ตัวบทก็เขียนไว้ตรงๆชัดเจน คือถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำความผิดมายังศาลภายในกำหนด"ก็ขาดอายุความ....อายุเริ่มนับจากวันกระทำความผิด   ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งความในวันเกิดเหตุ   แต่ต้องแจ้งในวันเวลาที่ยังไม่ขาดอายุความของคดีนั้นๆ....คุณสมบัติของคุณเหมาะสมอย่างยิ่งในการศึกษาวิชากฎหมาย   ถ้าได้ศึกษาเป็นเรื่องเป็นราว  คุณคงเป็นนักกฎหมายมือหนึ่งในอนาคตได้ไม่ยากครับ
 

   -ก่อนอื่นคุณต้องไปทำความเข้าใจเกี่ยงกับคดีอาญาเสียก่อนนะครับว่า คดีที่ยอมความกันได้มันคืออะไร และอะไรคือคดีที่ยอมความกันไม่ได้ เพราะผมเข้าใจว่าคุณกำลังสับสนในประเด็นของเรื่องอายุความในการแจ้งความร้องทุกข์อยู่ อายุความร้องทุกข์นั้นจะใช้เฉพาะในกรณีที่เป็นความผิดต่อส่วนตัวหรือตามกฏหมายคือสามารถยอมความกันได้เท่านั้น เช่น ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ , ฉ้อโกง(ที่ไม่ใช่ฉ้อโกงประชาชน) , ทำให้เสียทรัพย์ , หมิ่นประมาท , บุกรุก(ที่ไม่ต้องห้ามบางมาตรา) หรือ โกงเจ้าหนี้ เป็นต้น ซึ่งความผิดเหล่านี้ืเป็นความผิดต่อส่วนตัวอันยอมความกันได้ตามกฏหมาย ฉนั้นจึงต้องไปแจ้งความร้องทุกข์หรือฟ้องคดีเองภายใน 3 เดือนโดยที่ไม่ต้องไปสนใจอายุความในมาตรา 95 สรุปง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเป็นความผิดอันยอมความได้ให้นับอายุความร้องทุกข์คือ 3 เดือนก่อน เมื่อร้องทุกข์แล้วจึงค่อยไปนับอายุความตามมาตรา 95 ต่อครับ

   -ส่วนความผิดที่ไม่สามารถยอมความกันได้หรือเป็นคดีอาญาต่อแผ่นดินที่กระทบถึงความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนเป็นหลักนั้นจะไม่มีอายุความร้องทุกข์ครับ กล่าวคือเมื่อความผิดเกิดขึ้นคุณจะไปแจ้งความร้องทุกข์หรือฟ้องคดีเอง(อันนี้คนทั่วไปก็มักจะไม่ทราบว่าฟ้องคดีเองที่ศาลได้เลย)ตอนไหนก็ได้ภายใต้กำหนดอายุความตามมาตรา 95 แต่หากว่าล่าช้าเกินไปมันอาจจะส่งผลถึงรูปคดีได้ เช่น อาจทำการสอบสวนได้ยากขึ้น หรือ พยานหลักฐานอาจสูญหายหรือถูกทำลายไป นี่จึงเป็นสาเหตุที่คนส่วนใหญ่เมื่อเกิดคดีจึงรีบไปแจ้งความ แต่ถามว่าถ้าไม่แจ้งภายในวันนั้นได้ไหม คำตอบคือได้ครับ เพราะกฏหมายไม่ได้บัญญัติเรื่องอายุความที่จะต้องไปร้องทุกข์ไว้สำหรับความผิดอาญาต่อแผ่นดิน ซึ่งอันนี้คนส่วนใหญ่ทั่วไปที่ไม่ได้ศึกษากฏหมายก็จะไม่ทราบว่ามันสามารถเอาผิดได้ทุกเมื่อตราบใดที่คดีนั้นยังไม่ขาดอายุความ

