ReadyPlanet.com


ช่วยด้วยครับ โดนกลั่นแกล้ง ข้อหาพรากผู้เยาว์คับ


เรื่องอาจยาวหน่อยนะครับ ผมหวังดีแต่กลับโดนกลั่นแกล้งใครรู้วิธีช่วยผมได้บ้างครับ

เดิมที่ผมอาศัยอยู่ที่คอนโดและได้เดินมาซื้อของที่มินิมาดหน้าปากซอยบ่อยๆมินิมาทเป็นร้านขายของชำเล็กๆ ซึ้งร้านนี้มีน้องผู้หญิงอายุยังไม่ถึง 15 ปี น่าจะเรียนอยู่ มาขายของทุกวัน ผมเห็นน้องเข้าขยันตั้งใจช่วยพอแม่ทำงาน เลยได้คุยกันและเนื่องจากผมมาซื้อของบ่อย อยู่มาวันหนึ่งน้องที่ร้านขายของมาขอเบอร์โทรศัพท์จากผมบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษาตอนแรกผมจะไม่ให้แต่สุดท้ายก็ให้ไปเพราะเห็นน้องเขาขยันทำงาน
   หลังจากนั้นน้องเขาก็โทรมาหาผมแล้วเราเรื่องให้ผมฟังว่าเขาโดนพ่อแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งไม่ส่งเรียนหนังสือเพราะเคยมีเรื่องโดนป้ายความผิดว่าขโมยของเลยต้องออกจากโรงเรียน และพ่อแม่เลี้ยงก็ไม่เคยส่งเรียนเลยเขาอยากเรียนหนังสือแต่เขาไม่มีเงิน เขาอยากหางานทำให้ผมช่วยหางานให้ ซึ้งพอผมได้ฟังดังนั้นผมก็รู้สึกสงสารเด็ก ว่าต้องมาอยู่กลับพ่อเลี้งแม่เลี้ยงแถมอยากเรียนหนังสือก็ไม่ได้เรียน ผมจึงพยายามหางานให้น้องเขาทำ
   ผมจึงแอบเอาหนังสือจัดหางานให้น้องและให้น้องเขาไปสมัครเอง ประกอบกับน้องเขาบอกว่ากลัวพ่อแม่เลี้ยงรู้จึงขอให้ผมช่วยปิดไว้เป็นความลับ เพราะถ้ารู้จะโดนห้ามไม่ให้ทำงาน ให้ขายของอยู่ที่ร้านอย่างเดียว และจะได้ติดต่อกับน้องเขาทางโทรศัพท์คือพูดง่ายว่าน้องเขาผมโทรหาไม่ได้เพราะน้องเขาไม่มีโทรศัพท์ แต่น้องเขาบอกว่าจะเอาเงินที่ได้โทรมาหาผมถามเรื่องงานเอง
ช่วงนั่นผมก็หางานให้และบอกให้น้องเขาไปสมัครเองตลอดน้องเขาก็ไม่ได้ไป อยู่มาวันหนึ่งน้องเขาโทรมาบอกว่าจะคุยเรื่องงานและให้ช่วยหาที่พักให้แต่พอดีเงินน้องเขาจะหมดแล้วเพราะมีไม่กี่บาทให้ผมขับรถไปหาเขาโดยที่น้องเขาจะเข้าไปรออยู่ที่ซอยเปลี่ยวๆที่ไม่มีคนผ่าน ให้ผมขับรถไปหาเขาและด้วยความเชื่อใจประกอบกับเห็นน้องเขาเป็นคนขยันเลยตัดสินใจขับรถไปหาน้องตามที่นัดไว้ซึ้งผมเมื่อขับมาถึงผมจอดรถอยู่ในซอยเปลี่ยวเปิดกระจกรถคุยกับน้องเขาและดับเครื่อง
 คือเมื่อผมดับเครื่องระบบเซลทัลล็อกจะเปิดประตูรถอัติโนมัติ คุยกันได้ซํกพักพ่อเลี้ยงของเขาได้ขับรถมอไซมาตามหาลูกเลี้ยง พอดีลูกเลี้ยงเห็นเลยหลบเข้ามาในรถผมทันทีพอเลี้ยงเลยหาไม่เจอ ผมเลยบอกกับเขาว่าจะเอาหนังสือฝากงานมาทิ้งไว้ให้แล้วให้เขาไปเอาเองที่ไหนๆน้องเขาอยู่ในรถไม่ถึงสิบห้านาทีด้วยซ้ำก็ให้น้องเขากลับไปที่ร้าน เพราะว่ามันไม่ดีเดียวจะเป็นเรื่อง
 หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องจริงๆคือหลังจากที่น้องเขาขึ้นมาในรถผม น้องเขาจะโทรมาถามว่าอยู่กลับใครที่ไหนยังๆ ซึ้งเริ่มแปลกๆจากปกติที่มาถามเรื่องาน แล้วไปไล่บอกกลับคนอื่นว่าผมเป็นแฟนเขา และมารู้ความจริงทีหลังว่าที่ไม่เรียนหนังสือเพราะพ่อแม่เลี้ยงสงเรียนแล้วแต่ไม่เข้าเรียนหนี้ไปเทียวกับผู้ชาย โดนไล่ออกแล้ว พ่อแม่เลี้ยงส่งไปเรียนที่ กศน ก็ไม่ไปเรียนตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนคือหนีเรียน ไม่ทำอะไรเลย จึงโดนสั่งให้มาขายของที่ร้านเฉยๆซะงั้น
 สุดท้ายผมโดนแม่แท้ๆของเขา(หัวหมอ)ฟ้องร้องฐานข้อหาฟรากผู้เยาว์ วันที่น้องเขาเข้าไปนั่งในรถผมวันนั้น ว่าล่อลวง และกระทำอานาจาร และจะเอาเรื่องผมคาดว่าจะเอาเงินและค่าเสียหายจากผมเป็นจำนวนมาก

