[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
การยืมเงิน การซื้อขายที่ดิน | |
ผม***้เงินจากเจ้าหนี้จำนวน 70,000 บาทโดยไม่มีสัญญา***้ยืม เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน
***้มาเป็นเวลา 14 ปี และได้จ่ายไปหล้าสุดในปี 2545 จำนวน 210,000 บาท(ไม่มีหนังสือเช่นกัน)
แต่เจ้าหนีไม่ยอม ได้ทำสัญญาขึ้นมาใหม่เป็นการซื้อขายที่ดิน จำนวน 1 ไร่ 2
งานโดยคิดจากเงินที่เหลือค้างชำระโดยไม่ได้จ่ายเป็นเงินสด ด้วยความกลัวในอิทธิพล
ผมจึงจำเป็นต้องเซ็นต์ลงนามผู้***้ แต่สัญญาก็ไม่ได้ระบุเลขที่โฉนด ไม่ได้ติดอากรแสตมป์ ไม่มีสำเนาโฉนด และสำเนาบัตรประจำตัวทะเบียนบ้านของทั้ง 2 ฝ่าย
และไม่ได้ทำต่อหน้าเจ้าหน้าที่ที่ดิน โฉนดที่ดินติดจำนอง ธกส.
ผมคิดว่าเจ้าหนี้เอาเปรียบมากเกินไป ผมคงจะต่อสู้ตามกระบวนการตามกฎหมายผมขอถามว่า
1.เมื่อสัญญาซื้อขายมูลเหตุ มาจากการ***้ยืมเงินโดยที่ไม่มีสัญญาและลงลายมือชื่อผู้***้
มีแต่สมุดบันทึกของเจ้าหนี้ ถึงวันเวลา ที่เอาเงินและจ่ายเงินเท่านั้น
สามารถที่จะฟ้องร้องตามกฎหมายได้หรือไม่
2.สัญญาซื้อขายลงนามชื่อผู้ขายคือสามี(กระผม) แต่คู่กรณีเป็นภรรยากับเจ้าหนี้
ภรรยาไม่ทราบว่ากระทำกันตอนไหน แต่เจ้าของที่ดินคือภรรยา(ไม่ใช่สินสมรส ) มีผลทางกฎหมายอย่างไร
3.สัญญาชื้อขายเป็นเอกสารสำเนา(ไม่ใช่ฉบับจริง)ฉบับจริงเจ้าหนี้เอาไปหายเหลือสำเนา สามารถนำไปฟ้องร้องได้หรือไม่
4.เมื่อเจ้าหนี้มาเก็บผลผลิตจากที่ดิน(ลำใย, ฝรั่ง)ผมได้บอกไม่ให้เข้ามาแต่เจ้าหนีก็ยังเข้ามาอีก ผมสามารถแจ้งความบุกรุก(อาญา)ได้หรือไม่ครับ
5.สัญญาซื้อขายฉบับสำเนา สามารถนำไปแนบกับใบคำฟ้องได้หรือไม่ครับ
6.อายุความของสัญญาซื้อขายกี่ปีครับ
7.การฟ้องบุกรุกทางแพ่งกรณีของผมทำได้หรือไม่ ทำอย่างไรครับ แตกต่างจากแจ้งบุรุกอาญาอย่างไร(ขอความกรุณายกกรณีด้วยครับ)
8.กรณีของผม ขอความกรุณาตอบให้ผมทราบด้วยครับ ผมต้องทำอย่างไรบ้างครับ ขอบคุณครับ
| |
ผู้ตั้งกระทู้ สุนทร :: วันที่ลงประกาศ 0000-00-00 00:00:00 IP : |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (35346) | |
ฟังดูแล้ว น่าจะเป็นเรื่องนิติกรรมอำพรางครับ คือ ต้องการทำสัญญา***้กัน แต่มาทำสัญญาซื้อขายที่ดินกันเพื่ออำพรางการ***้เงิน สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะ ครับ เพราะเป็นนิติกรรมอำพราง และสัญญา***้ไม่ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือ เจ้าหนี้ก็ฟ้องไม่ได้อยู่ดีครับ เพราะทำไม่ถูกตามที่กฎหมายกำหนดไว้ 1.