อายุความตามมาตรา 95 นั้นไม่ใช่อายุความในการร้องทุกข์นะครับ หากแต่มันเป็นอายุความที่มากำหนดระยะเวลาในการดำเนินคดีของความผิดในคดีนั้น ๆ ว่าจะต้องทำภายในเวลาเท่าไหร่จึงจะไม่ขาดอายุความ พูดง่าย ๆ ก็คือคุณจะไปแจ้งความหรือฟ้องคดีเองตอนไหนก็ได้และเมื่อตำรวจทำการสอบสวนเสร็จก็จะต้องได้ตัวผู้ต้องหามายังศาลภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 95 คดีถึงจะไม่ขาดอายุความครับ แต่ถ้าคุณฟ้องไปแล้วแต่ตำรวจยังตามจับตัวผู้กระทำความผิดมาไม่ได้จนมันเลยเวลาตามมาตรา 95 ไป แบบนี้คดีก็ถือว่าคดีขาดอายุความซึ่งจะเอาผิดกับเขาไม่ได้อีกครับ

ขอเพิ่มเติมนิดเผื่อคุณจะงงในส่วนของตอนต้น ที่บอกว่าเมื่อแจ้งความร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนแล้วค่อยไปนับอายุความตามมาตรา 95 ต่อนั้น ไม่ใช่นับต่อจากวันที่แจ้งความนะครับ หากแต่อายุความมันเดินไปตั้งแต่วันเกิดเหตุหรือวันที่ความผิดสำเร็จแล้วครับ  เพียงแต่จะบอกว่าถ้าเป็นคดีอาญาที่ยอมความกันได้ก็จะต้องไปแจ้งความร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนเสียก่อน เมื่อแจ้งความร้องทุกข์แล้วจากนั้นถึงจะค่อยมาดูอายุความในเรื่องของการดำเนินคดีตามมาตรา 95 ต่อไปครับ กล่าวคือหากว่าเป็นคดีอาญาที่สามารถยอมความกันได้คุณก็จะต้องแยกเรื่องอายุความออกเป็น 2 กรณีครับ คือ

1.อายุความร้องทุกข์ที่จะต้องทำการแจ้งความภายใน 3 เดือน กับ

2.อายุความหลักของคดี(ที่ไม่ได้เกี่ยวกับการร้องทุกข์)ตามมาตรา 95 ครับ

ขอบคุณคุณ pup ค่ะ ขอถามต่อ 2 ข้อ

1.สมมุตถ้าเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ คือเราจะแจ้งความเมื่อไหร่ก็ได้ นี่คือหมายความว่า

เราต้องแจ้งตามมาตราที่ 95 ใช่มั้ยคะ คือ 1  5 10 15 20 ปี (แล้วแต่ความผิดตามกฎหมาย)

สมมติมีคนมาฆ่าแฟนเรา ตำรวจระบุความผิดคือข้อ 2 ตามมาตรา 95 เราก็ต้องมาแจ้งความภายใน 15ปี ใช่มั้ยคะ

คือไม่ใช่จะแจ้งเมื่อไหร่ก็ได้ เช่น 30-40ปี แล้วค่อยมาแจ้งแบบนี้ไม่ได้ใช่มั้ยคะ ?

2. จากข้อ 1 สมมุตมีคนมาฆ่าแฟนเรา ตำรวจระบุความผิดคือข้อ 2 ตามมาตรา 95 ถ้าเราไปแจ้งความอีก 2 วันจะครบ 15 ปี คือหมายความว่าตำรวจจะมีเวลาจับคนร้าย แค่ 2 วันใช่มั้ยคะ เราเข้าใจถูกมั้ยคะ  ?

1. ถูกต้องครับ คำว่าเมื่อไหร่ก็ได้ในที่นี้คือต้องอยู่ภายในกำหนดเวลาของอายุความตามมาตรา 95 ครับ ซึ่งในแต่ละความผิดจะมีอายุความที่แตกต่างกันออกไปครับ แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้เวลาเนิ่นนานออกไปจนนานเกินควรแล้วค่อยมาแจ้งแม้ว่ามันจะทำได้แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของพนักงานสอบสวนได้อย่างที่กล่าวไป