ซึ้งหลักฐานที่ผมมีอยู่มีอย่างเดียวคือโทรสับผมใครที่โทรเขามาจะอัดเสียงไว้ทุกสายซึ้งแน่นอนว่าเสียงที่น้องเขาโทรมาคุยเรื่องให้ช่วยหางานก็อยู่ในโทรศัพท์ผมรวมถึงเสียงวันที่น้องเขาตังหมดและบอกให้ผมขับรถไปหาเขาก็อยู่ในโทรสับผม
แต่เนื่องจากเป็นเวลานานทำให้ไฟล์เสียงช่วงแรกที่น้องเขาโทมาคุยเรื่องงานไม่อยู่ในโทรศัพท์ แต่อยู่ในเครื่องช่วงก่อนที่น้องเขาจะโทรเรียกให้ผมมาหาในซอยนั้นประมาณวันสองวันจนถึงปัจจุบันที่เขาโทรมาครั้งสุดท้ายก่อนโดนฝ่ายแม่แท้ๆ(หัวหมอ)
ฟ้องจะเอาเรื่องผม ซึ้งแน่นอนทุกครั้งที่น้องเขาโทรมาหาผม ผมไม่ได้คุยฉันชู้สาวกับน้องเขาเลย แต่หลังจากวันที่น้องเขาเข้ามาในรถ น้องเขาโทรมาคุยฉันท์ชู้สาวใส่ผมตลอดแต่ผมก็บ่ายเบี่ยงไม่คุยเรื่องชู้สาวไปเรื่องงานของน้องเขาตลอดและให้ฝ่ายแม่ฟ้องเอาเรื่อง

ในตอนนี้ผมโดนกลั่นแกล้งเขาอาจให้ลูกสาวเข้ามาในรถผมและจงใจ จะฟ้องร้องเอาเรื่องและค่าเสียหายจากผม หรือบางทีอาจมัดมือชกให้ผมแต่งกับน้องเขาเลยได้ ทั้งที่ผมหวังดีหวังจะช่วยเหลือน้องเขา(ซึ้งผมเขาใจผิดเองความจริงน้องเขาไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลย)

ตอนนี้ผมพอจะมีทางหลุดพ้นข้อหาพรากผู้เยาว์ในวันนั้นได้หรือไม่คับ แล้วควรจะทำอย่างไรต่อไป



ผู้ตั้งกระทู้ โดนกลั่นแกล้ง :: วันที่ลงประกาศ 2008-01-30 21:31:43 IP : 124.157.152.31


