ReadyPlanet.com


มอเตอร์ไซค์ชนกันกับเยาวชน 2 (แก้ขนาดตัวอักษร)


มอเตอร์ไซค์ชนกันกับเยาวชน

 
เรียน  webmaster@pamook.com
เนื่องด้วย  กระผมนายอุดม สีรอดประสบเหตุในวันปีใหม่ 01/01/50
 
ในวันหยุดปีใหม่ซึ่งทางห้างผมหยุด 3 วันคือ 30 ธค 49 - 01 มค 50
           และในวันที่  01 มค 50 นั้นผมได้กลับเข้ากรุงเทพฯเพื่อมาทำงานและได้ออกจากบ้าน(ขับรถมอเตอร์ไซค์คนเดียวการแต่งตัวของผมนั้นกางเกงยีนส์ 2 ตัว ส่วมถุงมือ เสื้อ3 ตัว เสื้อคอกลม+เสื้อถัก+เสื้อเจ๊คเก็ต) ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอหนองหญ้าไซ โดยใช้เส้นทางการเดินทางถนนระหว่างอำเภอ จากหนองหญ้าไซ-ดอนเจดีย์,ดอนเจดีย์-ศรีประจันต์ โดยระหว่างทางผมต้องไปเอาของฝากซึ่งเพื่อนให้ไปเอา ซึ่งต้องแยกจากถนนดอนเจดีย์-ศรีประจันต์ ไปประมาณ 7 กม. เอาของฝากแล้วผมก็เดินทางกลับทางกลับโดยใช้เส้นทางเก่าเพื่อจะใช้ถนนเส้น ดอนเจดีย์-ศรีประจันต์ 
 เหตุเกิด     ใกล้กับหลักกิโลเมตรที่ 11มาจากดอนเจดีย์ ประมาณ 20-25 เมตรคือว่าผมขับรถมอเตอร์ไซค์มาใกล้กับที่เกิดเหตุผมเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของคู่กรณีขับอยู่บนไหล่ทาง(นอกทางเดินรถ)ข้างหน้าซึ่งไปทางเดียวและเลนส์เดียวกันผมเองนั้นก็ขับห่างจากขอบไหล่ทางประมาณ 1-2 ฟุต ระยะรถ 2 คันห่างกัน 20 เมตรโดยสังเกตุจากคนขับหันหน้าไปมองทางขวาซึ่งไม่ได้มองข้างหลัง ซึ่งผมเองนั้นก็ชะลอรถ   แล้วคู่กรณีคนขับก็หันซ้ายมาคุยกันกับคู่กรณีคนซ้อนมา  ซึ่งตอนที่หันซ้ายมาคุยกันนั้นผมก็คิดว่าเขานั้นจะไม่เลี้ยวไปทางใดผมจึงขับไปต่อช่วงที่ขับไปนั้นคู่กรณีที่หันคุยกันทางซ้ายนั้นเขาได้ขับรถเข้าทางขวา (ปาดหน้า) ซึ่งเป็นช่วงที่ ผมขับไปต่อ  ระยะห่างตอนนั้น 8-10 เมตร (เวลาประมาณ 12.50 - 13.10) จึงได้เกิดเหตุรถผมไปชนกับคู๋กรณี คู่กรณีคนขับหมดสติและขาหัก ส่วนคู่กรณีคนซ้อนยังมีสติอยู่ได้ร้องว่าเจ็บแขน ส่วนตัวผมเองนั้นยังมีสติดีและได้พยายามโบกรถเพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากตอนเกิดเหตุไม่มีรถวิ่งผ่านและไม่มีคน ซึ่งแป๊ปหนึ่งก็มีรถปิคอัพวิ่งมาซึ่งได้โทรไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานไหนก็ไม่รู้ ซึ่งต่อมาได้มี มูลนิธิเสมอกันมา และต่อมาร้อยเวรที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ในเขต สภอ.ศรีประจันต์  ได้มาที่เกิดเหตุและได้ถ่ายรูปไว้ แต่ไม่ได้พ่นสีสเปรย์ แต่มีรอยขูดขีดบนพื้นถนนของพักเท้าของรถทั้งสองคันซึ่งอยู่ทางเลนส์ซ้ายห่างจากเส้นแบ่งเลนส์ประมาณ 1-2 ฟุต (ถนนเป็นแบบสวนทางกัน) และได้นำคู่กรณีทั้ง 2 คนไปโรงพยาบาลศรีประจันต์  ส่วนตัวผมได้โทรให้เพื่อนสมัยเรียน ปวช. ซึ่งอยู่ในตัวอำเภอศรีประจันทร์มารับไปโรงพยาบาลศรีประจันต์ ซึ่งตัวผมนั้นได้ X-Ray หัวไหล่ซ้ายซึ่งเจ็บแปร๊ปๆอยู่ และมีรอยฟกช้ำ ตรงไหล่ซ้าย ยอกไหล่ขวา ตรงตาตุ่มซ้ายเจ็บขัดยอก หัวเข่าขวามีรอยฟกช้ำ ปวดหลังด้านขวา และออกจากโรงพยาบาลศรีประจันต์ เพื่อไปดูรถและจะเอารถออก ร้อยเวรบอกว่า "คู่กรณีคนขับ บาดเจ็บขาหักแขนหักยังออกไม่ได้ต้องส่งเรื่องขึ้นศาล" และผมก็ออกจาก สภอ.ศรีประจันต์  และได้โทรแจ้งประกัน พรบ.ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งศูนย์ที่สุพรรณฯไม่มีโทรมาที่ ศูนย์ พรบ.ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)  นครปฐมแล้ว เย็นวันที่ 1 มค. 50 ผมได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อมาเอา พรบ.ตัวจริงมาเพื่อจะทำเรื่องเอารถออก 
**หมายเหตุ**
ผมเอง อายุ 29 ปี ใบขับขี่มี + พรบ.ของรถมี + คู่มือรถมีเป็นรถของผมเอง (มีครบทุกอย่าง) 
คู่กรณีคนขับ และ คู่กรณีคนซ้อน นั้นยังไม่มีใบขับขี่+ยังเป็นเยาวชนซึ่งอายุ 13-15 ปี + ไม่ได้ส่วมหมวกนิรภัย  // รถนั้นเป็นของพ่อคนซ้อน
          