2. ถ้าเหลือเวลา 2 วันจะขาดอายุความผมว่ายังไงก็ไม่ทันแน่นอนครับเพราะใช่ว่าคุณจะไปแจ้งความแล้วตำรวจจะสามารถไปจับผู้กระทำความผิดได้เลยนะครับ ก่อนหน้านั้นจะต้องมีขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือที่เรียกว่าการสอบสวนเสียก่อนไม่ใช่อยู่ ๆ จะไปจับได้โดยไม่มีพยานหรือหลักฐาน(ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาพอสมควรครับ) ฉนั้นควรไปแจ้งเมื่อเกิดเหตุหรือหลังจากนั้นไม่นานจะดีที่สุดครับ เพื่อให้พนักงานสอบสวนได้มีเวลารวบรวมพยานหลักฐานและทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไปครับ

 ขอบคุณคุณ pup มากๆเลยจ้าได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว

แล้วสมมุตว่าถ้ามีกรณีแบบว่ามีผู้หญิงคนนึงมากล่าวหาเพื่อนเราว่าไปข่มขืนเค้า

แบบนี้เพื่อนเราก็มีความผิดเลยหรอคะ ต้องขึ้นโรง ขึ้นศาลเลยหรอคะ ?

หรือว่าฝั่งผู้หญิงต้องมีหลักฐานคะ (เพราะเคยมีกรณีแบบ แฟนกันแต่ฟ้องกันเองทั้งๆที่สมยอม) เราเลยอยากรู้ว่าฝ่ายหญิงต้องมีหลักฐานอะไรคะ ?

เอ่อ อย่างที่ผมได้กล่าวไปไงครับว่าเมื่อมีการกล่าวหาหรือร้องทุกข์แล้วก้จะต้องเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมทั้งกรั่นกรองพยานหลักฐานทั้งหมด ว่ามันเป็นจริงดั่งที่เขากล่าวหาหรือไม่ ถ้ามันไม่มีมูลหรือไม่มีพยานหลักฐานที่ทำให้น่าเชื่อพอว่าผู้นั้นกระทำความผิดพนักงานสอบสวนก็อาจงดการสอบสวนและบันทึกเหตุที่งดการสอบสวนนั้นไว้แล้วส่งบันทึกพร้อมกับสำนวนไปยังอัยการ หรือ ส่งสำนวนพร้อมทั้งความเห็นที่ควรให้งดการสอบสวนเพื่อให้อัยการพิจารณาต่อไป แต่ถ้าสอบสวนแล้วคดีมีมูลก็ต้องส่งสำนวนพร้อมทั้งความเห็นเพื่อไปให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องอีกที หากว่าอัยการเห็นด้วยกับพนักงานสอบสวนถึงจะออกคำสั่งฟ้องและฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลอีกที ซึ่งเหล่านี่ล้วนแต่เป็นขั้นตอนของการสอบสวนหรือการดำเนินคดีในเบื้องต้น คนที่ถูกกล่าวหาไม่จำเป็นจะต้องเป็นจำเลยหรือคนผิดเสมอไปตราบใดที่ยังไม่มีการพิจารณา และกว่าจะมาถึงขั้นตอนพิจาณาในศาลก็ต้องใช้เวลาตรวจสอบและกรั่นกรองพอสมควร ไม่ใช่ว่าแจ้งแล้วตำรวจจะส่งตัวไปศาลเลย

ส่วนเรื่องข่มขืนที่คุณถามมานั้นหากว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอายุหรือผู้เยาว์ต่อให้สมยอมบางทีก็ผิดกฏหมายได้นะครับ แต่ถ้าไม่ใช่ผู้เยาว์หากกล่าวหาว่าเขาข่มขืนก็คงต้องไปพิสูจน์กันโดยการตรวจทางวิทยาศาสตร์ซึ่งคำให้การหรือผลตรวจของแพทย์นั้นน่าจะเป็นหลักฐานได้อย่างดีว่ามีการข่มขืนกันจริงหรือไม่ อีกทั้งก็อาจจะดูจากพยานแวดล้อมประกอบด้วยก็ได้ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้มันจะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการดำเนินการเองครับ

ขอบคุณค่ะได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะ

1.แล้วการข่มขืนที่มีอายุมากกว่า 15 เป็นคดีอาญาที่ยอมความได้มั้ยคะ ?

