ReadyPlanet.com


ใครเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถที่เช่าซื้อ !


ดิฉันและแฟนคบกันมาประมาณ 5-6 ปี   คบกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส โดยแฟนจะอาศัยอยู่ที่บ้านของดิฉันมาโดยตลอด เดิมดิฉันมีรถ 1 คัน เป็นรถมือสองที่ตนเองเป็นผู้ดาวน์รถเอง ส่วนแฟนช่วยผ่อนบ้าง รถคันนี้แฟนกับเพื่อนแฟนเป็นผู้ค้ำประกันให้ ต่อมาดิฉันก็ผ่อนรถดังกล่าวเรียบร้อยและรถก็เป็นกรรมสิทธิ์ของดิฉัน และเมื่อวันที่ 31/3/47 ดิฉันได้ขายรถนี้ไปกับนายหน้าคนหนึ่ง 140,000 บาท ซึ่งมีการทำสัญญากันที่บ้านของดิฉัน และรับเงินกันเรียบร้อยที่บ้าน หลักฐานดังกล่าวดิฉันมีเก็บไว้ไม่ได้ทิ้งไป พอวันรุ่งขึ้น วันที่ 1/4/47 ก็ไปถอนเงิน 25,000 บาท ที่ธนาคาร บัญชีของดิฉันเอง และมีเงินแฟนด้วยบางส่วน  เพื่อนำไปรวมกับเงินที่ขายรถันเก่า เป็นเงินดาวน์รถคันใหม่ ใบเสร็จรับเงิน(เงินดาวน์)ที่ออกโดยบริษัทขายรถก็เป็นชื่อของดิฉันและลายเซ็นต์ของดิฉันทั้งหมด ส่วนค่าใข้จ่ายที่เหลือ หลังหักเงินดาวน์ก็ทำสัญญาเช่าซื้อกับไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง ผ่อน 5 ปี โดยแฟนและเพื่อนแฟนเป็นผู้ค้ำประกันรถให้  ในขณะนั้นดิฉันกับแฟนก็ได้ทำธุรกิจโดยจด หจก.ร่วมกัน 2 คน โดยแฟนเป็นหุ้นสวนผู้จัดการ และรถคันดังกล่าวส่วนใหญ๋แฟนจะเป็นผู้นำไปใช้ในการติดต่อกับลูกค้า จึงได้ทำเป็นสัญญาเช่า ว่าดิฉันที่เป็นเจ้าของรถได้ให้ หจก.เป็นผู้เช่า และมีการลงชื่อผู้เช่า(ลงชื่อแฟน เนื่องจากเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ) และดิฉันเป็นผู้ให้เช่า ซึ่งค่าน้ำมัน ค่ายานพาหนะ และค่าบำรุงรักษา สามารถนำมาเป็นค่าใช่จ่ายของห้างได้ ในช่วงแรกการผ่อนชำระค่างวดรถจะเป็นเงินของดิฉัน ซึ่งมีการถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารของดิฉันชัดเจน ประมาณ 5 งวด เพื่อให้แฟนเป็นผู้ไปจ่ายที่ธนาคารให้และใบนำฝากจก็เป็นลายมือและลายเซ็นต์แฟน ซึ่งเมื่อได้รับใบเสร็จรับเงินจากไฟแนนซ์แล้ว ดิฉันก็ไม่ได้เก็บ ใบนำฝากเอาไว้ ส่วนงวดอื่นก็เป็นเงินของ หจก.ซึ่งในขณะนั้นเริ่มมีรายรับเข้ามาบ้างแล้ว รถคันนี้ยอมรับว่าตนเองไม่ค่อยได้ใช้เนื่องจากตนเองมีการประจำและที่ทำงานก็ใกล้บ้านสามารถเดินไปทำงานได้ จนกระทั่งเมื่อช่วงปลายปี 47 แฟนเริ่มไปมีหญิงอื่น จนมาวันหนึ่งวช่วง พ.