ReadyPlanet.com


บ่อยไหม


ล้มคดี เป่าคดี มีทำกันบ่อยไหม ทำไมดาราขับรถชนคนตายไม่เห็นโดนจับเลย ทั้งที่ต่อให้เป็นการกระทำโดยประมาท ก็น่าจะรับโทษบ้างไม่ใช่หรือ เห็นออกโทรทัศน์ด้วย ใช่ล้มคดี หรือ เป่าคดีหรือเปล่า ช่วยตอบหน่อยครับ


ผู้ตั้งกระทู้ :: วันที่ลงประกาศ 2006-10-30 10:56:55 IP : 125.25.146.241


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (678703)

--ไม่อยากยืนยันว่ามีการล้มคดี.....เพราะจะเป็นการสร้างค่านิยมที่ผิดๆให้เกิดขึ้นในสังคมว่าทำผิดแล้วถ้ามีเงินก็สามารถรอดพ้นมือกฎหมายได้  ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องจริงเสมอไป.....แต่คุณควรทราบว่าคดีที่เกิดจากการกระทำโดยประมาท(ไม่มีเจตนา)ความรู้สึกของสังคมมักมองว่าเป็นเรื่องไม่ร้ายแรง  โดยเฉพาะคดีอุบัติเหตุมีให้พบเหตุทุกๆวันจนผู้คนในสังคมชาชิน...จนถือว่าเป็นเรื่องปรกติธรรมดา  จะมีก็เพียงญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตเท่านั้นที่เศร้าโศกเสียใจ...แต่ก็เป็นกลุ่มคนเล็กๆ...คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรู้สึกรู้สาเพราะไม่ได้เป็นญาติ....คุณเห็นไหมสงกรานต์แต่ละปีมีคนตายเพราะอุบัติเหตุ 500-1,000 คนในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว  พอๆกับเกิดสงครามกลางเมือง   แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตน่าจะมากกว่านี้  แต่มีการปิดบังตัวเลขกัน  เพราะถ้าจังหวัดใดมีผู้เสียชีวิตสูง  ผู้เกี่ยวข้องอาทิ  ผู้ว่าฯ  ผู้กำกับฯจะเดือดร้อน  เพราะเบื้องบนจะเล่นงาน....เมื่อสังคมถือว่าเรื่องอุบัติเหตุเป็นเรื่องธรรมดา....เมื่อคดีถึงมือตำรวจ...เรื่องจึงมักมีแนวโน้มให้คู่กรณีเจรจาตกลงค่าเสียหายกัน.....80%-90%ของคดีจึงมักจบลงแค่โรงพัก....เพราะสามารถตกลงกันได้......คนส่วนใหญ่จึงมักเรียกว่ามีการล้มคดี......ลองอ่านต่ออีกนิดผมจะเล่าให้ฟังว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร......

---กรณีมีผู้เสียชีวิตเพราะถูกรถชน....ถ้าว่ากันตามกฎหมายตำรวจก็ต้องสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและสั่งฟ้องผู้ขับรถ...ฐานกระทำการโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต(โทษจำคุก 10 ปี  ม.291)ส่งต่อไปยังอัยการ  อัยการต้องสั่งคดีว่าควรฟ้องหรือไม่...ถ้าเห็นควรสั่งฟ้อง....ก็ส่งฟ้องศาลต่อไป  ซึ่งแต่ละขั้นตอนก็ต้องอาศัยเวลาพอสมควร...คือต้องใช้เวลาหลายเดือน.....บางทีอาจเป็นปี....จุดนี้เองที่ทำให้ฝ่ายผู้เสียหายเกิดความท้อแท้...เพราะการไปศาลต้องเสียทั้งเงินและเสียเวลา...ส่วนใหญ่จึงยุติลงด้วยการยอมรับค่าเสียหายตามที่ตกลงกัน....นี่กรณีหนึ่ง.....และอีกกรณีหนึ่งคือ.......การที่ผู้ตายถูกรถชนจนเสียชีวิตใช่ว่าผู้ตายจะเป็นฝ่ายถูกเสมอไป....เช่นวิ่งตัดหน้าแบบกระชั้นชิด  หรือผู้ตายฝ่าฝืนกฎหมายเสียเองเช่น  ฝ่าไฟแดง  หรือกรณีอื่นๆแล้วแต่ข้อเท็จจริงเป็นเรื่องๆไป...ถ้าข้อเท็จจริงได้ความว่าผู้ตายเป็นฝ่ายประมาท...คนขับรถชนก็ย่อมมีโอกาสพ้นผิด  จุดนี้เองเป็นแนวทางปิดคดีกันได้อีกวิธีหนึ่ง.....คนจนอย่างเราๆเมื่อเขาเสนอให้  50,000  บาทส่วนมากก็ยอมกลืนเลือดตัวเองยอมรับแต่โดยดี...ผมเคยประสบการณ์ด้วยตัวเองพ่อของผู้ตายยอมรับค่าทำศพของบุตรเพียง 15,000  บาทเท่านั้นและยอมยุติเรื่องแบบง่ายดาย.....   ถ้าว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรมต้องใช้อีกประมาณ 1-2 ปี ก็ใช่ว่าจะได้มากกว่านี้...แม้อยู่บนศาลก็ยังมีการเจราจาต่อรองกันอยู่....เรื่องทางอาญา....อย่างที่บอกแล้วแม้โทษจะสูง  แต่ส่วนใหญ่จำเลยมักจะได้รับประโยชน์ตามมาตรา 56(คุณไปอ่านเองได้)คือส่วนมากมักไม่ถูกจำคุก...แล้วคนจนๆจะเสียเวลาขึ้นศาลทำไม.....ไม่ใช่ศาลไม่ดีหรือไม่ยุติธรรม...แต่มีคดีคั่งค้างในศาลเป็นจำนวนมาก.....ต้องอาศัยเวลาในการพิจารณา....คนจนๆคงไม่มีเวลารอ......นี่แหละจึงเป็นที่มาของการยอมความกันทั้งๆที่กฎหมายไม่สามารถยอมความกันได้.....อย่าได้ไปอิจฉาคนที่ขับรถชนคนตายแล้วไม่ต้องถูกจำคุกเลยครับ...เพราะเขาต้องเสียเงินไม่ใช่น้อยๆ......และยังเป็นตราบาปไปตลอดชีวิตเพราะกระทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต....กรรมนี้จะติดตามไปตลอดเสมือนเงาติดตามตัว......

--ขอแนะนำแนวทางที่ปลอดภัยที่สุดคือ..อย่าประมาทครับ.....

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2006-10-30 13:04:43 IP : 58.181.182.191



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.