ReadyPlanet.com


ขอใช้สิทธิ์เป็นผู้จัดการทรัพย์สินได้หรือไม่


ดิฉันจดทะเบียนสมรสกับสามี แต่พอมาประมาณ2 ปีที่ผ่านมาสามีไปยุ่งกับผู้หญิงอื่นและได้ออกจากบ้านไป ช่วงแรกๆ ก็มาดูแลบ้านบ้าง แต่ในระยะหลัง (เกือบ ปีครึ่ง) ไม่เคยกลับมาบ้านหรือถามไถ่เกี่ยวกับบ้านแต่อย่างไร ดิฉันกับลูกต้องดูแลเองและซ่อมแซมบ้านเองทุกอย่าง อยากถามว่า

1.  ดิฉันมีสิทธิ์ที่จะฟ้องขอเป็นผู้ดูแลจัดการเกี่ยวกับบ้านและทรัพย์สินอื่นๆ ภายในบ้านได้ด้วยตัวเองคนเดียวได้หรือไม่ คือดิฉันอยากจะให้คนอื่นเขาเช่า หรืออาจจะขายเลย เพื่อเก็บเงินไว้เลี้ยงดูแลลูก เพราะทุกวันนี้สามีจะใช้วิธีไม่ยอมส่งเงินค่าเลี้ยงดูลูกมาให้ โดยจะขอแลกกับใบหย่าซึ่งดิฉันยังไม่พร้อม (ลูกไม่ยอมให้หย่า และบอกว่าถ้าพ่อ-แม่หย่ากัน เขาจะเสียใจมากและจะไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะอายเพื่อนกับคุณครู ลูกอายุแค่ 8 ปี เป็นเด็กผู้ชาย)

2. ถ้าสามีไม่ยอมส่งเงินค่าเลี้ยงดูลูกมาให้เป็นเวลานานเท่าไร ถึงจะสามารถฟ้องร้องต่อศาลเรียกค่าเลี้ยงดูได้ เพราะเขาจะใช้วิธีอ้างว่าไม่มีเงินบ้าง เอาเงินไปซ่อมรถบ้าง เอาไปให้เลี้ยงดูญาติพี่น้องเขาบ้าง แต่ทั้งหมดนี้ไม่เคยมาเอื้อเฟื้อลูกเมียเลย และสิ่งที่เขาอ้างว่าเขาทำ เช่นซ่อมรถ (สินสมรส) ลูกและดิฉันก็ไม่เคยได้ร่วมใช้ประโยชน์ด้วยเลย

3. หากสามีอ้างว่าเงินเดือนดิฉันก็สามารถเลี้ยงลูกได้ โดยไม่ต้องพึ่งเขา เหตุผลนี้จะยกมาเป็นข้ออ้างในการฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูได้หรือไม่ (เงินเดือนเขามากกว่าดิฉัน 3-4 เท่า) และจะเป็นเหตุให้เขาไม่ต้องส่งเสียค่าเลี้ยงดูแก่ลูกได้หรือไม่ ศาลเขามีวิธีการพิจารณาอย่างไรเกี่ยวกับการส่งเสียค่าเลี้ยงดู ขอความรู้เรื่องนี้หน่อยนะคะ

4. หากสามีบอกว่า ถึงดิฉันไม่ยอมหย่าให้ในตอนนี้ ถึงเวลาเขาก็สามารถฟ้องขอหย่าเองได้ โดยเมื่อถึงเวลานั้นถึงดิฉันจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม เขาก็สามารถทำได้ ดิฉันอยากทราบว่าถ้าดิฉันไม่ยินยอม และอ้างถึงการที่เขาออกจากบ้านไปโดยดิฉันไม่ได้เต็มใจ (เขาแอบเก็บของออกจากบ้านไป และกลับมาขนออกไปอีกในขณะที่ดิฉันอยู่ แต่ดิฉันห้ามไม่ได้) เขาจะสามารถฟ้องหย่าดิฉันได้หรือไม่



ผู้ตั้งกระทู้ ผู้ต้องการความยุติธรรม :: วันที่ลงประกาศ 2006-04-26 16:19:59 IP : 203.146.6.86


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (454885)

