ReadyPlanet.com


เกี่ยวกับเรื่องจำนองที่ดินเพื่อค้ำประกันเงินกู้


คือดิฉันอยากจะสอบถามว่าการที่แม่ของดิฉันโอนทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดิน รวมถึงอาคารพาณิชย์ให้ดิฉันมีกรรมสิทธ์ถือครอง แต่เพียงในนามเท่านั้น ต่อมาวันหนึ่งได้มีปากเสียงกันคุณแม่ต้องการทรัพย์สินดังกล่าวคืนดิฉันก็ไปทำเรื่องคืนให้ที่ดิน แต่ก็มีเหตุอีกว่า คุณแม่ไม่ยอมโอนกลับไปเลยในชื่้อตัวเอง แต่กลับให้นำทรัพย์สินดังกล่าวไปจดจำนองเพื่อเป็นหลักค้ำประกันการกู้ยืมเงิน ซึ้งการกู้ยืมเงินนี้ก็ไม่ได้มีการกู้ยืมเงินเกิดขึ้นจริงแต่ประการใด เพียงแต่เอามาอ้างเพื่อจดจำนองที่ดิน เป็นมูลค่า 500,000 บาท ซึ่งจะได้เสียค่าธรรมเนียมในการทำจดจำนองน้อยกว่าการโอนไปเลย ดิฉันอยากจะเรียนถามว่า ดิฉันต้องมีภาระพูกพันธ์กับการกู้เงินดังกล่าว หรือไม่ แล้วจะมีเรื่องขึ้นโรง ขึ้นศาล หรือเป็นคดีความเกิดขึ้นหรือไม่ เกี่ยวกับตัวดิฉันอย่างไร เพราะดิฉันไม่ได้เป็นผู้กู้เงินหรือได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเลย ช่วยกรุณาตอบคำถามให้ดิฉันหายข้องใจด้วยเถอะคะ แล้วจะมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร ขอบพระคุณคะ


ผู้ตั้งกระทู้ พิมพ์นารา :: วันที่ลงประกาศ 2007-10-25 16:28:51 IP : 125.26.57.138


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1221249)

-ถ้าเป็นดังที่คุณเล่ามา  สัญญากู้เงินและสัญญาจำนองย่อมเป็นโมฆะใช้บังคับไม่ได้  เพราะเกิดจากเจตนาลวงของคุณและคุณแม่คุณ.....  

- หรืออาจเข้าข่ายนิติกรรมอำพราง  คือเจตนาต้องการโอนที่ดินคืนให้คุณแม่คุณแต่ทำสัญญากู้เงินและสัญญาจำนองอำพรางไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีที่แพงกว่า    ผลตามกฎหมายคือต้องบังคับตามนิติกรรมที่อำพรางไว้  คือ  ต้องโอนที่ดินให้คุณแม่ของคุณ  เป็นปัญหาข้อกฎหมาย  ถ้ามีคดีขึ้นสู่ศาลคุณคงอยู่ในฐานะเสียเปรียบดังนี้ครับ..

-ถ้าคุณแม่ของคุณให้คุณใช้หนี้ตามสัญญากู้และสัญญาจำนอง   คุณก็ต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นเจตนาลวง  ไม่ได้มีเจตนาให้บังคับได้จริง  ถ้าศาลรับฟังคุณก็ไม่ต้องใช้หนี้จำนอง  500,000  บาทครับ  ถ้าศาลไม่รับฟังคุณคงต้องใช้หนี้ตามสัญญาครับ  แต่.....เป็นแม่ลูกกันจะคุยกันไม่รู้เรื่องเลยหรือครับ...  หรือ....

-ถ้าศาลเห็นว่าเป็นนิติกรรมอำพราง  คุณก็เพียงโอนที่ดินคืนให้คุณแม่ของคุณคืนเรื่องก็น่าจะยุติได้ครับ

--ทางแก้ไขง่ายๆคือ    ให้คุณแม่ของคุณยอมให้คุณไถ่จำนอง โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ดินว่าได้รับใช้หนี้จนหมดสิ้นแล้ว  และคุณแม่ของคุณ  ยินยอมลงลายมือชื่อให้คุณไถ่จำนองเรื่องก็จบ   ถ้าคุณไม่สามารถคุยกับคุณแม่  ให้สามารถตกลงกันได้   ก็คงต้องเป็นไปตามหลักการที่กล่าวข้างต้นครับ.....ขอถามทีเถอะครับว่าเป็นเรื่องจริงหรือแค่สมมุติขึ้น....

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2007-10-25 17:08:57 IP : 125.26.106.225



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.