วันที่ 2 มค. 50
วันนี้ช่วงเช้าเพื่อนผมโทรมาจากมหาชัยบอกว่า พ่อ-แม่เพื่อนติดต่อ กับผู้ใหญ่บ้านนัดกันเวลา 12.00 น.ซึ่งบ้านพ่อ-แม่เพื่อนอยู่หมู่4 แต่พ่อแม่ของคู่กรณีอยู่หมู่ 1 เพื่อจะไปเจรจาว่าจะเอาอย่างไรและเพื่อจะได้เอารถมอเตอร์ไซค์ออกจากโรงพัก สภอ.ศรีประจันต์  พอดีวันนั้น(2 มค 50) ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ไปเยี่ยมพ่อเขา ผู้ใหญ่จึงไม่ได้มา ช่วงประมาณ 14.00 น.ผมจึงไปเยี่ยมน้องคู่กรณีคนซ้อนที่โรงพยาบาลศรีประจันต์ อาการของน้องเขาคือ มีบาดแผลตามตัวเล็กน้อย(ไม่ได้เย็บ)ศีรษะแตก (ไม่แน่ใจว่าได้เย็บหรือเปล่า) และต่อมาก็ไปโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยายมราช(โรงพยาบาลประจำจังหวัด) เยี่ยมน้องคู่กรณีคนขับอาการของน้องเขาคือ ขาหักและแขนหัก ตอนที่ไปเยี่ยมเวลาประมาณ 15.00-16.00 น. พ่อของน้องคู่กรณีคนขับไปซื้อโจ๊กในตลาดเลยไม่ได้เจรจากัน
 