เมื่อสัญญาซื้อขายมูลเหตุ มาจากการ***้ยืมเงินโดยที่ไม่มีสัญญาและลงลายมือชื่อผู้***้ มีแต่สมุดบันทึกของเจ้าหนี้ ถึงวันเวลา ที่เอาเงินและจ่ายเงินเท่านั้น สามารถที่จะฟ้องร้องตามกฎหมายได้หรือไม่ ตอบ สัญญาซื้อขาย เป็นนิติกรรมอำพรางครับ ตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลผูกพัน หรือก่อให้เกิดสิทธิใดๆ ครับ 2.สัญญาซื้อขายลงนามชื่อผู้ขายคือสามี(กระผม) แต่คู่กรณีเป็นภรรยากับเจ้าหนี้ ภรรยาไม่ทราบว่ากระทำกันตอนไหน แต่เจ้าของที่ดินคือภรรยา(ไม่ใช่สินสมรส ) มีผลทางกฎหมายอย่างไร ตอบ ไม่มีผล เป้นโมฆะครับ เพราะ คุณไม่ได้มีเจตนาที่จะผุกพันตามสัญญาจะซื้อจะขาย นี่ครับ 3.สัญญาชื้อขายเป็นเอกสารสำเนา(ไม่ใช่ฉบับจริง)ฉบับจริงเจ้าหนี้เอาไปหายเหลือสำเนา สามารถนำไปฟ้องร้องได้หรือไม่ ตอบ ฟ้องไม่ได้ครับ 4.เมื่อเจ้าหนี้มาเก็บผลผลิตจากที่ดิน(ลำใย, ฝรั่ง)ผมได้บอกไม่ให้เข้ามาแต่เจ้าหนีก็ยังเข้ามาอีก ผมสามารถแจ้งความบุกรุก(อาญา)ได้หรือไม่ครับ ตอบ ได้ครับ เป้นทั้งบุกรุก ,ลักทรัพย์,ทำให้เสียทรัพย์ด้วยครับ 5.สัญญาซื้อขายฉบับสำเนา สามารถนำไปแนบกับใบคำฟ้องได้หรือไม่ครับ ตอบ แนบได้แต่ไม่มีผลครับ 6.อายุความของสัญญาซื้อขายกี่ปีครับ ตอบ กรณีไม่มีปัญหาเรื่องอายุความครับ เพราะสัญญาซื้อขายเป้นโมฆะ , โดยทั่วไปสัญญาซื้อขายมีหลายกรณี ครับ เช่น เรียกเงินคืน ก็สิบปี ,เรียกให้บังคับตามสัญญาซื้อขายก็สิบปี ,เรียกเงินค่าซื้อที่ดินก็ สองปี ฯลฯ ต้องถามมาเป็นกรณีเฉพาะจะดีกว่า 7.การฟ้องบุกรุกทางแพ่งกรณีของผมทำได้หรือไม่ ทำอย่างไรครับ แตกต่างจากแจ้งบุรุกอาญาอย่างไร(ขอความกรุณายกกรณีด้วยครับ) ตอบ การฟ้องบุกรุกในทางแพ่ง เค้าเรียกว่า "ละเมิด" ครับ การกระทำโดยละเมิดคือ การทำให้ คนอื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งผู้เสียหายก็มีสิทธิได้รับค่าเสียหาย หรือค่าสินไหมทดแทน ตามที่พิสูจน์ได้ แต่การฟ้องละเมิดต้องฟ้องภายในกำหนด๑ ปี นับแต่รู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระทำนะครับ การบุกรุกในคดีอาญา นั้น คือการกระทำผิดกฎหมายอาญา โดยเค้าไปในอสังหาริทรัพย์ของคนอื่น เพื่อรบกวนการครอบอสังหาริมทรัพย์ เป็นการกระทำความผิด ซึ่งกฎหมายเอาโทษ ครับ จะไม่เกี่ยวกับเรื่องค่าเสียหาย แต่ต้องดำเนินคดีภายใน สามเดือน นับแต่รู้เรื่องรู้ตัวนะครับ 8.กรณีของผม ขอความกรุณาตอบให้ผมทราบด้วยครับ ผมต้องทำอย่างไรบ้างครับ ขอบคุณครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปมุข 0-1820-2236 วันที่ตอบ 2005-01-11 18:32:00 IP : |
ความคิดเห็นที่ 2 (3016536) | |