ค.48 แฟนบอกว่าจะนำรถไปทำธุระ ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจเพราะเขาก็นำรถไปใช้อยู่แล้ว หลังจากวันนั้นตัวแฟนก็หายไปพร้อมกับรถหลายวัน ทราบภายหลังว่าไปอยู่ที่บ้านหญิงคนใหม่  หลังเกิดเรื่องจึงเข้าไปแจ้งความว่าได้ให้แฟนยืมรถไปแต่ไม่นำมาคืนเป็นหลักฐาน ซึ่งก็ได้มาเจรจากันที่โรงพักแต่แฟนไม่ยอมคืนรถให้อ้างว่าตนเป็นเจ้าของรถที่แท้จริง และเป็นคนผ่อนรถด้วยตัวเอง พร้อมบอกว่าใช้ชื่อดิฉันเป็นผู้เช่าซึ่อรถ  หลังจากที่แฟนเอารถไปเค้าก็เป็นคนผ่อนรถเองเพื่อสร้างหลักฐานว่าตนเป็นเจ้าของรถ แต่ใบเสร็จรับเงินจากไฟแนนซ์ก็ส่งมาให้ดิฉันตามที่อยู่ที่บ้านปกติและเป็นชื่อของดิฉัน อยากทราบว่า 1.ดิฉันสามารถฟ้องเอารถคืนได้หรือไม่  เนื่องจากในช่วงแรกที่ซื้อรถดิฉันก็มีหลักฐานว่าได้ขายรถคันเก่าไปจริง พอวันรุ่งขึ้นก็มีเงินที่ถอนออกจากบัญชีตรงกับวันที่ไปรับรถ และลายมือชื่อในใบที่รับรถก็เป็นลายมือดิฉัน เพียงแต่ว่าเอกสารดังกล่าวจะเก็บไว้ในสมุดคู่มือรถ ซึ่งติดไปกับรถ และเงินค่าผ่อนชำระ 5 ง วด ก็เป็นเงินที่ถอนออกจากบัญชีเงินฝากของดิฉัน ติดเพียงแต่ว่าใบนำฝากที่นำเงินไปชำระที่ธนาคารจะเป็นลายมือของแฟน ซึ่งตนก็ไม่ได้เก็บเอาไว้เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่อง แฟนสามารถเอา ใบนำฝากมาเป็นหลักฐานว่าเค้าเป็นคนจ่ายได้หรือไม่ 3. หลังจากที่เค้าเอารถไป และดิฉันได้ไปแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานไว้แล้ว เงินที่แฟนเป็นผู้ผ่อน จะถือว่าเค้าเป็นกรรมสิทธิรถหรือไม่ ถือว่าแฟนผ่อนเองตามอำเภอใจหรือไม่ เนื่องจากถ้าโดยตามหลักดิฉันซึ่งเป็นเจ้าของเช่าซื้อจะต้องเป้นผู้ชำระเอง แต่เค้าเป้นเพียงผู้คำประกันรถให้เท่านั้น 4.เนื่องจากดิฉันทำงานรับราชการเงินเดือนอาจไม่มากนักหากฟ้องเอารถคีนจะมีผลหรือไม่ว่าตนจะสามารถผ่อนรถได้เอง 5.ถ้าหากต้องฟ้องสามารถเอาเพื่อนบ้านมาเป็นพยานได้หรือไม่ว่าแฟนอยู่บ้านของดิฉันมาโดยตลอด รวมทั้งรถคันเก่าและคันใหม่ก่อนเกิดเรื่องก็อยู๋ที่บ้านของดิฉัน  และเหตุจูงใจที่แฟนเอารถไปเพราะเค้าไปมีหญิงอื่น 6.ถ้าฟ้องควรฟ้องคดีอะไร แพ่ง หรืออาญา และศาลจะตัดสินในรูปแบบใด เพราะกลัวว่าตนเองจะไม่ได้รับความยุติธรรมจากศาล(ดูหนังมากไป) 7.สามารถเอาสัญญาเช่ารถของ หจก.มาเป็นหลักฐานได้หรือไม่ เนื่องจากมีลายเซ็นต์แฟน  ช่วยไขข้อข้องใจด้วยคะ ดิฉันจะได้รีบดำเนินการ

