ขอแนะนำตัวก่อนว่า  เป็นคนที่ตกงานจากเหตุการณ์ฟองสบู่แตกเมื่อกลางปี 2540

บริษัทเก่าจ่ายเงินชดเชยมาก้อนหนึ่ง  จึงย้ายกลับไปค้าขายเป็นของตัวเองที่บ้านเกิดที่ ตจว.

[       กลับไปตายรัง, กลับบ้านเก่า, กลับไปเกาะ(พ่อ-แม่) ฯลฯ สุดแท้แต่จะเรียก     ]

ต้องย้ายครอบครัวไปอยู่ ตจว ด้วย  ทุกคนต้องปรับตัวกันนานพอสมควร 

สำหรับผมปรับตัวไม่นานก็รับสภาพได้  เพราะเป็นคนท้องที่  แต่ลูกเมียสิ  อดสงสารพวกเค้าไม่ได้

ไม่นานพรรคพวกเก่า ๆ เข้ามาตีซี้  ซื้อของเชื่อบ้าง  เช่าซื้อ(โทรศัพท์มือถือ)บ้าง  ***้เงินโดยมีความเป็นเพื่อนเก่าเป็นเครดิตบ้าง ***้เงินโดยนำหลักทรัพย์มาไว้บ้าง(ที่ทั้งจำนอง-ทั้งยึดไว้โดยไม่จำนอง-ทะเบียนรถ)บ้าง  ฯลฯ  มาตอนนี้เริ่มออกลายเบี้ยวกันแล้ว ! ! !

ผมกลุ้มใจมากเงินก้อนสุดท้ายที่บริษัทจ่ายชดเชยมาต้องถูกเพื่อน ๆ โกง

ผมจะทำอย่างไรกับพวกเค้าดีครับ

อยากปรึกษากับท่านผู้รู้กฎหมายทั้งหลาย    ....ได้โปรดชี้ทางสว่าง.... ได้โปรดให้คำแนะนำปรึกษาด้วย

ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร  เพราะโดนเบี้ยวหลายสิบราย

รายละเล็ก ๆ น้อย ๆ  3,000;   5,000;   10,000 ฯลฯ ถ้าฟ้องร้องก็ไม่คุ้มค่าทนาย ค่าเสียเวลา ฯลฯ

แต่พวกเค้าทำกับผมได้  เหมือนกับตั้งใจมาโกงโดยเฉพาะ

ที่คิดว่าพวกเค้าตั้งใจมาโกงก็เพราะ  การประพฤติ  การปฏิบัติตัวของพวกเค้ามันส่อมาก ๆ

เพราะ พวกเค้ามีข้าวของเครื่องใช้ฟุ่มเฟือยใช้กัน  โดยไม่คิดถึงหัวอกของเจ้าของเงินบ้างเลย

ทั้งโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่,  โทรทัศน์เครื่องใหม่,  รถ จยย. คันใหม่ ฯลฯ

แต่หนี้เงิน***้ที่***้ยืมผมไป  ทำเป็นนิ่งเสียนี่ ! ! !

เห็นข่าวที่ลงว่า เจ้าหนี้เงิน***้นอกระบบโหด***ม 

ผมเพิ่งถึงบางอ้อว่า  เป็นไปได้ที่จะต้องโหด***มกับพวกเค้าที่คิดจะโกง

พอเจ้าหนี้เค้าเอาจริงก็มาร้องแรกแหกกระเชอเอากะสื่อสารมวลชนทั้งหลาย

ผมไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง  ผมไม่ได้ปั๊มเงินได้เองอย่างที่รัฐบาลเค้าเป็น

รัฐบาลเค้าหว่านเงินให้รากหญ้าได้  เพราะเค้าปั๊มเงินได้เองนี่

แต่ผมมีเงินก้อนสุดท้ายนี้แหละ  ผมจะเรียกคืนจากพวกขี้โกงทั้งหลายนี่ยังไงกัน

ผมจะแจ้งความที่โรงพักในข้อหา “ฉ้อโกง”   เพื่อดำเนินคดีอาญาได้หรือเปล่าครับ

เหตุผล คือ หลังจาก***้เงินไปแล้ว  ไม่ส่งดอก  ไม่ส่งต้น แต่ในบ้านมีข้าวของเครื่องใช้มีราคาเพิ่มขึ้น

รถ จยย. คันเก่าจอดทิ้งไว้(สมุดเล่มทะเบียนรถให้ผมยึดไว้)  แต่ออกรถคันใหม่มาขี่โฉบเฉี่ยวไปมา

บางราย  ***้เงินไปแล้ว  หรือเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือไปแล้ว  ก็โยกย้ายที่อยู่ตามตัวไม่พบหายเงียบไปเลย

รู้จากเพื่อนบ้าน-ญาติพี่น้องว่า โยกย้ายไป จังหวัดอื่นบ้าง ไปอยู่ กทม. บ้าง

ฯลฯ

เพื่อนสนิทบางคน  เอาสมุดบัญชีเงินเดือนพร้อมใบถอนเงินที่ลงชื่อพร้อมบัตรประชาชนและบัตร ATM ให้ยึดไว้เพื่อไปถอนเงิน  แต่เพื่อนก็เล่นไม่ซื่อ  ไปแจ้งความสมุดหาย  ให้ธนาคารออกสมุดเงินฝากให้ใหม่(เพิ่งโดนมาหมาด ๆ เลย)  ในสัญญา***้ได้ให้เพื่อนกรอกข้อมูลด้วยลายมือตัวเค้าเองว่า ได้มอบสมุดธนาคารพร้อมบัตร ATM และบัตรประชาชนไว้เพื่อใช้ถอนเงินออกจากบัญชีมาชำระหนี้

องค์ประกอบเหล่านี้เพียงพอที่จะแจ้งความดำเนินคดีอาญาในข้อหาฉ้อโกงได้หรือไม่

อยากเรียนปรึกษารายละเอียดเป็นราย ๆ ไป  แต่เกรงว่าท่านผู้รู้ทั้งหลายจะรำคาญ

เพราะยอดหนี้เงิน***้แต่ละรายไม่ได้มากมายอะไร

[   หากแต่รวม ๆ กันเข้า(ที่ไป***้จากผม) ก็มาก      ]

ตอนนี้ผมขาดสภาพคล่องทางการเงิน  ไม่รู้จะปรึกษาใคร  อายเพื่อนบ้าน

เรียนสูง ทำงานบริษัทที่ชาวบ้านเค้าเชื่อถือ มีประสบการณ์ และอยู่ในที่ที่เจริญกว่ามาก่อน

แต่มาถูกเพื่อน และชาวบ้านที่ความรู้น้อยกว่า “โกง”

ขอกราบขอบพระคุณท่านผู้รู้ทั้งหลายล่วงหน้า  ที่กรุณาให้คำปรึกษาแนะนำ