วันที่ 3 มค. 50
วันนี้มีนัดเจรจากันตอน 14.00น โดยมี
1). กำนัลตำบลบางงาม อำเภอศรีประจันต์
2). ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลบางงาม  อำเภอศรีประจันต์
3).ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลบางงาม   อำเภอศรีประจันต์
4).และผม (นายอุดมสีรอด) กับแม่ -พ่อเพื่อน
5).พ่อของน้องคู่กรณีคนขับ (พ่อของน้องคู่กรณีคนซ้อนซึ่งเป็นเจ้าของรถไม่ได้ร่วมเจรจาด้วย)
          โดยการเจรจานั้นพ่อของน้องคู่กรณีคนขับขอให้ช่วยค่ารักษาแต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงินค่าช่วยเหลือ และได้คุยกันถึง ประกันพรบ.บุคคลที่ 3 ว่าเอาของผมไปช่วยได้ไหมกับน้องคู่กรณีคนขับ  ผมเองก็ไม่เข้าใจเรื่องประกันพรบ.บุคคลที่ 3 เนื่องจากเขาพูดมาว่า พรบ.เขายังมีปัญหาไม่ยอมจ่ายเนื่องจากลูกของเขาใบขับขี่ยังไม่มี และในวันนั้นเวลา 15.00 น ผมได้ไปขอใบรับรองแพทย์ที่โรงพยาบาลศรีประจันต์ก่อน เพื่อจะมาทำการลาพอดีวันนั้นคิวการรอเยอะจึงไม่ได้อยู่รอใบรับรองแพทย์ แล้วผมก็จึงไปที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยายมราช(โรงพยาบาลประจำจังหวัด) อีกเพื่อจะเช็คเรื่อง พรบ.ว่าของผมรักษาน้องคู่กรณีคนขับ ได้หรือไม่ เนื่องจากได้คุยกันว่าถูก-ผิดไม่เอาเรื่องกันโดยผมได้ยื่น ประกันพรบ.บุคคลที่ 3 เข้าช่วยและขอให้ช่วยค่ารักษาแต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงินค่าช่วยเหลือ และเนื่องจากเป็นเวลาที่เย็นมากแล้วและได้คุยว่าพรุ่งนี้ (วันที่ 4 มค.50) เข้าไปหาที่สภอ.ศรีประจันต์  เพื่อตกลงบอกกับร้อยเวรว่าไม่เอาเรื่องกันเพื่อจะได้นำรถออกจาก สภอ.ศรีประจันต์  เพื่อจะได้เอาไปซ่อมใช้งานต่อและผมก็จะได้ใช้ขับไปทำงาน
 