2.แล้วถ้าผู้ข่มขืนโดนโจรวางยาแล้วพาไปข่มขืน แต่เจ้าตัวไม่รู้ตัว (รู้สึกว่าเป็นการข่มขืนต้องแจ้งภายใน 3 เดือน)  แต่พอหลังจาก 3 เดือน แล้วมีหลักฐานเป็นคลิปที่ฝ่ายชายถ่ายไว้ แต่มันเลยอายุความไปแล้ว ถ้าฝ่ายหญิงจะไปแจ้ง สามารถทำได้มัยคะ ?

1. มันต้องดูเป็นกรณี ๆ ในแต่ละข้อเท็จจริงไปครับ เช่น ถ้ามิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล ไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย หรือมิได้กระทำแก่บุคคลดังระบุไว้ในมาตรา 285 ก็ยอมความกันได้ครับ

2. ก็ถ้ามันเป็นคดีอาญาที่เข้าข่ายความผิดต่อส่วนตัวหรือสามารถยอมความกันได้ตามกฏหมาย ไม่ว่าจะมีหลักฐานเด็ดอะไรแค่ไหน หากคุณไม่ทำการแจ้งความร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนก็ปล่าวประโยชน์ครับ เพราะคนทำจะลอยนวลสบาย ๆ ครับ

ปล...เข้าใจว่าคุณอยากรู้และศึกษาในเรื่องของกฏหมายแต่ถ้าจะให้ผมอธิบายทั้งหมดอย่างละเอียดหรือมานั่งตอบคำถามคุณทีละอย่าง ๆ ตามที่คุณพึ่งเริ่มสงสัยมาเรื่อย ๆ นั้นคงเป็นไปไม่ได้ครับเพราะกฏหมายมีหลายเรื่องหลายฉบับหลายมาตรา และมีความละเอียดลึกซึ้งที่ซับซ้อนมาก ซึ่งคุณจะไม่มีวันหายสงสัยได้เพราะมันจะมีสิ่งหรือประเด็นแห่งความอยากรู้หรือสงสัยได้ไม่รู้จบ ทางที่ดีผมว่าคุณน่าจะใช้ความสงสัยในยามที่จำเป็นหรืออยากรู้ที่สุดมากกว่าการถามไปเรื่อย ๆ เพื่ออยากรู้โดยที่ไม่ได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นนะครับ เพราะผมหรือท่านอื่นก็คงจะไม่มีเวลามานั่งตอบความสงสัยของคุณได้หมดเป็นแน่แท้ แต่ผมบอกได้อย่างนึงครับว่า หากว่าคุณสนใจและอยากรู้เรื่องกฏหมายจะศึกษาให้เป็นเรื่องเป็นราวไปเลยก็ดีไม่น้อยนะครับผมก็ยินดีและสนับสนุนหากว่าคุณจะศึกษาด้านนี้โดยเฉพาะ เพราะถึงตอนนั้นคุณจะได้รู้คำตอบของความสัยสัยหรือสิ่งที่คุณอยากรู้ในข้อกฏหมายทุกอย่าง เรียนแล้วสนุกครับหากว่าคุณสนใจและชอบมันจริง ๆ ก็จะไม่มีอะไรยากอย่างที่คิดครับ

แต่ถ้ามีเรื่องทุกข์ใจอะไรที่อยากให้ช่วยไขข้อข้องใจก็ยินดีเสมอนะครับ  หากตอบได้จะตอบให้ครับ

 ขอบคุณมากๆๆคะ 

เด๊่ยวเราไปหาหนังสือมาศึกษา

เพราะตอนเด็กๆชอบกฎหมายมากๆ

แต่พอตอนเข้ามหาลัย ไมไ่ด้เรียนทางด้านนี้เลย

แต่ตอนนี้ก็กลับมาสนอีกครั้งคะ

ยังไงก็ขอบคุณมากๆคะได้ความรู้แยะเลย

กาญ มีเรื่องจะถาม เกียวกับกฎหมายอาญามาตรา 95 ถ้าฟ้องแล้วและได้ตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีเเละหลบหนี้ระหว่างฎีกาการนับอายุความควรนับเเต่ เมื่อผู้ต้องหาหลบหนี้ หรือนับเเต่วันที่ศาลงดการพิจารณา   ขอความกรุณาสำหรับผู้รู้ด้วยค่ะ