ReadyPlanet.com


มีเรื่องทุกข์ร้อนใจเกี่ยวกับหนี้สินค่ะ


ดิฉันมีความทุกข์ใจเป็นอย่างมาก เวลานี้ดิฉันถูกฟ้องล้มละลาย ซึ่งหนี้รวมต้นด้วยพร้อมดอกเบี้ย เป็นเงินถึงล้านสี่-ล้านห้า ซึ่งหนี้ส่วนนี้ดิฉันไม่ได้เป็นคนสร้าง ดิฉันมีพี่น้องทั้งหมด 7คน ซึ่งที่ดิน

ผืนนี้ติดจํานองเมื่อครั้งพ่อมีชีวิตอยู่ พ่อร้องไห้มาหาดิฉันว่าช่วยไถ่ไว้ สมบัติปู่ย่า พ่อให้กับเจ้าเพื่อดูแลรักษาไว้ คนไหนลําบากก็ให้ช่วยเหลือ ซึ่งสามีดิฉันไม่ยอมไถ่ บอกว่ามีเงินไปซื้อที่ไหนก็ได้

ดิฉันท้องลูกคนเล็กได้แปดเดือน ขอร้องเขาให้ช่วยพ่อด้วยสงสารพ่อ เท่านั้นไม่คิดที่จะยึดไว้เพียงคนเดียว ต่อมาพี่น้องรู้ว่าดิฉันมีชื่อในโฉนดเพียงคนเดียว จึงมาร้องขอให้ขายแบ่ง ซึ่งยุคชาติชายที่กำลังบูม ที่ดินมีราคา ดิฉันบอกว่าไม่ขาย เขาว่าดิฉันนั้นจะฮุบไว้คนเดียว เหมือนกับลุงซึ่งโกงพ่อ ทุกคนไม่ได้ช่วยดิฉันไถ่ถอนเลย แต่ทุกคนจะมาเอาที่พ่อให้ดิฉันเก็บรักษาจะขายให้ได้ ดิฉันไม่โกงแต่ยอมให้ทุกคนมาลงชื่อร่วมโฉนด แต่ไม่นานพวกญาติพี่น้องเดือดร้อนอีกเรื่องถึงคุกตราง มาขอให้ช่วยอีก เอาที่ดินผืนนี้จํานองธนาคาร อย่างเร่งด่วน จํานองเฉพาะส่วนไม่ได้ด้วยความเร่งร้อน จึงยอมให้เขา โดยมีชื่อติดอยู่ด้วยและยอมเซ็นเพื่อให้เขาเพื่อจะได้พ้นคุก เหตุการณ์ผ่านมาเนิ่นนาน พวกเขากู้จํานวน 1 ล้าน เขาถามดิฉันว่าจะเอาบ้างไหม ดิฉันไม่เอาไม่อยากเป็นหนี้ แต่เวลานี้ พวกเขาซึ่งจะกินไปยังไม่มี จะเอาที่ไหนมาใช้หนี้ เขาสืบทรัพย์ว่าดิฉันมีบ้านอยู่คนเดียวซึ่งผ่อนพึ่งจะหมด ทาวน์เฮ้าเอาขึ้นเงินเพิ่มธนาคารครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าจะหมดเลือดตาแทบกระเด็น หนี้หนนี้มันใหญ่หลวงยิ่งนัก ซึ่งสามีดิฉันรู้คิดว่าตายยกครัวแน่ (ครัวดิฉันไม่ใช่คนอื่น) ทุกวันนี้ดิฉันใช้ศีลคํ้าเสาเรือนไม่อย่างนั้นดิฉันคงอยู่ไม่ได้ เขาทํางานเหนื่อยเครียดงาน ทําลายข้าวของ ทะเลาะกันไม่เว้น

ลูกเต้าขวัญหนีดีฝ่อ เขาไม่มีส่วนผิดอะไร ผิดเต็มๆคือดิฉัน

พี่น้อง 7 คน มีชื่อในโฉนด 5 คน นอกนั้นเอกสารไม่พอจึงไปรวมกับคนที่ 7

คนที่ 1 พี่สาวตายแล้ว

คนที่ 2 พิการตอนแก่ 1 แสน

คนที่ 3 1 แสน

คนที่ 4 1 แสน

คนที่ 5 ดิฉันเอง ไม่เอากลัวเป็นหนี้

คนที่ 6 4 แสน (ไม่มีชื่อในโฉนด)

คนที่ 7 3 แสน (ผู้ถือเงิน) รับผิดชอบ

เวลานี้ธนาคารไล่บี้เอาทรัพย์จากดิฉันคนเดียว ดิฉันมีบ้านซึ่งเป็นทรัพย์ งานไม่ได้ทําอาศัยสามีกินใช้และส่งให้ลูกคนเล็กเรียน รามมาถึงบ้านคิดว่าดิฉันจะทําอย่างไร เอาเงิน เอาบ้าน สามีคง
ฆ่ายกครัวแน่ ตอนนี้ทางออกที่ดิฉันจะหามาใช้หนี้ได้มีหนทางเดียวที่ดิฉันคิดคือ ขายไต 1 ข้าง ตับอีก 1 ข้าง เพื่อไม่ให้สามีรับรู้ในหนี้สิน