วันที่ 4 มค. 50
 
    วันนี้ตอนสายผมได้โทรไปหาเขาบอกให้เข้าไปตกลงที่ สภอ.ศรีประจันต์  แต่พ่อของน้องคู่กรณีคนขับ ให้ไปคุยกันที่โรงพยาบาลศรีประจันต์ก่อน และในระหว่างการคุยนั้นเพื่อนผมได้ขอคุยด้วยเรื่องค่าทำขวัญ เพื่อนผมบอกไปว่า 5,000 บาท และเรื่องการรักษาใช้ ประกันพรบ.บุคคลที่ 3 เข้าช่วย และผมกับเพื่อนมิได้ไปโรงพยาบาลศรีประจันต์  แต่ไปที่ สภอ.ศรีประจันต์  (เวลาประมาณ 10.00 น.)เมื่อพ่อของน้องคู่กรณีคนขับ มากับ พ่อของน้องคู่กรณีคนซ้อน และได้เข้าไปคุยกับร้อยเวรเจ้าของคดี ซึ่งร้อยเวรเจ้าของคดี ได้ถามผมว่าเตรียมหลักฐานมาครบไหมเกี่ยวกับ ประกันพรบ.บุคคลที่ 3 กับ พ่อของน้องคู่กรณีคนขับ ซึ่งประกอบด้วย 1.ใบขับขี่จักรยานยนต์ 2.ทะเบียนบ้านหน้าชื่อผม 3. ประกันพรบ.บุคคลที่ 3 4. บัตรประจำตัวประชาชน 5.ใบซื้อขายรถซึ่งเป็นชื่อของผม   ผมได้ให้ไปเพราะร้อยเวรเจ้าของคดี ว่าเอาไปช่วยคนเจ็บก่อนผมเองก็เห็นด้วยเพราะตามหลักมนุษย์ธรรม และมารู้ตอนก่อนที่จะให้ ประกันพรบ.บุคคลที่ 3 ไปว่าฝ่ายพ่อของน้องคู่กรณีคนซ้อนซึ่งเป็นเจ้าของรถได้ทำประกันเบิกจ่ายได้แล้ว  ตอนแรกผมคิดว่ามันจะจบเมื่อ ผมให้ ประกันพรบ.บุคคลที่ 3 ไป  และร้อยเวรเจ้าของคดี ก็ให้เอาช่างมาตรวจสภาพรถทั้ง 2 คันและได้ ลงในบันทึกประจำวันว่า "ให้ช่างตรวจสภาพรถและรับรถไปเก็บรักษาชั่วคราวและจะมาเจรจาค่าเสียหายในภายหลังต่อไป"   ( ความเสียหายที่ช่างประเมิน รถผมเป็นรถยามาฮ่า สปาร์ค 135 เสียหายอยู่ระหว่าง 8,000 บาท ส่วนรถพ่อของน้องคู่กรณีคนซ้อนซึ่งเเป็นเจ้าของรถอยู่ระหว่าง 2,500 บาท เป็นรถยามาฮ่า เบลล์ 100)        ตอนใกล้จะออกจากห้องร้อยเวรเจ้าของคดี ก็บอกว่าเคียร์นะ ไม่ติดใจเอาความกันแล้ว   ร้อยเวรเจ้าของคดียังไม่ได้ลงบันทึกว่าใครถูกใครผิดเนื่องจากต้องรอน้องคู่กรณีคนขับ ออกจากโรงพยาบาลก่อน และยังบอกอีกว่า น้อง 2 คนนั้นขึ้นศาลเยาวชน แต่ผมขึ้นศาลคนโต กรณีที่ตกลงกันไม่ได้ แต่ออกมาจากห้องร้อยเวรเจ้าของคดี  เขาอยากคุยกับผมโดยไปที่ศาลาที่พักสูบบุหรี่ของ สภอ.ศรีประจันต์  โดยมีพ่อของน้องคู่กรณีคนขับซึ่งไม่ใช่เจ้าของรถและญาติเขาติดตามไปด้วย ผม และแม่เพื่อนผม โดยพ่อของน้องคู่กรณีคนขับ เรียกค่าเสียหาย โดยแยกเป็น 2 กรณี คือ 1.ค่าทำฟันที่หัก 2 ซี่ๆ ละ 10,000 บาท รวม 20,000 บาท ค่าทำขวัญ 10,000 บาท  รวม 30,000 บาท และยังพูดอย่างที่ร้อยเวร พูดว่า "น้อง 2 คนนั้นขึ้นศาลเยาวชน แต่ผมขึ้นศาลคนโต และให้ผมมาคิด 2-3 วัน"  และเขาก็ออกไปติดต่อ ประกันพรบ.บุคคลที่ 3  ผมจึงไปแจ้งกับร้อยเวรเจ้าของคดี และผมก็ติดต่อกับพ่อของน้องคู่กรณีคนขับ ว่าร้อยเวรเจ้าของคดี ให้มาคุยกันไหม และเขาก็เขามาคุยกันอีกซึ่งร้อยเวรเจ้าของคดีก็คุยกับพ่อของน้องคู่กรณีคนขับ ซึ่งให้ผมออกมาข้างนอกห้องและเรียกผมเขาไป ตกลงกันไม่ได้พ่อของน้องคู่กรณีคนขับ ยืนยัน 30,000 บาท แล้วร้อยเวรเจ้าของคดีบอกว่ามาตกลงกันอีกที่ ต้องรอน้องคู่กรณีคนขับ ออกจากโรงพยาบาลก่อน แล้วผมก็ให้เพื่อนยกรถไปที่บ้าน ส่วนผมก็ออกไปกับแม่เพื่อนที่โรงพยาบาลศรีประจันต์เพื่อมาขอใบรับรองแพทย์ประมาณเวลา 16.00 น. แล้วก็กลับไปบ้านเพื่อนเพื่อรอพี่มาจากกรุงเทพฯ มารับรถกลับเข้ากรุงเทพฯเพื่อซ่อม
 
วันที่ 5 มค. 50
ผมได้นำรถเข้าศูนย์ ค่าใช้จ่าย 5,090 บาท แต่ร้านลดให้ 15 % เหลือ 4,327 บาท
 