คืออยากสอบถามว่า ถ้าการซื้อขายที่ดินที่มีสัญญาซื้อขายแต่โฉนดที่ดินของผู้ขายยังติดจำนองกับธกส.อยู่ แต่ผู้ขายได้เขียนไว้ในสัญญาซื้อขายว่าถ้ามีการไถ่ถอนที่ดินจากธกส.แล้ว จะแบ่งแยกที่ดินให้แก่ผู้ซื้อ และผู้ซื้อได้ทำประโยชน์กับที่ดิน(ทำนา)ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ได้ทำสัญญาซื้อขาย แต่เมื่อผ่านไป 13 ปี ผู้ขายก็ได้บอกขายที่ดินให้กับนาย ค.ทั้งผืน(รวมกับส่วนที่ทำสัญญากับซื้อขายกับเจ้าหนี้คนเก่าด้วย) เมื่อเป็นดังนี้ 1.ผู้ซื้อ(นาย ก.) สามารถฟ้องร้องผู้ขาย(นาย ข.) ได้หรือไม่ 2.นาย ค.ไม่รับทราบเมื่อผู้ซื้อคนเก่า(นาย ก.) ไปแจ้งเรื่องสัญญาซื้อขายที่มีภาระผูกพันกับผู้ขาย(นาย ข.) นาย ค.มี ความผิดหรือไม่ 3.จะดำเนินการอย่างไรกับ นาย ข. ได้หรือไม่ แล้วสัญญามีผลบังคับกี่ปี หมดอายุความหรือยัง 4.ที่ดินทั้งหมดมี 9 ไร่ มีการทำสัญญาซื้อขายระหว่าง(นาย ก.ผู้ซื้อ) กับ (นาย ข.ผู้ขาย) เป็นจำนวน 2 ไร่ แต่ยังไม่ได้แบ่งแยกโฉนด และเมื่อเวลาผ่านไป (ผู้ขาย นาย ข.) ได้บอกขายที่ดินให้แก่ นาย ค. ทั้งหมด ดังนั้น นาย ข. มีความผิดใช่ไหมค่ะ จะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง รบกวนช่วยตอบคำถามด้วยนะค่ะ เด็กช่างสงสัย
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กช่างสงสัย (homhual-at-sanook-dot-com)วันที่ตอบ 2009-06-03 16:05:19 IP : 192.231.130.1 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3017406) | |
อยากสอบถามว่า เกี่ยวกับการฟ้องร้องเรื่องที่ดิน นาย ก และ นาย ข ได้รับมรดกจากที่ดินแปลงหนึ่งจากมารดาแต่ชื่อในโฉนดเป็นชื่อของนาย ก คนเดียว แต่ทั้ง 2 คน ได้ตกลงกันแล้วว่าที่ส่วนไหนเป็นของใครแต่ยังมิได้ทำการเปลี่ยนชื่อในโฉนด ต่อมานาย ข ได้ทำการขายที่ดินในส่วนของตนให้แก่นาย ค ซึ่งเป็รหลานโดยมิได้ทำสัญญาซื้อขาย แต่การซื้อขายได้มีการชำระเงินค่าที่ดินทั้งหมดตามที่ตกลงกันเรียบร้อยและได้ทำการโอนโฉนดที่ดินส่วนที่ตกลงซื้อขายให้เป็นชื่อของนาย ค แล้ว แต่ต่อมาไม่กี่ปี นาย ก ก็จะทำการวัดแบ่งที่ดินโดยให้เจ้าหน้าที่มาทำการรังวัด โดยที่นาย ก จะขอที่ดินบาวส่วนเพิ่มจากนาย ค แต่ นาย ค ไม่ยอม โดยนาย ค ให้ทำการวัดตามที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก นาย ก จึงไม่พอใจจึงจะทำการฟ้องร้องเรียกร้องที่ดินคืนโดยถือว่าตัวเองเป็นเจ้าของที่ตั้งแต่แรก ไม่ใช่นาย ข ถ้าเป็นอย่างที่กล่าวมา การฟ้องร้องน่าจะมีผลออกมาอย่างไรค่ะ นาย ค จะมีความผิดอะไรหรือไม่และยังจะมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินอยู่หรือที่ดินจะต้องตกเป็นของนาย ก เหมือนเดิมค่ะ ขอความกรุณาช่วยตอบหน่อยน่ะค่ะ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เสียเปรียบ (sukan_jum26-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-06-05 12:57:55 IP : 117.47.174.168 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3309709) | |