ดิฉันอายุ 57 ปี อยากอยู่เพื่อชดใช้หนี้กรรม ไม่อยากให้ใครมารับหนี้ในหนนี้ ที่ดินก็เสียไปแล้ว 1 แปลง ตายไปก็กว้างศอกยาววา คนเขามีที่ทางเยอะๆ เขายังถวายวัดได้ ดิฉันพยายามปรง แต่หนี้ที่ซุกหัวนอนซึ่งจะมาไล่บี้เอาสงสารลูกซึ่งยังเรียนไม่จบ ซึ่งเขาจะต้องมารับกรรมที่ดิฉันสร้าง

ดิฉันแต่งตั้งทนาย ซึ่งฟังดูแล้วไม่พ้นแน่เรื่องบ้าน สามีต้องรู้แน่ถ้าล้มละลาย แล้วต่อๆไปอะไรจะเกิดขึ้น ใครก็ได้ช่วยรับซื้ออะไหล่ชีวิตฉันที เพื่อชดใช้หนี้กรรม อย่าให้ลูกและสามีมารับกรรมด้วยเลย



ผู้ตั้งกระทู้ สมบัติ :: วันที่ลงประกาศ 2007-12-22 15:45:14 IP : 58.136.52.230


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1339327)
-คุณไม่ได้ถามเพียงระบายความในใจมา  ก็ขออนุญาตแสดงความเห็นตามสมควร    คุณไม่ทราบแต่แรกหรืออย่างไรผมไม่เข้าใจ   ที่ให้พี่น้องเอาที่ดินไปจำนองกับธนาคาร  โดยคุณเข้าใจผิดว่าคุณไม่ได้มีส่วนในหนี้ แต่ในความเป็นจริงเมื่อคุณมีชื่อในเอกสารสิทธิ์  เมื่อกู้เงินมาและเอาเอกสารสิทธิ์นี้ไปค้ำประกันการกู้เงิน  แม้คุณไม่ได้นำเงินไปใช้แม้แต่บาทเดียว  แต่คุณต้องเป็นลูกหนี้ร่วมเต็มๆ    ถ้าพี่น้องคุณไม่มีทรัพย์สินใดๆ   เจ้าหนี้เขาย่อมพุ่งเป้ามาหาคุณที่พอมีทรัพย์สินเช่นบ้านพร้อมที่ดิน  และตามกฎหมายเจ้าหนี้สามารถยึดไปขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ได้เสมอ....ขอแนะนำให้คุณขายที่ดินแปลงนี้เพื่อไปชำระหนี้จำนอง หรือเจรจากับธนาคารขอผ่อนชำระเป็นงวดๆจนกว่าจะหมดหนี้ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2007-12-23 19:39:31 IP : 125.26.109.187


ความคิดเห็นที่ 2 (1339513)

ดิฉันรู้ทุกอย่าง  แต่พวกเขาบอกว่าเขาจะจัดการกันเองไม่ให้ดิฉันเดือดร้อนเพราะเขาคิดว่าจะจัดการกันได้  แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ยังไม่สามารถจัดการกันได้  ขายก็ขายไม่ได้ ที่ไม่มีทางออก  เขาอยู่ทางใต้  ปัตตานี   ที่อยู่ฉะเชิงเทรา   ทํามาหากินลําบาก   ดิฉันไม่ได้ยุ่งเกี่ยวเลย  เพราะเขาบอกว่าทรัพย์สินเกินหนี้   สุดท้ายดิฉันต้องตายทั้งเป็นกินไม่ได้นอนไม่หลับ  ต้องพึ่งยา  เวลานี้ดิฉันแต่งตั้งทนาย  แต่วินาทีสุดท้ายแล้วค่ะ  ทนายบอก  จะพาไปคุยกับเจ้าหนี้ คือธนาคาร  แต่อยู่ปัตตานีดิฉันกลัวค่ะ วันพุธนี้จะโทรติดต่อให้คุยกันทางกรุงเทพ วันที่ 11ม.ค. ต้องไปรับสภาพหนี้   คงจะเป็นเหนี้นีฉพาะส่สวนไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่าเลย คะ  สิ่งสําคัญสามีดิฉันไม่อาจจะให้รู้ได้  ถ้ารู้ทุกอย่างต้องจบแม้แต่เงินและชีวิต  รอโทรคุยเจ้าหนี้คือธนาคาร วันพุธ  ที่26ธ.ค.  นี้  ทนายบอกว่าถ้าเป็นผมผมเห็นใจคงจะพอลดหย่อนให้  แต่หนี้ส่วนที่เหลือตือดอกเบี้ยนั้นก็ต้องไปหากู้ข้างนอกมาใชหนี้เขาอยู่ดี  ดิฉันจะไปเอาจากที่ไหนสามีก็ให้กินให้ใช้แค่พอเดือนๆ ไปไหนมาไหนก็ไม่สะดวก  ตรอมใจจนเป็นไข้  พี่น้องทุกคนกินไม่ได้หอนไม่หลับเหมือนกัน  ไปบนบาลศาลกล่าวแทนดิฉัน  ซึ่งไร้สาระ สิ้นเปลือง สุดท้ายไม่รู้จะเป็นอย่างไรเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น สมบัติ วันที่ตอบ 2007-12-23 23:02:05 IP : 58.136.52.230



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.