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1459664)
-แม้คุณไม่ได้คุยกันฉันชู้สาวกับเด็ก  แต่พฤติการณ์เป็นการพรากเด็กไปจากผู้ปกครองโดยไม่ชอบ   ก็เข้าข่ายพรากผู้เยาว์   คุณมีทางออก  สองทางคือ  ทางแรกยินยอมเสียเงินให้เขาตามที่เขาเรียกร้องเรื่องก็คงจบ    หรือปล่อยให้เรื่องดำเนินการไปตามกระบวนการคือต้องไปจบที่ศาล   แต่ดูๆแล้วคุณน่าจะเสียเปรียบนะครับ.......คุณก็คือประเภทไก่อ่อน  เพียงเจอนิยายน้ำเน่าที่เขาสร้างขึ้นมาก็หลงเชื่อเป็นตุเป็นตะ    ก็คงช่วยอะไรได้ไม่มากแม้จะเห็นใจครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2008-01-31 08:25:12 IP : 203.172.199.250


ความคิดเห็นที่ 2 (1462980)
อืมผมไม่ค่ิอยเข้าใจตรง ที่คุณอัดเสียงนะครับช่วยอธิบายให้ชัดๆทีครับว่าอัดเสียงช่วงไหนยังอยู่บ้าง และช่วงไหนที่หายไปแล้วเพราะตรนีเคือหลักฐานอย่างดีที่จะทำให้คุณหลุดครับ ออ แม่น้องเขาเรียกร้องอะไรไหมครับ? ถ้าเรียกเงินให้ไปแจ้งความเลยครับว่ากรรโชกทรัพย์ เล่นเขาไปก่อนเลยครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้ชวย วันที่ตอบ 2008-02-01 00:28:21 IP : 58.8.85.108


ความคิดเห็นที่ 3 (1462990)
ออ ขอรายละเอียดเรื่องที่แม่เขาขู่คุณด้วยครับจะได้มีทางฟ้องเขากลับครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้ช่วย วันที่ตอบ 2008-02-01 00:30:31 IP : 58.8.85.108


ความคิดเห็นที่ 4 (1463215)

ไฟล์เสียงก่อนหน้านั้นมันลบออกไปแล้วครับไม่ได้คิดว่าจะเกิดเรื่องเลยไม่ได้ แบคอัพไว้

ไฟล์เสียงทีมีอยู่ ช่วงประมาณต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาครับ ก่อนเกิดเรื่องน้องเขาเข้ามาในรถ ประมาณสองสามวันจนถึงที่ได้ติดต่อกันครั้งสุดท้ายหลังจากเกิดเรื่อง น้องเขาโทรมาไม่บ่อยนะครับประมาณอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง แต่ช่วงก่อนเกิดเรื่องโทรมาถี่เกือบๆวันละครั้งได้ครับ
มีไฟล์ที่น่าจะช่วยได้อีกอันว่าเราบริสุทใจคืออันนี้ ที่น้องบอกว่าจะขึ้นมาหาที่ห้องและขอเบอร์ห้องด้วยเซ้าซีมาก แต่ผมไม่ให้เบอร์ห้องแต่ผมลงเอาหนังสือสมัครงานไปให้ข้างล่างเอง พอเอาลงมาให้ยืนรอตั้งครึ้งชมก็ไม่มาเอา(ถ้าเผลอให้เบอร์ห้องไปอาจโดนข้อหาข่มขืนก็ได้ดีนะที่ไม่ให้)ต่อมาเลยโดนมุกตั้งหมดให้แอบมาหาในซอยที่รถแทน

ส่วนข้อหาที่จะโดนพรากผู้เยาว์และกระทำอนาจารย์ครับ โดนปรับติดคุกเห็นว่า 20 ปีและให้ชดใช้ค่าเสียหาย

น้องเขาวิ่งขึ้นมาหลบพ่อเลี้ยงในรถผมเองและผมก็ไม่ได้ทำอะไรน้องเขาเลยซักพักก็ไล่ให้ลงไปด้วยซ้ำหรือบางที่อาจเป็นแผนของเขาที่ให้พ่อเลียงทำเป็นไม่เห็นก็ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น โดนกลั่นแกล้ง วันที่ตอบ 2008-02-01 01:36:41 IP : 202.47.247.136


