ReadyPlanet.com


สิทธิในการเลี้ยงดูบุตร


ผมมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนหนึ่ง   ต่อมาผู้หญิงคนนี้ตั้งครรภ์   ซึ่งมีเหตุหลายประการให้เชื่อว่าเป็นลูกผมแน่

 แต่เพราะช่วงนั้นทะเลาะกัน  ผู้หญิงเธอกลับไปแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับชายอื่น ( ท้องก่อนไปแต่ง)  โดยไม่

 บอกผมสักคำว่าตั้งครรภ์  ทั้งที่ผมก็มีอาชีพการงานที่มั่นคงสามารถดูแลบุตรได้    ทั้งนี้ปัจจุบันเรายังติดต่อกันด้วยมิตรภาพที่ดีอยู่  เพราะผมเชื่อว่าเด็กในท้องเป็นลูกของผมและฝ่ายหญิงเองก็ทราบดี   

 

 

 

   คำถามคือ    1.  ตอนนี้เด็กในครรภ์อายุ  5  เดือน หากเด็กเกิดมาผมสามารถเรียกร้องให้ตรวจ   DNA  ได้หรือไม่   โดยฝ่ายหญิงผู้เป็นแม่ยินยอม   แต่ไม่ต้องการแจ้งให้ฝ่ายชายที่จดทะเบียนสมรสทราบ เนื่องจากเกรงจะเกิดปัญหาในครอบครัว   ( เพราะเคยทราบมาว่าหากแต่งงานแล้วต้องได้รับความยินยอมจากพ่อแม่  )

 

                      2.   กรณีข้อ 1  ทำไม่ได้  แต่ผมสามารถทำให้ฝ่ายชายและหญิงคู่สมรสยินยอมได้    และกรุ๊ปเลือด

หรือ DNA  ระบุว่าเป็นลูกของผมจริง   ด้วยความรักและอยากดูแลบุตรบ้าง  ผมสามารถร้องขอต่อศาล  ให้สามารถมีสิทธิในการเลี้ยงดู  หรือดูแลบุตรร่วมด้วยได้หรือไม่   เช่น  อาจขอให้ผมได้ดูแลลูก 1 วันต่อสัปดาห์ก็ยังดี   แต่กลัวทางฝ่ายชายไม่ยินยอม ( ผมพอมีหวังบ้างไหมครับ   ผมรักและอยากเห็นหน้าลูกมาก   )



ผู้ตั้งกระทู้ B :: วันที่ลงประกาศ 2007-12-08 19:21:18 IP : 58.8.95.74


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1307153)

1.เมื่อหญิงมีสามีถูกต้องตามกฎหมายถ้าจะมีการตรวจ DNA  ของบุตร  ต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาของเด็กก่อนครับ

2.  ถ้าบิดามารดาเด็กยินยอมและเห็นด้วยคุณก็สามารถทำตามที่คุณต้องการได้เสมอครับ

-คำเตือน     แม้ในความเป็นจริงเด็กอาจเป็นบุตรของคุณก็เป็นได้    แต่เมื่อหญิงเขาไปสมรสกับชายอื่นอย่างถูกต้อง  คุณไม่ควรมาฟื้นฝอยหาตะเข็บให้ครอบครัวเขาแตกแยกเลยครับ   ถ้าคุณรักเด็กอย่างจริงใจควรปล่อยเขาไปเถอะ  คิดว่าสามีเขาน่าจะพอมีปัญญาเลี้ยงบุตรของเขาได้   ถ้าคุณทำตัวเป็นผู้หวังดีประสงค์ร้าย   คุณจะเป็นผู้สร้างตราบาปให้เกิดในครอบครัวของเขาอย่างแน่นอน   ความหวังดีของคุณผมว่ามันน่าจะสายเกินไปครับ   ถ้าคุณมีความรักหญิงคนนั้นอย่างใจจริง  คงจะพอทราบว่าเขาน่าจะตั้งครรภ็หรือไม่   ถ้าคุณตัวทำให้เขาไว้วางใจพอจะฝากชีวิตไว้กับคุณได้   เขาน่าจะไม่ปิดบังคุณแน่นอน   ผมว่าคุณอาจไม่ใส่ใจในตัวเธอมากพอ   เธอจำเป็นต้องหาที่พึ่งพิง คงตำหนิเธอไม่ได้  เพราะเธอย่อมทราบดีว่าการท้องไม่มีพ่อมันสาหัสขนาดไหนสำหรับลูกผู้หญิง เมื่อเธอมีที่พึ่งพิงที่เป็นหลักแหล่ง  คุณควรปลีกตัวให้ห่างตัวเธอมากที่สุด   เพราะถ้ายังขืนพัวพันกันอีกอาจเกิดปัญหาครอบครัวขึ้นมาได้  แล้วคุณจะรับผิดชอบไหวหรือครับ.......ถ้าคุณรักเด็กที่คุณคิดว่าเป็นบุตรของคุณจริง  คุณมีทรัพย์สินอะไรก็ทำพินัยกรรมมอบให้เด็กก็สามารถทำได้ หรือโอนเงินเข้าบัญชีแม่ของเด็กโดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวให้ครอบครัวเขาแตกร้าวก็สามารถทำได้   ถ้ารักเธอจริงปล่อยเธอไปเถอะครับ    อย่าดึงเธอลงห้วงนรกเลย   ความหวังดีของคุณมาสายเกินไปแล้วครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2007-12-09 10:20:00 IP : 125.26.109.173