 



ผู้ตั้งกระทู้ รุ่ง :: วันที่ลงประกาศ 2006-07-20 19:20:04 IP : 203.150.14.161


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (552695)

ใน เบื้องต้น รถ คันนี้ อยู่ระหว่างการผ่อนกับ ทาง บริษัท ไฟแนนท์ ตามสัญญาเช่าซื้อ ดังนั้น กรรมสิทธิยังคงเปนของผู้ให้เช่าซื้อ อยู่ครับ กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนไป จนกว่า จะมีการผ่อนชำระหมด และได้มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ , ดังนั้น ในสมุดคู่มือ จดทะเบียน จึงยังเป็นชื่อของ ผู้ให้เช่าซื้อ อยู่ครับ และระบุ ชื่อผู้เช่าซื้อ (หมายถึงคุณที่เป็นคู่สัญญาเช่าซื้อ) เป็นผู้ครอบครอง

การได้สิทธิในรถคันดังกล่าวนี้ไป ผู้เช่าซื้อ จะได้สิทธิ์ในรถไป เมื่อ ไม่ทำผิดเงื่อนไข ตามสัญญาเช่าซื้อครับ และชำระเงินครบถ้วน

แต่ กรณีของคุณตามปัญหาที่ถาม มา มีคำถามอยู่ว่า ระหว่างคุณ และแฟน ใครจะมีสิทธิครอบครอง ในรถยนต์ ดีกว่ากัน ซึ่งคงต้องพิสูจน์กันในศาล ครับ ว่า เงินที่ไปที่มา เป็นของใคร ตามข้อเท็จจริงที่เล่า มา คุณคงมีสิทธิดีกว่า เพราะเป็นผุ้เช่าซื้อเอง และยังมีหลักฐานทางการเงินอยู่

ดังนั้น ในเบื้องต้น หากได้รถยนต์คืนมา คงต้องฟ้อง เรียกคืน การครอบครอง เป็นคดีแพ่ง อาจจะต้องเสียเวลา และเสียค่าใช้จ่ายในการฟ้องคดี , ซึ่งบางทีอาจจะได้ผลไม่คุ้มกับที่ต้องเสียไปก็ได้ครับ

วิธีต่อมา ก็คือ ดำเนินคดีอาญา ฐานยักยอก ทรัพย์ กรณีนี้ คุณคงไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดยตรง ,อาจจะต้องติดต่อกับ บริษัทไฟแนนท์ ให้ มอบออำนาจให้แก่คุณในการดำเนินคดี ครับ เพราะ บริษัท ไฟแนนท์เป้นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ย่อมเป็นผู้เสียหายโดยตรง  แต่ คงไม่ต้องดำเนินคดีจริงๆ หรอรกครับแค่ ให้ตำรวจออกหมายเรียก มา หากเค้ายอมคืนรถดีๆ ก็ถอนแจ้งความก็ได้ครับ

1.ดิฉันสามารถฟ้องเอารถคืนได้หรือไม่  เนื่องจากในช่วงแรกที่ซื้อรถดิฉันก็มีหลักฐานว่าได้ขายรถคันเก่าไปจริง พอวันรุ่งขึ้นก็มีเงินที่ถอนออกจากบัญชีตรงกับวันที่ไปรับรถ และลายมือชื่อในใบที่รับรถก็เป็นลายมือดิฉัน เพียงแต่ว่าเอกสารดังกล่าวจะเก็บไว้ในสมุดคู่มือรถ ซึ่งติดไปกับรถ และเงินค่าผ่อนชำระ 5 ง วด ก็เป็นเงินที่ถอนออกจากบัญชีเงินฝากของดิฉัน ติดเพียงแต่ว่าใบนำฝากที่นำเงินไปชำระที่ธนาคารจะเป็นลายมือของแฟน ซึ่งตนก็ไม่ได้เก็บเอาไว้เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่อง แฟนสามารถเอา ใบนำฝากมาเป็นหลักฐานว่าเค้าเป็นคนจ่ายได้หรือไม่

ตอบ คุณสามารถฟ้องได้ครับ , สามี คุณจะอ้างยังไงก็ได้ เพียงแต่ว่าในการต่อสู้คดีกัน ก็สามารถพิสูจน์ที่มาที่ไปของเงินได้อยู่แล้วครับ

3. หลังจากที่เค้าเอารถไป และดิฉันได้ไปแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานไว้แล้ว เงินที่แฟนเป็นผู้ผ่อน จะถือว่าเค้าเป็นกรรมสิทธิรถหรือไม่ ถือว่าแฟนผ่อนเองตามอำเภอใจหรือไม่ เนื่องจากถ้าโดยตามหลักดิฉันซึ่งเป็นเจ้าของเช่าซื้อจะต้องเป้นผู้ชำระเอง แต่เค้าเป้นเพียงผู้คำประกันรถให้เท่านั้น

ตอบ การผ่อนชำระเงินค่าเช่าซื้อ จะมีหลักฐาน และมีการลงบัญชีไว้แน่นอนครับ ,สามารถพิสูจน์กันได้อยู่แล้ว ใครเป้นคนจ่าย และนำเงินมาจากไหน

 

 4.เนื่องจากดิฉันทำงานรับราชการเงินเดือนอาจไม่มากนักหากฟ้องเอารถคีนจะมีผลหรือไม่ว่าตนจะสามารถผ่อนรถได้เอง

ตอบ สามารถฟ้องได้เองครับ ,เป็นข้าราชการไม่เกี่ยวครับ ,เป็นข้าราชการ เค้ามีระเบียบเพียงว่า ถ้าหากถูกฟ้องต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเท่านั้นครับ ,ไม่ได้ห้ามฟ้องแต่อย่างใด