ข้อ ๑. คุณมีสิทธิฟ้องศาลขอให้ คุณมีอำนาจจัดการสินสมรสทั้งหมด หรือสั่งให้แยกสินสมรส  ได้ หาก สามีคุณ

             (1) จัดการสินสมรสเป็นที่เสียหายถึงขนาด

             (2) ไม่อุปการะเลี้ยงดู คุณ

             (3) มีหนี้สินล้นพ้นตัว หรือทำหนี้เกินกึ่งหนึ่งของสินสมรส

             (4) ขัดขวางการจัดการสินสมรสของคุณ  โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

             (5) มีพฤติการณ์ปรากฏว่าจะทำความหายนะให้แก่สินสมรส

(ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1465 – 1493)

 

ข้อ ๒.และ ข้อ ๓. คุณมีสิทธิฟ้องศาลขอให้ศาลมีคำสั่งให้สามีคุณช่วยเหลือให้เงินค่าอุปการะเลี้ยงดู ตัวคุณและบุตรได้นะ .. โดยศาลจะพิจารณาจะความสามารถและฐานะของคุณ และสามี เพราะกฎหมายกำหนดให้ สามีภริยาต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐานะของตน และบิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดู และให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์

( ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1461 และ มาตรา 1564)

 

ข้อ ๓. ตามข้อเท็จจริงที่เล่ามา สามีคุณไม่มีสิทธิฟ้องหย่า นะ .. เพราะเหตุฟ้องหย่า คือ

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516  

             (1) สามีอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องหญิงอื่นฉันภริยาหรือภริยามีชู้อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

             (2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง

                 () ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง

                 () ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่ายที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ

                 () ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ

             อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

             (3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่นประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

             (4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปีอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

             (4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุกเกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิดหรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามีภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือนร้อนเกินควรอีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

            (4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปีหรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

              (5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปีโดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

             (6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตามสมควรหรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอาสภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้ 

             (7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมีลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

             (8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความประพฤติอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

             (9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่ายหนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรังไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้

             (10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกาย ทำให้สามีหรือภริยานั้นไม่อาจร่วมประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

 

นอกจาก ๑๐ ข้อนี้ .. ก้อไม่มีอำนาจฟ้องหย่านะ ..

 

ใช่ที่ต้องการไหมนะ

ผู้แสดงความคิดเห็น nor วันที่ตอบ 2006-04-26 21:34:43 IP : 203.153.174.93


ความคิดเห็นที่ 2 (455890)

ขอบคุณนะคะสำหรับคำตอบที่ได้รับเป็นประโยชน์มาก แต่ขอรบกวนเรียนถามเพิ่มเติม..

ในแต่ละข้อที่ดิฉันถามไว้ มีเรื่องขอเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมั้ยค่ะ เพราะดิฉันไม่แน่ใจอย่างเช่น ระยะเวลาในการที่สามีไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้ลูกขณะนี้ก็ประมาณ 3 เดือนแล้ว จะสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูได้เลยหรือไม่ หรือระยะเวลาในการที่สามีไม่กลับมาดูแลบ้านเลยจะต้องใช้เวลาประมาณเท่าไรถึงจะอยู่ในกฏเกณฑ์เงื่อนไขการฟ้องร้องต่อศาลได้เพื่อขอเป็นผู้จัดการสินสมรส

ช่วยรบกวนผู้รู้ช่วยตอบให้ด้วยนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้ต้องการความยุติธรรม วันที่ตอบ 2006-04-27 17:06:47 IP : 203.146.6.86


ความคิดเห็นที่ 3 (456983)
ข้อที่คุณถามเพิ่มเติมทั้งหมดนะ .. กฎหมายไม่ได้กำหนดเงื่อนเวลาไว้ว่า จะต้องนานเท่าใด เพียงกำหนดเงื่อนไขว่าจะต้องเข้าตามที่กฎหมายระบุ ..เพราะฉะนั้น คุณฟ้องได้เลย .. ทั้งค่าอุปการะคุณ และค่าเลี้ยงดูบุตร
ผู้แสดงความคิดเห็น nor วันที่ตอบ 2006-04-28 21:24:30 IP : 203.113.51.164



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.