ความคิดเห็นที่ 2 (1307353)

ชอบคุณมากครับ ผู้เฒ่า สำหรับคำเตือน    

เหมือนที่คุณแม่ผมพูดเลย

ผมจะลองไปทบทวนอีกทีครับ

ที่ผมคิดแบบนี้เพราะเชื่อความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย  เกิดลูกหน้าเหมือนผม และกรุ๊ปเลือด ไม่ใช่  

ฝ่ายชายทางนู้นก็ต้องสงสัยและคาดคั้นความจริงอยู่ดี

ซึ่งเมื่อทราบแล้วคิด  ว่าเค้าจะรักลูกผมเหมือนเดิมหรือ

พ่อที่ไหนก็ต้องรักลูกตัวเองมากว่าอยู่แล้วหากทางนั้นเค้ามีลูกเป็นของตัวเอง

เกรงว่า  เด็กอาจมีปัญหาได้    พ่อที่ไหนก็อยากให้ลูกมีคุณภาพชีวิตที่ดีครับและหากมีปัญหาแล้ว   เรื่องของจิตใจไม่สามารถปลอบประโลมได้ด้วยเงินนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น B วันที่ตอบ 2007-12-09 14:06:10 IP : 58.8.87.122


ความคิดเห็นที่ 3 (1307385)

-ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย    แต่คนที่พูดความจริงโดยไม่ใช่ปัญญาไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน  ต้องตายหรือประสบเคราะห์กรมอย่างคาดไม่ถึงมามากต่อมาก.....ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย  เขาใช้เพื่อสั่งสอนหรือเตือนใจผู้คนว่าเมื่อกระทำการใดถูกต้องตามกฎหมายและศีลธรรมไม่ต้องหวั่นเกรงอะไร   เพราะความจริงคือความจริง  ความจริงจะเป็นเกราะป้องกันตัวผู้ประพฤติดีประพฤติชอบในที่สุด     แต่....ในกรณีของคุณ   คุณทำผิดพลาดมาแต่ต้น   คือมีเพศสัมพันธ์กับหญิงที่คุณยังไม่แต่งงาน  แม้ไม่ผิดกฎหมายเพราะฝ่ายหญิงยินยอมพร้อมใจ   แต่ในทางศีลธรรมคุณกระทำความผิดเต็มประตู   วันนี้คุณยังหนุ่มแน่นคงภูมิอกภูมิใจในตนเองเสียเต็มประดา  ที่สามารถเลือกนอนกับหญิงที่พึงพอใจคนไหนก็สามารถทำได้   อาจเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาดีและมีเงินเป็นเหยื่อล่อ    แต่ถ้าวันหนึ่งเมื่อคุณมีบุตรสาวหรือน้องสาวหรือญาติสนิทที่เป็นสาวและถูกใครกระทำล่วงละเมิดเช่นคุณกระทำบ้าง    คุณคงเข้าใจได้ดีว่าคุณถูกต้องหรือไม่    

-เรื่องสามีเขาจะสงสัยว่าเด็กไม่ใช่บุตร  เรื่องนั้นเป็นปัญหาของพวกเขา ไม่ใช่ปัญหาของคุณครับ   ผมว่าถ้าคุณไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวน่าจะไม่มีอะไรน่าห่วง   เพราะคนไม่มีบุตรไปขอเด็กจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดู   เขายังรักและห่วงใยเหมือนลูกในไส้ก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย   หรือชายที่สมรสกับภรรยาที่มีลูกติดมา   เขายังรักและเมตตาเด็กเหมือนบุตรของเขาก็มีอยู่มากมาย   ผมว่าคุณไปวิตกแทนเขาเกินไปแล้วครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2007-12-09 14:38:30 IP : 125.26.109.173


ความคิดเห็นที่ 4 (2871812)