อยากถามผู้รู้เรื่องกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินครับ ตอนนี้เหมือนกับจะโดนโกงเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดีครับ ความมีอยู่ว่า --- นาย ก ไปซื้อที่ดินกับนาย ข โดยนาย ข มีโฉนดที่ดินครอบครอบครองอย่างถูกต้อง และทำการแบ่งขาย จำนวน 9 แปลง ซึ่งนาย ก เป็นผู้ซื้อคนหนึ่ง ในจำนวนที่ดิน 1 แปลงย่อยของ 5 แปลงย่อย จาก 1 แปลงใหญ่ (แบ่งออกเป็น 5 แปลงย่อย) จากที่ดิน 9 แปลง และที่ดินที่ 8 แปลงที่เหลือ มีการซื้อขายด้วยเช่นกัน โยมีการโอนไปแล้ว 4 แปลง ที่เหลือยังไม่โอนให้กับผู้ซื้อ (รวมทั้งแปลงที่ นาย ก ซื้อด้วย) --- การซื้อขายของนาย ก กับ นาย ข มีเอกสารสัญญาการซื้อขายและมีชื่อ ลายเชนต์ ของผู้ซื้อ ผู้ขาย โดยที่ผู้ขาย นาย ข บอกในสัญญาว่า จะมีการโอนที่ดินภายในอีก 3 ปี หลังจากวันที่ซื้อ (จ่ายเงิน) โดยในวันที่ซื้อให้จ่ายเงิน 3/2 ของราคา และนาย ก ผู้ซื้อได้จ่ายไปแล้ว เมื่อครบ 3 ปี จะจ่ายส่วนที่เหลือ เมื่อเวลาผ่านไปครบ 3 ปี นาย ข ผู้ขาย บอกกับนาย ก ผู้ซื้อว่า ดังนี้ ไม่สามารถโอนที่ดินให้กับ นาย ก ได้ แต่นาย ก สามารถมาปลูกบ้าน หรือใช้ประโยชน์จากที่ดินได้ทุกอย่าง เสมือนผู้ครอบครองที่ดิน แต่ตอนนี้ไม่สามารถโอนที่ดิน แปลงย่อยนี้ได้ ต้องรอไปอีก 3 ปี โดยนาย ข อ้างว่า เนื่องจากมีการแบ่งขายที่ดินเป็น 9 แปลงใหญ่ไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถทำการโอนแบ่งขายที่ดินย่อยได้ ถ้าจะมีการโอนต้องรอไปอีก 3 ปี แต่ตอนนี้ นาย ก ต้องการจะโอนที่ดิน และมีเงินพร้อมที่จะจ่ายส่วนที่เหลือ จากผลดังกล่าว อยากถามว่า 1. นาย ข โกงนาย ก หรือไม่ คือ นาย ข ไม้ต้องการโอนที่ดินให้กับนาน ก เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการเสียภาษาที่ดินในการโอน และภาษีเงินได้จากการขาย เนื่องจากนาย ก กับ ข ไม่ได้โอนแบบที่ดิน มรดก 2. เป็นจริงหรือไม่เกี่ยวกับข้อกฎหมายที่ว่า เมื่อมีการแบ่งขายที่ดิน เกิน 9 แปลงแล้ว สามารถโอนขายได้ แต่ถ้ามีการแบ่งขายออกอีกเป็นแปลงย่อยๆ จากแปลงใดแปลงเนื่องใน 9 แปลง แล้ว ถ้าต้องการโอนซื้อขาย จะต้องรอไปอีก 3 ปี จึงสามารถทำได้ 3. นาย ก ต้องการจะโอนซื้อขายที่ดินแปลงย่อยที่ซื้อจากนาย ข ในตอนนี้ ซึ่งจะเข้าปีที่ 4 ของการทำสัญญาซื้อขายแล้ว สามารถทำการโอนได้ตามกฎหมายหรือไม่ 4. นาย ก สามารถฟ้องนาย ข ได้หรือไม่ว่า ทำผิดสัญญาซื้อขาย โดยหลีกเลี่ยงการซื้อขายและโอน (แต่ภายในสัญญาซื้อขายบอกว่า ถ้านาย ข ผู้ขาย ทำผิดสัญญา ยินดีเสียค่าปรับเป็นเงิน 10,000 บาทให้นาย ก แต่นาย ก ผู้ซื้อจะต้องคืนที่ดินให้กับนาย ข ผู้ขาย โดยนาย ข ต้องคืนเงินส่วนที่นาย ก จ่ายไปแล้วให้กับนาย ก) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น อาจถูกโกง (krapangpangchem-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2013-04-22 06:25:08 IP : 49.48.116.51 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3640906) | |
