[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
เหตุการณ์ในโรงเรียน | |
นักเรียนหญิงม.3 อายุ 15 ย่าง 16 ถูกครู โรงเรียนเอกชน (แต่งงานแล้ว) พาไปกระทำอนาจารย์ในโรงแรมม่านรูด สอบถามแล้วนักเรียนหญิงยินยอมไปกับครูเองโดยไม่ได้บังคับขืนใจ แต่ครูก็ใช้คำพูดหว่านล้อมว่าจะรับผิดชอบ เหตุการณ์ดำเนินมาเป็นระยะเวลาประมาณ 8 เดือนแล้วโดยที่มีเพศสำพันธ์กันประมาณเดือนละ 3-4 ครั้ง อยากทราบว่าผู้ปกครองของนักเรียนจะสามารถเอาผิดกับครูคนนี้ได้หรือไม่ และเป็นความผิดมาตราที่เท่าไหร่ครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ คนข้างบ้าน :: วันที่ลงประกาศ 2005-04-04 13:22:21 IP : |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (85391) | |
มาตรา 283 ทวิ ผู้ใดพาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ผู้ กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ ผู้ใดซ่อนเร้นบุคคลซึ่งถูกพาไปตามวรรคแรกหรือวรรคสอง ต้องระวางโทษตามที่ บัญญัติในวรรคแรกหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี ความผิดตามวรรคแรกและวรรคสามเฉพาะกรณีที่กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปี เป็นความผิดอันยอมความได้
มาตรา 285 ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 276 มาตรา 277 มาตรา 277ทวิ มาตรา 277ตรี มาตรา 278 มาตรา 279 มาตรา 280 มาตรา 282 หรือมาตรา 283 เป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ ราชการหรือผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือในความอนุบาล ผู้กระทำต้อง ระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ หนึ่งในสาม
มาตรา 318 ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท ผู้ใดโดยทุจริต ซื้อ จำหน่าย หรือรับตัวผู้เยาว์ซึ่งถูกพรากตามวรรคแรกต้องระวาง โทษเช่นเดียวกับผู้พรากนั้น ถ้าความผิดตามมาตรานี้ได้กระทำเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจารผู้กระทำต้อง ระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปีและปรับตั้งแต่หกพันบาท ถึงสามหมื่นบาท
7986/2540 โจทก์ พนักงานอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ จำเลย นายสุรชัย ศรีงาม อาญา อายุความร้องทุกข์ของความผิดอันยอมความได้ อนาจาร ข่มขืนกระทำชำเรามิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล อนาจารศิษย์ (มาตรา 96,278,281,285) วิธีพิจารณาความอาญา สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับ (มาตรา 39) โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278,285 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 278,285 จำคุก 4 ปี จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟัง ได้ว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียหาย 15 ปีเศษ และเป็นนักเรียนอยู่ในโรง เรียนบ้านจะหลวย อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ จำเลยรับราชการ เป็นครูอยู่ในโรงเรียนดังกล่าว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของ โจทก์ว่า ผู้เสียหายเป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลของจำเลยหรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า จำเลยเคยสอนผู้เสียหายขณะเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 5 เป็นเวลา 1 ปี จำเลยมีหน้าที่รับผิดชอบด้านกิจการและวินัย ของนักเรียน และอาจารย์ใหญ่ได้มอบหมายให้จำเลยสอนทุกกลุ่ม วิชาในชั้นเรียน ผู้เสียหายจึงเป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลและเป็น ผู้อยู่ในความควบคุมของจำเลยตามหน้าที่ราชการนั้น เห็นว่า ความหมายของข้อความที่ว่าศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 285 นั้น มิได้หมายถึงเฉพาะผู้ที่มีความ สัมพันธ์ในฐานะครูหรืออาจารย์ซึ่งมีหน้าที่สอนหรือเคยสอน ศิษย์เท่านั้น แต่ครูหรืออาจารย์ต้องมีหน้าที่ควบคุมดูแลปกป้อง รักษาตัวศิษย์และกระทำความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติต่อศิษย์ ในระหว่างมีหน้าที่ดังกล่าวด้วย คดีนี้ข้อเท็จจริงตามทางนำสืบ ของโจทก์ได้ความว่า จำเลยไม่มีหน้าที่ดังกล่าวในขณะเกิดเหตุ เพราะเหตุเกิดที่บ้านนายไพศาลและนอกเวลาควบคุมดูแลของ จำเลย ดังนั้น แม้จำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหายตามฟ้อง การกระทำของจำเลยก็มิใช่กระทำต่อศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล ส่วนที่โจทก์ฎีกาอ้างว่า ผู้เสียหายเป็นผู้อยู่ในความควบคุม ของจำเลยตามหน้าที่ราชการ เป็นข้ออ้างที่มิได้กล่าวในฟ้อง เป็นเรื่องนอกฟ้องซึ่งถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นมาว่ากันมาแล้ว แต่ในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย ให้ เมื่อการกระทำของจำเลยไม่ต้องด้วยกรณีที่ต้องรับโทษหนัก ขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 285 หากเป็นเพียงความ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 และมิได้กระทำ ต่อหน้าธารกำนัล ไม่เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตราย สาหัสหรือถึงแก่ความตายจึงเป็นความผิดอันยอมความได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 281ซึ่งผู้เสียหายต้อง ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน คดีนี้เกิดเหตุเดือนธันวาคม 2537 ผู้ เสียหายร้องทุกข์เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2538 เกินเวลา 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดคดีจึงขาด อายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 สิทธินำคดี อาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ อาญา มาตรา 39 (6) โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง โดยไม่จำต้อง วินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดหรือไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ ฟังไม่ขึ้น" พิพากษายืน (สมบัติ เดียวอิศเรศ - จำลอง สุขศิริ - ไสว จันทะศรี) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปมุข 0-1820-2236 วันที่ตอบ 2005-04-05 15:17:20 IP : |
ความคิดเห็นที่ 2 (85815) | |
ขอขอบคุณสำหรับคำตอบครับ จากที่ท่านกรุณาตอบมา เค้าคดีนี้สรุปว่าทำอะไร ไม่ได้เลยเหรอครับ เพราะครูคนนี้ปฏิเสธที่จะรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนข้างบ้าน วันที่ตอบ 2005-04-06 11:30:37 IP : |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1088537 |