามารถฟ้องเรียกคืนได้  ภายใน 6 เดือนที่มีเหตุนั้น  แต่ผมว่าตัดใจปล่อยไปเลยน่าจะดีกว่า    สมบัติผลัดกันชม  ไม่มีใครเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติที่จีรังหรอก  เราเกิดมาบนโลกนี้น่าจะมีชีวิตไม่ถึง 30,000  วัน ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงเวลาที่ไม่นานนักน่าจะดีกว่าครับ  ด้วยความปรารถนาดี

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-09-27 08:53:02 IP : 203.172.199.254


ความคิดเห็นที่ 5 (637581)

 

ขอบคุณผู้เฒ่ามากๆอีกครั้งค่ะ

ถ้าเช่นนั้นจากนี้จะแยกกันอยู่ ระหว่างที่แยกกันอยู่หากเจ้าหนี้ทั้งหลายเกิดฟ้องร้องพ่อขึ้นมา คุณแม่จะต้องมาเกี่ยวข้องหรือมีส่วนรับรู้ด้วยไหมคะ เพราะหนี้สินที่พ่อก่อ เกิดก่อนที่จะแยกกันอยู่น่ะค่ะ

สงสัยมากไปนิด รบกวนนะคะ ขอบคุณที่กรุณาให้ความรู้

ด้วยใจจริงค่ะ

ปัทมา

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัทมา วันที่ตอบ 2006-09-27 14:31:51 IP : 124.120.95.204


ความคิดเห็นที่ 6 (639200)
---เมื่อความเป็นสามีภรรยายังไม่สิ้นสุด   ทรัพย์ที่ทำมาหาได้ก็ถือว่าเป็นสินสมรสเสมอ  ต่างฝ่ายมีสิทธิ์คนละครึ่ง  เจ้าหนี้จึงได้โอกาสตรงนี้แหละมายึดทรัพย์ไปทั้งหมด  ภรรยาก็ต้องไปร้องขอกันส่วนครึ่งหนึ่งของตนไว้  มองๆดูก็ยุ่งเหมือนกันครับ  ขอแนะนำว่า   อะไรจะเกิดให้มันเกิด  บางทีวิตกกลัวมากเกินไปเสียสุขภาพจิตเปล่าๆครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-09-28 14:54:11 IP : 203.172.199.254


ความคิดเห็นที่ 7 (639933)

 

ขอบคุณผู้เฒ่านะคะ

 

ปลงค่ะ

T_T"

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปัทมา วันที่ตอบ 2006-09-28 23:04:44 IP : 124.120.99.198



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.