อยากสอบถามเรื่อิงการซื้อขายที่ดินครับ คือซื้อที่ดินกับเจ้าของที่ซึ่งเจ้าของที่บอกว่า เป็นที่ บท.5 พอจ่ายเงินแล้วปรากฏว่า เป็นที่ราชพัสดุ เราสามารถฟ้องร้องเอาเงินคืนได้ไหมครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น นายสงคราม ศาสตร์พงษ์ วันที่ตอบ 2014-05-17 21:33:58 IP : 223.205.248.27 |
ความคิดเห็นที่ 6 (3640908) | |
อยากสอบถามเรื่อิงการซื้อขายที่ดินครับ คือซื้อที่ดินกับเจ้าของที่ซึ่งเจ้าของที่บอกว่า เป็นที่ บท.5 พอจ่ายเงินแล้วปรากฏว่า เป็นที่ราชพัสดุ เราสามารถฟ้องร้องเอาเงินคืนได้ไหมครับ โดยการซื้อขายมีสัญญาซื้อขายที่ ถ้าฟ้องกรณีใดครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น Songkram satpong วันที่ตอบ 2014-05-17 21:40:19 IP : 223.205.248.27 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3646639) | |
ดิฉันไปขอยืมเงินกับเพื่อนแม่ครั้งแรก 40000 บ. ตกลงกันดอกเบี้ยร้อยละ 3บ. ต่อเดือนต่อมาขอยืมอีก 20000บ. เพื่อไปไถ่ที่บ้าน เขาเลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นจะไปไถ่ที่บ้านให้เองแแต่ต้องเอาที่มาใว้กับเขาแล้วเขาจะให้เงินเพิ่ม เราก็เลยยอมพอไปไถ่ที่อกกมาแล้วก็เลยมาคุยเรื่องว่าจะให้เงินเราเพิ่มอีกแต่ต้องทำขายฝากนะ ที่แรกเราก็ไม่อยากทำเขาบอกว่าไม่เป็นไรทำใว้เป็นหลักฐานว่าเราใด้ยืมเงินเขาจริงไม่ต้องกลัวเขาไม่เอาหรอกเราก็เชื่อใจเขาเพราะก็เป็นคนหมู่บ้าเดียวกันก็เลยไปที่กรมที่ดินทำการขายฝากใว้ 1ปีเขารับปากทั้งเราและแม่ว่าอยู่ไปกูไม่เอาของหรอกทำไว้เป็นหลักฐานเฉยๆมีเงินเมื่อไหร่ค่อยมาไถ่ จากนั้นเราก็พอมีเงินแล้วก็ไปขอไถ่คืนเขากลับบ่ายเบี่ยงบอกว่าอยู่ไปเดือดร้อนอะไรฉันไม่เอาหรอกเขาบ่ายเบี่ยงตลอดจนครบกำหนดเขาก็มาบอกว่าไม่ให้คุยเรื่องไถ่เขาจะขายคืนให้เราในราคา 580000บ. เรากฌขอร้องเขาก็คุยติดต่อเขาขอลดเขาบอกว่ามีเงินค่อยมาคุย เขาพูดว่า ." กูไม่ให้ไถ่มันเป็นของกูแล้วกูจะขาย ถ้าอย่างนั้นก็ไปฟ้องเอา" ตอนนี้เรื่องก็ถูกฟ้องศาลแล้วคะ อยูในชั้นสืบพยาน หนูอยากทราบว่าต้องทำอย่างไรบ้างคะ ขอบคุณคะ่ รวมเงินที่ใด้รับจริงทั้งหมดทั้งคร้องแรกทั้งไถ่ที่เขารวมหนี้เก่าของพอกับแม่ด้วยซึ่งเป็นกันมานานมากๆแล้วและก้อนสุดท้ายที่ใด้รับ 82000บ. แต่เขาบอกว่าให้ทำขายฝากใว้100000บ. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ยุพินพร วันที่ตอบ 2014-05-28 10:32:59 IP : 182.52.237.114 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1087888 |