ความคิดเห็นที่ 5 (1468024)
ถ้าคุณมีไฟล์หลักฐานอยู่แนะนำให้เขาฟ้องไปเลยครับ เพราะหลักฐานคุณคือไฟลเสียงซึ่งเป็นหลักฐานที่แน่นหนาพอที่จะให็ศาลท่านเห็นว่าคุณไม่ไ้ด้มีเจตนาที่จะพรากผู้เยาว์ครับ เพราะการกระทำความผิดอาญาการกระทำนั้นจะเป็นความผิดต่อเมื่อกระทำโดยเจตนาครับ เพราะเท่าที่ผมอ่านมาอีกฝ่ายดูแล้วไม่มีหลักฐานอะไรเลยแถมตอนอยู่ในรถก็ไม่มีใครเห็น มีแต่คุณกับน้องเขา คิดว่าตรงนี้อีกฝ่ายนำสืบไม่ได้แน่นอนครับว่าน้องเขาขึ้นไปบนรถคุณ ให้คุณปฏิเสธไปเลยครับว่าไม่ได้พาน้องขึ้นรถ แค่เอาเอกสารไปให้เฉยๆตามไฟลเสียงที่บันทึก และให้ฟ้องอีกฝ่ายหนึ่งกลับด้วยข้อหาหมิ่นประมาท เพราะน้องเขาเที่ยวเอาคุณไปโพทนาว่าเชิงฉันชู้สาวซึ่งทำให้คุณเสียเชื่อเสียง แนะนำให้ฟ้องทั้งทางแพ่งและ ทางอาญาเลยครับฐานหมิ่นประมาท และถ้าแม่เขามาเรียกเงินโดยขู่ว่าจะฟ้องศาลถ้าไม่ให้เงินแนะนำให้อัดเสียงตอนขู่ไว้ครับ แล้วแจ้งความฐานกรรโชคทรัพย์ครับ ไม่ต้องกังวลครับอ่านดูแล้วหลักฐานคุณดีกว่าฝ่ายนั้นเห็นๆ คุณนำสืบให้ศาลท่านเห็นว่าคุณบริสุทได้ คุณก็ชนะคดีครับ ไม่ต้องไปกังวลกับตัวบทกฏหมายมากไปครับ มันเขียนไปงั้น เพราะกว่าจะลงโทษตามที่เขียนในกฏหมายได้ ศาลท่านต้องสืบพยานหลักฐานจนเชื่อว่าคุณผิดจริง ซึ่งถ้าไม่สามารถหาหลักฐานที่เป็นที่เชื่อแน่ชัดได้ว่าคุณกระทำความผิดจริง ศาลท่านจะยกให้เป็นคุณแก่จำเลยครับดังนั้นขอให้สบายใจได้ครับว่าโอกาศคุณดีกว่าอีกฝ่ายมากครับ ^ ^ ส่วนเรื่องโดนฟ้องต่ิอศาลก็ขอให้คุณทำไปตามขั้นตอนของศาลครับแต่ขอให้คุณปฏิเสธทุกข้อหาครับอย่าไปรับเด็ดขาดครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้ช่วย วันที่ตอบ 2008-02-01 21:53:11 IP : 58.8.88.191


ความคิดเห็นที่ 6 (1468487)

เขาบอกว่าเขามีพยานครับ เป็นคนที่อยู่บ้านแถวนั้นเห็นลูกสาวขึ้นเข้าไปอยู่ในรถครับ และคนงานของเขาก็เห็นคับ เขาบอกแบบนี้คับ

ส่วนเรื่องเขาไปในรถให้ปฎิเสธได้อยู่ป่าวคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โดนกลั่นแกล้ง วันที่ตอบ 2008-02-01 23:53:44 IP : 222.123.80.239


ความคิดเห็นที่ 7 (1470638)

ไม่ทราบว่าคุณ ผู้ช่วย  มีอีเมล์ไหมครับผมจะส่งหลักฐานไฟล์เสียงไปให้ลองฟังดูคับว่าพอจะใช้ได้ไหม

