จดห้างหุ้นส่วนจำกัดกับแฟน เมื่อ 26 มิย47 โดยใช้ที่อยู่ของพี่สาวของดิฉันที่ต่างจังหวัดเป็นที่อยู่หจก. แฟนลงหุ้น 700,000 บาท ตัวดิฉัน 300,000 บาท ข้อจำกัดของหจก.ไม่มี  แฟนเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ และเป็นผูติดต่อหางานประสานงานกับลูกค้าส่วนตัวดิฉันเป็นคนทำเอกสารของห้าง เช่น ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ และใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น และเป็นคนทำบัญชีของหจก. ซึ่งมีการลงทะเบียนเป็นผู้จัดทำบัญชีไว้เรียบร้อยที่สมาคมผู้จัดทำบัญชี ช่วงที่ดำเนินการไม่ได้ตั้งบัญชีเงินเดือนระหว่างกัน เงินที่ลงหุ้น  1 ล้านครั้งแรกที่จด หจก.ก็เป็นหุ้นลม  แต่ในทางบัญชีดิฉันได้บันทึกเป็นเงินสดไว้แล้ว ณ วันเริ่มกิจการ ต่อมาดิฉันก็***้เงินมาลงทุนในห้างประมาณ 80,000 บาท พอมีรายรับเข้ามาก็ใช้เงินในหจก.เป็นเงินหมุนเวียนในห้าง หจก.มีการเปิดสมุดบัญชีออมทรัพย์ และให้อำนาจแฟนเป็นผู้ไปเปิดสมุดบัญชี ดังนั้นเมื่อมีเงินเข้ามาใน หจก.แฟนจะเป็นผู้ถอนเงินได้เพียงคนเดียว และยอมรับว่าตนเองไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวตัวเงินนั้นเลย เนื่องจากไว้ใจเพราะคบหากันเป็นแฟนมานาน 5-6 ปี ต่อมาในช่วงปลายปี 47 แฟนได้นอกใจไปมีหญิงอื่น จนกระทั่งวันที่ 18 พ.ค.48 แฟนได้แอบไปคัดชื่อของดิฉันออกจากการเป็นหุ้นส่วน ที่ทราบเพราะตนสังหรณ์ใจจึงได้ไปขอตรวจสอบที่กรมทะเบียนการค้าที่สนามบินน้ำ พบว่าเป็นเอกสารคำขอจดทะเบียน หส.1 และ หส.2 ในนั้นมีข้อความขอเปลี่ยนที่อยู่ของห้างใหม่ เป็นที่อยู่ของบ้านผู้หญิงคนใหม่ และขอลดหุ้นส่วนออก 1 คน และเพิ่มหุ้นใหม่ 1 คน และในแบบ หส.1 อ้างว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นไปตามสัญญาผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2548 ทั้งที่ดิฉันไม่มีส่วนรับรู้ในสัญญาที่แฟนกล่าวอ้างอีกทั้งวันนั้นดิฉันก็ไปทำงานประจำของตนเองตามปกติ ในนั้นยังมีข้อความบอกว่าถ้าผู้ขอเปลี่ยนแปลงให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่ จะมีความผิดตามอาญามาตรา....... ท้ายเอกสาร หส.1 ลงชื่อแฟน และ หส.2 ลงชื่อห้นส่วนใหม่ งบการเงินดังกล่าวดิฉันก็จัดทำจนเสร็จและรับรองโดยผู้สอบบัญชี ส่วนเงินในห้างที่นำมาลงหุ้นในห้างมากไปก็บันทึกบัญชีไว้เป็นเงินให้***้ยืมกรรมการ (ซึ่งก็ให้แฟนเป็นผู้รับ***้ตรงนั้นไป 1,000,000 บาท ส่วนช่วงเม.ย.-พ.ค.48 ก็มีรายได้เข้า หจก.พอสมควร แต่ดิฉันไม่เคยได้ยุ่งเกี่ยวตรงนั้นเลย แถมมาถูกคัดชื่อออกจาก หจก. รวมทั้งตนก็***้เงินจากที่อื่นมาลงทุนในห้างอีก อยากถามคุณปมุขว่า  1.หุ้นส่วนผู้จัดการสามารถคัดชื่อของดิฉันออกจากการเป็นหุ้นส่วนได้เองหรือไม่  2.ดิฉันสามารถฟ้องร้องเรียกค่าหุ้น 300,000 บาท และผลกำไรของห้างคืนได้หรือไม่ ทั้งที่ความเป็นจริง ณ วันจดหจก. เงิน 1,000,000 บาท เป็นเพียงหุ้นลม มีเพียงเงินของดิฉันที่นำมาลงทุนในหจก.ภายหลังบางส่วน 80,000 บาท 3.การที่อ้างว่าเป็นไปตามสัญญาผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคน คำว่าทุกคน หมายถึงใคร 4.สามารฟ้องผู้เป็นหุ้นส่วนและหุ้นส่วนคนใหม่ว่าให้การเท็จต่อนายทะเบียนได้หรือไม่ และถือว่าเป็นผู้ปลอมแปลงเอกสารได้หรือไม่ 5.กรณีนี้ถ้าผิด จะผิดอาญาและแพ่งในมาตราใด 6.สามารถฟ้องให้ปิดห้าง และชำระบัญชีได้หรือไม่  7.อายุความของคดีนี้มีอายุเท่าใด       ช่วยตอบด้วยนะคะ