ขอรบกวนเรียนถามคุณทนายดังนี้

เนื่องจาก ผมกับภรรยาอยู่กินกันก่อนแต่งงาน แล้วแต่งงานมีบุตร 1 คน ปัจจุบันอายุ 4 ขวบ เคยเลิกรากันคราวหนึ่ง ตอนนั้นนั้นลูกยังเล็กมาก เหตุเพราะเมื่อเราทะเลาะกันแล้วเธอจะหอบข้าวของและลูกกลับไปบ้านพ่อแม่ของเธอ ตอนนั้นเลิกกันไปผมก็ทำอะไรไม่ได้เพราะสิทธิ์ในบุตรเป็นของเธอ ต่อมาคืนดีกันเพราะผมเป็นห่วงลูก ลูกมีพัฒนาการต่ำ และ ขนาดส่วนสูง น้ำหนัก ร่างกายต่ำกว่ามาตรฐาน ผมเป็นห่วงเลยขอคืนดีและขอจดทะเบียนด้วย เธอไม่ยอม ผมเลยขอรับรองบุตรไว้ ศาลตัดสินให้มีสิทธิ์ทั้งคู่ 

   ปัจจุบัน เรื่องเกิดขึ้นอีกแล้ว ในระหว่างที่กลับมาคืนดีกัน 2 ปีเศษ เวลาทะเลาะกัน เรื่องเล็กๆ เธอจะหอบข้าวของและลูก โดยมีพ่อของเธอมารับตลอด ทำเหมือนบ้านผมเป็นหอพักชั่วคราว ปกติผมและเธอจะพักกับบ้านของพ่อแม่ผม ซึ่งผมอยู่ตั้งแต่เด็กๆครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว แต่คราวนี้คงต้องเลิกกัน ไม่ใช่เหตุเพราะมือที่ 3 แต่เป็นเหตุเพราะเธออยากอยู่ที่บ้าน และมีทีท่าว่าจะไปเรียนต่อเมืองนอกเลยอยากเลยจะทิ้งลูกให้พ่อแม่เค้าเลี้ยง  ปกติฐานะทางการเงิน อาชีพผมจะดีกว่าเพราะมีกิจการส่วนตัว รายได้ประมาณ 100000 บาท/เดือน ส่วนเค้าทำงานประจำ รายได้ไม่เกิน 20000 บาท และผมมีเวลาเลี้ยงลูกมากกว่า เพราะผมจะเป็นคนรับส่ง ลูกที่โรงเรียน ส่วนเค้าจะกลับค่ำ 2 -3ทุ่มทุกวัน  ปัจจุบัน สุขภาพจิตลูกแย่มาก ซึมเศร้า เวลาผมไปเยี่ยมยุงกันเต็มหน้า ผอมลง เงียบๆ ดูห่างเหินไปเลย  และลูกยัง พูดในทำนองว่าผม ว่าที่บ้านผม ในทางไม่ดีอีก ทำให้ผมเสียใจมาก  

อยากถามว่า หากผมยื่นร้องขอเป็นผู้ปกครองเด็กคนเดียว มีโอกาศชนะไหม  อยากทราบว่าจะเอาอะไรเป็นเกณฑ์ตัดสินและพิจารณา ต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง แล้วหากผมร้องไปแล้ว โอกาศที่ผมจะให้ฝ่ายเค้าเป็นผู้ปกครองเด็กฝ่ายเดียวมีโอกาศไหม  ขอบคุณครับ