อันนี้ได้รับคำแนะนำจากกระทู้อื่นมาแบบนี้คับ

ในฐานะที่เคยศึกษาวิชากฏหมายมา ขอแนะนำ จขกท.แบบนี้นะครับ
1.คุณจ้างทนายที่มีชื่อเสียงเรื่องคดีอาญา..มาว่าความให้ได้เลย
2.กรณีตามเหตุการณ์ที่เล่ามา ผมขออกความเห็นดังนี้..องค์ประกอบความผิดที่สำคัญข้อหาพรากผู้เยาว์ คือ คุณต้องมีการกระทำที่เรียกว่า "พราก"ซึ่งนั่นคือ คุณต้อง มีการ พามา หรือไปรับเด็ก มาด้วยการใช้พาหนะ หรือ ออกไปรับแล้วนั่งรถโดยสาร  แล้วกรณีของคุณ คุณออกไปหาเด็กเฉยๆ แต่ไม่ได้มีการพาไปใหน อันจะเป็นการกระทำที่ครบองค์ประกอบความผิด ฐานพรากผู้เยาว์ เพราะ มันจะเป็นการพราก ต่อเมื่อมีการทำลายอำนาจปกครองของพ่อแม่เด็ก แต่ปัจจุบัน เด็กอยู่กับพ่อแม่เลี้ยง อันนี้ยังต้องตีความตามข้อเท็จจริงกันต่อว่าใครเป็นผู้มีอำนาจปกครองเด็กแน่ แต่ผมว่าคุณไม่ผิดเพราะไม่ได้มีการพาเด็กไปจากบ้าน เด็กออกมาหาคุณเอง อันนี้เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกา ตัดสินวางแนวทางเอาไว้ครับ

จากคุณ : หงส์101  

 

ว่ากันตามกฎหมาย ไม่เข้าอนาจารแน่นอน เพราะ คุณไม่มีการกระทำดังกล่าวจริง

ลองมองกลับไป ว่า ถ้าคุณเป็นฝ่ายนั้นจะเอาอะไรเป็นหลักฐานว่า คุณพรากผู้เยาว์และกระทำอนาจารครับ ไม่มีจริงไหมครับ

ดังนี้อย่าไปกลัวครับ ให้บอกไปเลยว่า
"ผมน่ะรู้จักทนายหลายคน คุณทำแบบนี้ระวังข้อหากรรโชกทรัพย์นะ "
"ผมยินดีไปพบตำรวจทุกเมื่อ และจะแจ้งความกลับทันทีหากคุณต้องการจะเล่นแบบนี้กับผม"
แล้วก้ดูสถานการณ์ต่อซักพักครับ

จากคุณ : Natelo

คิดว่าเป็นอย่างไรบ้างคับ

ผู้แสดงความคิดเห็น โดนกลั่นแกล้ง วันที่ตอบ 2008-02-02 09:36:21 IP : 222.123.80.239


ความคิดเห็นที่ 8 (1473060)
เรื่องหลักฐานผมเห็นด้วยกับคุณหงส์101 ครับแแต่ที่ผมไม่กล้าฟันธงว่าไม่เป็นพรากก็เพราะ คำว่าพรากหมายถึงการที่คุณได้ทำการทำการตัดอำนาจ การปกครองของผู้ปกครองที่มีต่อเด็กครับ ซึ่งการที่คุณให้เด็กขึ้นมาในรถในขณะที่คุณก็รู้ว่าพ่อเด็กตามหาเด็ก มันมองได้ทั้งเป็็นการตัดอำนาจปกครองและมองไม่เป็นการตัดอำนาจปกครองครับ พูดง่ายฟมันก้ำกึ่งนะครับเลยไม่กล้าฟันธง แต่จากพยานหลักฐานที่คุณมี และหลักฐานของทางนู้น และตอนที่คุณอยู่กับเด็กผมว่ามองดูแล้วคุณปฏิเสธไปว่าไม่ได้ให้เด็กขึ้นรถ เพียงแต่คุยกันผ่านกระจกมันจะเป็นการดีกว่าครับ เพราะอีกฝ่ายดูแล้วคงนำสืบไม่ได้แน่นอนว่าคุณให้เด็กขึ้นรถ แถมหลักฐานไฟลเสียงมันก็บ่งเจตนาของคุณว่าคุณมีเจตนาเอาหนังสือสมัครงานรไปให้ ไม่มีเจตนาจะพรากแต่อย่างใด ซึ่งจากหลักฐานของคุณมันทำให้การของคุณขาดองค์ประกอบฐานเจตนาครับ ดังนั้นยังไงก็น่าจะหลุดครับคดีนี้ ผมแนะนำให้หาทนายเก่งตคดีอาญาครับแล้วทำตามขั้นตอนไปผมว่ายังไงคุรก็รอดแน่ๆครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้ช่วย วันที่ตอบ 2008-02-02 20:00:13 IP : 58.8.88.37



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.