-ถ้ามีสัญญากู้เงินถูกต้องสามารถฟ้องได้  แต่คงไม่สามารถยึดที่ดินที่ผู้กู้นำโฉนดมาวางประกันไว้ได้    ถ้าศาลเห็นว่าเขาเป็นหนี้จริง ผู้ให้กู้คงต้องให้ยึดทรัพย์ของผู้กู้มาขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้  แต่จะยึดที่ดินเลยคงทำไม่ได้...

-การที่จะยึดที่ดินได้เลยต้องทำธุรกิจแบบพวกลิสซิ่งทั้งหลายที่เขาทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันจนร่ำรวยกันทั่วหน้าเพราะไม่ต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมายข้างต้นให้ยุ่งยาก คือให้ผู้กู้โอนลอยที่ดินไว้ให้ ถ้าลูกหนี้ตุกติกหรือไม่ยอมชำระหนี้เขาก็โอนที่ดินเป็นของเขาทันที  โดยมีเจ้าพนักงานที่ดินรู้เห็นเป็นใจด้วย เพราะผู้กู้มอบอำนาจไว้ให้แล้ว

-กรณีของคุณผู้กู้นำโฉนดมาวางไว้   คุณก็อย่าเพิ่งวางใจ  เขาอาจไปแจ้งหายและขออกใบแทนและจดทะเบียนโอนที่ดินไปแล้วก็เป็นได้ คุณอาจนอนกอดกระดาษอยู่ลองตรวจสอบดูครับ เพราะมีเจ้าหนี้หลายรายเคยกระทำเช่นคุณแต่ก็ต้องช้ำใจเพราะเจอหนี้ทีเด็ด  ไปแจ้งโฉนดหาย    เขาไม่กลัวการแจ้งความเท็จเพราะโทษน้อยครับ  สถาบันการเงินเช่นธนาคารเขาจึงไม่เสี่ยงถ้ามีการกู้เงิน   ต้องมีการจดทะเบียนจำนองมีการสลักหลังโฉนดที่ดินถูกต้อง  ลูกหนี้แม้มีทีเด็ดคงไม่สามารถทำอะไรได้ครับ    แต่การฟ้องเรียกเงินกู้คืนก็ใช่ว่าจะสามารถทำได้ง่ายๆเพราะต้องทำตามขั้นตอนดังกล่าวข้างต้น  บางทีขายทอดตลาดทรัพย์เป็น 10 ปี ยังไม่มีผู้มาซื้อเจ้าหนี้ก็จบเช่นกัน   ผู้สันทัดกรณีท่านจึงเตือนไว้ว่า  มีเงินฝากธนาคารไว้ดีที่สุด  ถ้าคิดจะออกเงินกู้ต้องใช้กระบวนการใต้ดินหรือวิธีป่าเถื่อน  คือถ้าไม่ใช้หนี้ก็ส่งคนไปคุกคามทำร้ายดังที่เป็นข่าว   ผลสุดท้ายก็ถูกลงโทษตามกฎหมายอย่างแน่นอนครับ ที่ตอบยาวเพราะเห็นคุณใช้นามว่าครูบ้านนอก  ถ้าเป็นจริงก็เป็นข้อคิดที่คุณสามารถไปบอกสอนลูกศิษย์ได้บ้างครับ