 
ขอถาม
  1. ผมให้ ประกันพรบ.บุคคลที่ 3 พร้อมหลักฐานส่วนตัวไปนั้นแสดงว่าผมผิดเต็มประตูใช่ไหมครับ
  2. ผมไม่ได้แจ้งความไว้เพราะเวลาที่เกิดเหตุร้อยเวรเจ้าของคดี ไปที่เกิดเหตุด้วยเพราะวันที่ 4 มค. 50 ที่โรงพักผมได้ถามกับร้อยเวรเจ้าของคดีๆว่ายัง ไม่มีใครถูกใครผิดเพราะร้อยเวรต้องเป็นคนแจ้งเอง แบบนี้ถูกต้องไหมครับ
  3. จุดที่ชนอยู่บริเวณเสื้อสูบรถจักรยานยนต์ (BEEL 100)ผมผิดไหม เพราะไม่ได้ชนท้าย
  4. ถ้าเป็นคดีจริงๆ ค่าที่จะจ้างทนายจะประมาณเท่าไหร่ครับ
  5. ถ้าเป็นคดีจริงๆ จะเป็นในทิศทางไหนครับ
  6. จะเสียเปรียบไหมเกิดคดีความกับเด็ก
  7. ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ แล้วถ้ามีใครสอนน้องเพราะผมกลัวมากถ้ามีคนสอนน้องให้พูดไปจากความเป็นจริง
  8. น้อง 2 คนนั้นขึ้นศาลเยาวชน แต่ผมขึ้นศาลคนโต ใช่หรือครับ
  9. ผมเองก็คนทำงานผมไม่เคยขึ้นศาล อยากจะจบเรื่องไวๆการเจรจาไม่เป็นผลเพราะเคยให้ 15,000 บาท แล้วเขายังไม่เอา ที่ 15,000 บาท ก็ต้อง***้เขามาเหมือนกัน ถ้าเจรจาอีกจะดีไหมครับ
               เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นผมได้เล่าไปตรงๆแล้วครับ
- ขอความกรุณาวิเคราะห์คดีแบบเป็นกลาง ผมเองนั้นก็ลูกตาสียายสา  ตอนนี้ผมก็ทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย เรื่องการเงินก็ติดๆขัดๆ
 
                                                                                                                      ขอบพระคุณมากครับ
                                                                                                                   อุดม  สีรอด   โทร.0815040197


ผู้ตั้งกระทู้ อุดม สีรอด :: วันที่ลงประกาศ 2007-01-09 13:08:40 IP : 58.10.71.50


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (774992)

1. คงไม่ใช่

2. ใช่

3. เป็นปัญหาข้อเท็จจริงคงสรุปไม่ได้

4. แล้วแต่ตกลงกัน

5. เป็นคดีประมาททำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ  และการเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง   ดูแล้วไม่หนักหนาอะไร   แต่เรื่องจะให้รวดเร็วทันใจคงไม่ได้

6.น่าจะไม่เสียเปรียบอะไร

7.ปรกติคนขึ้นศาลก็มีคนสอนอยู่แล้วให้พูดอย่างไร   เขาจะสอนอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา   กระบวนการพิจารณาของศาลก็มีวิธีการตรวจสอบ และชั่งน้ำหนักพยานที่มีประสิทธิภาพพอสมควร

8. น่าจะใช่

9. ก็หาทนายปรึกษาน่าจะช่วยได้มากครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2007-01-10 08:50:27 IP : 203.172.199.254


ความคิดเห็นที่ 2 (775000)
ขอบพระคุณมากครับ คุณผู้เฒ่า
ผู้แสดงความคิดเห็น อุดม สีรอด วันที่ตอบ 2007-01-10 08:58:22 IP : 58.10.71.51


ความคิดเห็นที่ 3 (780874)

โทษทีครับคุณ อุดม สีรอด ผมได้เอาชื่อคุณมา ที่ได้มาคือ จดหมายต่อเนื่องทาง ออทเมล์

ผู้แสดงความคิดเห็น สิงห์ เมืองพิษณุโลก วันที่ตอบ 2007-01-15 07:57:14 IP : 58.10.71.22


ความคิดเห็นที่ 4 (792505)

เปนไรกันมากเปล่าเนี้ย

ผู้แสดงความคิดเห็น 007001516545 วันที่ตอบ 2007-01-23 15:25:51 IP : 58.10.71.233


ความคิดเห็นที่ 5 (851130)
5555555555555 ไพโรจน์ เจริญทรัพย์ Kimpai
ผู้แสดงความคิดเห็น ไพโรจน์ เจริญทรัพย์ Kimpai วันที่ตอบ 2007-03-08 15:38:03 IP : 58.10.71.230


ความคิดเห็นที่ 6 (994484)

ความเห็นที่ 5 (851130)

ถ้าสมมุติว่าถ้าเป็นเรื่องจริง แล้วคุณทำ นิ...สั...ย....5555555555555    นั้นแสดงว่า  ครอบ1ครัว+สายเลือด234 ผู้ให้กำเนิด และ สถ า1บันที่สั่ง...สอนมา65นั้น แย่มากๆนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น อย่ามองคนที่แย่กว่าเป็นเรื่องตลก วันที่ตอบ 2007-06-09 22:36:03 IP : 58.10.71.94



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.