สิทธิในการเลี้ยงดูบุตร

เนื่องจากว่าพี่ชายดิฉันได้แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งแต่ไม่ได้จดทะเบียนกัน พอเด็กคลอดออกมาทางบ้านดิฉันก็รับเลี้ยงอย่างดี ให้การศึกษาที่ดี โดยที่ พ่อและแม่ขาดความรับผิดชอบ โดยตัวแม้ไม่มีความรับผิดชอบอะไรในตัวลูกดี ซึ่งตอนนี้เด็กอายุ 8 ขวบแล้ว แต่พอผู้หญิงคนนี้ทะเลาะกับครอบครัวดิฉัน ก็แอบขโมยเด็กไป และไปแจ้งเด็กลาออกจากโรงเรียนกลางครัน ซึ่งแม้แต่การร่ำลา ดิฉันก็ไม่สามราถได้กอดหรือร่ำราหลาน และที่สำคัญเขาไม่ให้หลานโทรมาหาดิฉันเลย โดยครอบครัวฝ่ายหญิงค่อนข้างไม่มีฐานะ แต่เขาใช้ลุกในการต่อเรื่อง ใช้ลูกในการเป็นเครื่องมือแก้แค้น อย่างนี้ทางดิฉันจะสามราถรับหลานมาได้หรือเปล่า เนื่องจากทางฝ่ายหญิงไม่เคยมาเลี้ยงดูเลย อยากจะขอคำตอบค่ะ กลุ่มใจมาก เนื่องจากสิทธิในความเป็นแม่เขาเอยะมาก เราไม่สามารถเอาหลานกับมาได้เลยหรอค่ะ ผู้หญิงคนนี้เขาเอาหลานไปอยู่ต่างจังหวัด ส่วนตัวเขาอีกไม่นานก็จะมาหางานที่กรุงเทพทำทิ้งให้หลานอยุ่กับตายาย ที่ไม่เคยได้เลี้ยงดูเขาเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น เนเน่ (narin_su2-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-07-07 22:46:31 IP : 203.156.28.250


ความคิดเห็นที่ 5 (3013377)

ดิฉันอยู่กินกับสามีมา7ปี มีลูกด้วยกัน2 คนอยากจะเลิกกับสามีแต่กลัวว่าจะไม่ได้ดูแลลูก เพราะว่าดิฉันทำงานอยู่บ้านกับสามีไม่ได้ไปทำงานข้างนอก รายได้ทุกอย่างในบ้านก้อคือช่วยกันจ่ายไป ซึ่งตอนแรกดิฉันทำงานนอกบ้านและช่วยกันออกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูก ดิฉันกลุ้มใจมากว่าถ้าหากเกเลิกลากับสามีไปตัวเองก้อจะไม่มีงานทำแล้วศาลจะตัดสินให้ดิฉันดูแลลูกหรือเปล่าคะ อ้อ เวลาลูกเข้าผ่าตัดฝ่ายชายก้อเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น จอย วันที่ตอบ 2009-05-27 13:42:58 IP : 124.120.136.198


ความคิดเห็นที่ 6 (3056056)

ดิฉันมีหลานชายที่ได้จดทะเบียนสมรสกับแฟนเขาและมีลูกชายด้วยกันคนหนึ่งตอนนี้อายุประมาณสี่ขวบ หลานชายและหลานสะไภ้มีปากเสียงกันบ่อย บางคร้งถึงลงมือลงไม้กัน และฝ่ายหญิงจะไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันว่าถูกทำร้ายร่างกายทุกครั้ง ล่าสุดทะเลาะกัน และมีการลงมือลงไม้กัน ฝ่ายหยิงเลยหอบลูกหนี ย้ายโรงเรียนลูก และห้ามฝ่ายชายไปบ้านถ้าไม่มีผู้ใหญ่ไปด้วย แต่พ่อก็โทรศัพท์คุยกับลูกทุกวัน
ตอนที่อยู่ด้วยกัน เค้าอยู่บ้านพ่อแม่ของหลานชาย ค่าใช้จ่ายเรื่องลูกทางฝ่ายชายออกทั้งหมด ฐานะการเงินทางครอบครัวหลานชายดีกว่าของหลานสะไภ้ และรายได้ของหลานชายก็ดีกว่าของหลานสะไภ้มาก
อยากถามว่า หลานชายจะทำอย่างไรให้ได้สิทธิเลี้ยงดูบุตร

ผู้แสดงความคิดเห็น น้าห่วงหลาน วันที่ตอบ 2009-09-26 17:20:58 IP : 124.157.175.214


ความคิดเห็นที่ 7 (3246958)

มีหลานสาวแต่ว่าพ่อแม่เขาแยกทางกันแล้วหลานก้ออยู่กะพี่สวแต่พ่อของเขามาขโมยหลานออกจากโรงเรียนอันความผิดเปนยังไงบ้างอยากทราบค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น 55555 วันที่ตอบ 2011-06-03 01:27:30 IP : 61.90.151.254



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.