[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
ปรึกษาเรื่องมีญาติมาปลูกบ้านในที่ดินของเรา | |
1. รบกวนสอบถามด้วยค่ะ ที่ดินเอกสารสิทธิเป็นของพี่น้องเรา 7 คนแต่ญาตบอกว่าเป็นที่ว่างก็เลยมาปลูกบ้านอยู่อาศัยโดยไม่ได้ขออนุญาตเรา เราให้เขาทำการย้ายออก เขาไม่ยอมย้ายออกเราต้องทำยังไงคะ 2. ทางเราไปจำนองที่นาไว้แล้วเราก็ให้เขาทำนาเพื่อเป็นดอกเบี้ย แต่เขามาขุดดินในที่นาของเราไปขาย อย่างนี้เขามีสิทธิด้วยหรือไม่ ถ้าเราจะฟ้องร้องคิดค่าเสียหายได้หรือไม่ เพราะเราไม่อนุญาตให้เขาขุด 3. ที่ดินมีเอกสารสิทธิเป็นของพี่น้อง 7 คน แต่มีคนมาบอกว่าที่ดินตรงนี้เขาได้ซื้อไว้นานแล้ว อย่างนี้เราต้องทำยังไงคะ เขาจะมีสิทธิฟ้องเอาที่ดินจากเจ้าของทั้ง 7 คนมั๊ยคะ
| |
ผู้ตั้งกระทู้ วีระยา (v-dot-astrolog-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2012-09-24 13:14:47 IP : 124.120.100.196 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3299278) | |
1. รบกวนสอบถามด้วยค่ะ ที่ดินเอกสารสิทธิเป็นของพี่น้องเรา 7 คนแต่ญาติบอกว่าเป็นที่ว่างก็เลยมาปลูกบ้านอยู่อาศัยโดยไม่ได้ขออนุญาตเรา เราให้เขาทำการย้ายออก เขาไม่ยอมย้ายออกเราต้องทำยังไงคะ
ตอบ.....ก็ต้องแจ้งข้อหาบุกรุก ก่อนจะสายเกินแก้ ... คือถ้าที่ดิน มีเอกสารสิทธิ์ เป็น นส.3 หรือ นส. 3 ก. ต้องฟ้องขับไล่ภายในหนึ่งปี.... ถ้าที่ดินมีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดิน ต้องฟ้องขับไล่ภายใน 10 ปีครับ
2. ทางเราไปจำนองที่นาไว้แล้วเราก็ให้เขาทำนาเพื่อเป็นดอกเบี้ย แต่เขามาขุดดินในที่นาของเราไปขาย อย่างนี้เขามีสิทธิด้วยหรือไม่ ถ้าเราจะฟ้องร้องคิดค่าเสียหายได้หรือไม่ เพราะเราไม่อนุญาตให้เขาขุด
ตอบ....การขุดที่ดินไปขายโดยไม่ได้รับอนุญาต ย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์ ผู้ซื้อที่ดิน มีความผิดฐานรับของโจร นอกจากดำเนินคดีอาญาแล้ว สามารถเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งได้ครับ
3. ที่ดินมีเอกสารสิทธิเป็นของพี่น้อง 7 คน แต่มีคนมาบอกว่าที่ดินตรงนี้เขาได้ซื้อไว้นานแล้ว อย่างนี้เราต้องทำยังไงคะ เขาจะมีสิทธิฟ้องเอาที่ดินจากเจ้าของทั้ง 7 คนมั๊ยคะ
ตอบ....แม้จะมีชื่อในเอกสารสิทธิ์ แต่ถ้าไปปล่อยปละละเลย ให้ผู้อื่นบุกรุก ครอบครองโดยไม่มีการโต้แย้ง ตามเงื่อนไข ตามข้อ 1 ก็อาจสูญ เสีย ที่ดินไปได้อย่างง่ายดายครับ
แนวตำพิพากษาศาลฎีกาเทียบเคียง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2527
นางสาวสุพรรณ ทรัพย์เย็น โจทก์
นายชู ดาเปรม ที่ 1 นายศิริ ศิริทวี ที่ 2 จำเลย
ป.อ. มาตรา 334, 335, 352
จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ทำไร่ แล้วจำเลยขุดเอาดินจากที่ดินนั้นไปขายโดยทุจริต จำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ไม่ผิดฐานยักยอก เพราะการเช่าที่ดินนั้น ผู้ให้เช่าให้เช่าทรัพย์สินในสภาพที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อที่ดินถูกขุดขึ้นมาแล้วย่อมเปลี่ยนสภาพเป็นสังหาริมทรัพย์ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่เช่า ดินที่ถูกขุดขึ้นมาจึงคงอยู่ในความครอบครองของผู้ให้เช่า (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 3/2527)
________________________________
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เช่าที่ดินของโจทก์ทำไร่ ต่อมามีคนร้ายลักขุดหน้าดินของโจทก์เอาดินไปขายให้แก่จำเลยที่ 2 ทั้งนี้ จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันลักขุดหน้าดินของโจทก์เจตนาเอาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นจำเลยทั้งสองได้รับหน้าดินไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยผิดกฎหมายด้วยเจตนาทุจริตขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334, 335, 337 และ 357
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งให้ประทับฟ้องในความผิดฐานลักทรัพย์และรับของโจร
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานลักทรัพย์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(7) จำคุก 2 ปี ลดโทษหนึ่งในสามตามมาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า โดยทั่วไปผู้เช่าย่อมเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินที่เช่า แต่สำหรับการเช่าที่ดินผู้ให้เช่าทรัพย์สินในสภาพที่เป็นอสังหาริมทรัพย์เมื่อที่ดินถูกขุดขึ้นมาแล้วย่อมเปลี่ยนสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่เช่าดินที่ถูกขุดขึ้นมาจึงคงอยู่ในความครอบครองของผู้ให้เช่า จึงมีมติว่า จำเลยที่ 1มีความผิดฐานลักทรัพย์
พิพากษายืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4386/2551
โจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทโดยความสงบเปิดเผยและเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลากว่า 10 ปี แม้บ้านของโจทก์จะอยู่นอกเขตที่ดินพิพาทด้านทิศตะวันออกซึ่งจดแม่น้ำลพบุรีแต่ที่ดินดังกล่าวเป็นที่งอกริมตลิ่งเป็นส่วนควบกับที่ดินพิพาท โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2012-09-24 16:18:04 IP : 101.51.190.190 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1088135 |