 5.ถ้าหากต้องฟ้องสามารถเอาเพื่อนบ้านมาเป็นพยานได้หรือไม่ว่าแฟนอยู่บ้านของดิฉันมาโดยตลอด รวมทั้งรถคันเก่าและคันใหม่ก่อนเกิดเรื่องก็อยู๋ที่บ้านของดิฉัน  และเหตุจูงใจที่แฟนเอารถไปเพราะเค้าไปมีหญิงอื่น

ตอบ ได้ครับ ,แต่ไม่จำเป็นหรอกครับ ,เพราะพยานเอกสารอื่นๆ มีเยอะแยะครับ

6.ถ้าฟ้องควรฟ้องคดีอะไร แพ่ง หรืออาญา และศาลจะตัดสินในรูปแบบใด เพราะกลัวว่าตนเองจะไม่ได้รับความยุติธรรมจากศาล(ดูหนังมากไป)

ตอบ ฟ้องได้ทั้งสองอย่างครับ เพียงแต่การฟ้องคดีอาญา คุณไม่ได้เป็นผู้เสียหายเท่านั้นครับ ,แต่ในคดีแพ่ง ถือได้ว่าคุณถูกโต้แย้งสิทธิ

 7.สามารถเอาสัญญาเช่ารถของ หจก.มาเป็นหลักฐานได้หรือไม่ เนื่องจากมีลายเซ็นต์แฟน

ตอบ ได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปมุข วันที่ตอบ 2006-07-26 23:17:47 IP : 58.136.3.106


ความคิดเห็นที่ 2 (4218942)

 อายุ19ชื้อรถยนต์ได้ป่าวคับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คมสัน วันที่ตอบ 2017-10-14 20:57:34 IP : 171.6.244.6


ความคิดเห็นที่ 3 (4224920)

 กรณีซื้อรถเป็นชื่อแฟน แฟนออกเงินดาวน์ และผ่อนมา3ปีกว่า แล้วเรามาผ่อนต่อที่เหลือ กรรมสิทธจะเป็นของใครคะ

ผู้แสดงความคิดเห็น กรุณาส่งความคิดเห็น (porpla_nana-at-hot-dot-com)วันที่ตอบ 2017-11-11 11:40:38 IP : 1.46.136.89


ความคิดเห็นที่ 4 (4328701)

 สอบถามข้อมูลคะ ดิฉันออกรถโดยใช้ชื่อแฟน เป็นผู้เช่าซื้อ แต่ว่าเงินดาวน์รถ 170,000 ดิฉันเป็นคนจ่ายเองทั้งหมดคนเดียว

อยู่กินกันมา 4-5 ปี (ซื้อรถปี 2016- วันที่ เมษายน 2019) ระหว่างก่อนออกรถมา ดิฉันเปิดร้านค้าขายของ จดทะเบียนการค้าเรียบร้อย ชื่อร้านเป็นของดิฉัน อำนาจการจ่ายเงินควบคุมบัญชี คือ ดิฉันเป็นคนผ่อนจ่ายค่างวดรถเองทั้งหมด เนื่องจากแฟน ลาออกจากงาน 

จนกระทั่งเศรษฐกิจไม่ดี แฟนได้เริ่มทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งได้นำรถยนต์ไปใช้และขอช่วยเราผ่อนเอง

จนกระทั้งผ่านไประยะ 4-5 เดือน ดิฉันจับได้ ว่าแฟนนอกใจมีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเอารถยนต์กลับมาใช้และส่งเอง

และได้ตัดสินใจแยกกันอยู่ ช่วงนี้เขาบอกจะรับผิดชอบจ่ายค่างวดรถเองเพราะเงินเดือนเขาสูงกว่า

จนเราทนไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตร่วมกับแฟนคนนี่อีก จึงเลิกลากัน เขาเอารถยนต์ไป อ้างสิทธื์ว่าเป็นผู้เช่าซื้อรถคันนี้ คุณไม่สิทธิ์

 

ดิฉันมีเรื่องสอบถามดังนี้

1. ดิฉันมีกรรมสิทธ์ในทรัพย์สินรถยนต์คันนี้หรือไม ?

2. ดิฉันสามารถฟ้องร้องขอเงินดาวน์รถที่จ่ายไปได้หรือไม ? 

3. ถ้าดิฉันขอรถคืนกลับมา ดิฉันจะมีความผิดหรือไม ?

ขอบคุณมากคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น Sumit วันที่ตอบ 2019-09-04 16:04:23 IP : 172.22.64.117



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.