เรื่องคือ การต่อเติมเกิดขึ้นก่อนที่ผมและครอบครัวจะกลับเข้ามาอยู่ที่บ้าน (เนื่องจากผมต้องไปทำงานที่อื่นและพาครอบครัวไปด้วย)กลับมาประมาณวันที่ 2  มีนาคม 2557  เมื่อชัดเจนว่า บ้านที่ทำการต่อเติมไม่มาชี้แจงว่าจะต่อเติมอะไรอย่างไร ข้างบ้านขายผลไม้ เดิมข้างบ้านทำเป็นหลังคาชั้นเดียวทำเป็นที่เก็บผลไม่ทำเป็นเสาเหล็กหลีงคาสังกสี อยู่มารื้อ เทพื้นตอนแรกคิดว่าทำหลังคาเป็นเพลิงเหมือนเดิม แต่พอเห็นทำโครงสร้างทำคานด้านบนเห็นไม่ดีแน่เลยแจ้งไปว่า ที่ทำขออนุญาตแล้วเหรอแจ้ง อบต.หรือยัง ข้างบ้านตอยลักษณะว่าทำในเขตบ้านไม่น่ามีอะไร วันที่ 17 เมษายน 2557 เข้าแจ้งความและแจ้ง อบต.บ้านคลองสวน ได้รับแจ้งว่ายังไม่มีการขออนุญาตต่อเติมจากบ้านดังกล่าวเลย ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2557 กว่าเอกสารอบต.จะออกก็เดือนกันยายน 2557 

หลังจากเอกสารจาก อบต.บ้านคลองสวนออกมา การต่อเติมจึงค่อยๆหยุดการต่อเติม ทิ้งเวลาจนประมาณปลายเดือนกันยายน 2557 อบต.บ้านคลองสวนแจ้งกลับมาว่า ได้มีการแจ้งอุธรณ์จากบ้านที่ต่อเติมไปที่จังหวัด (สมุทรปราการ) ให้รอเรื่องตอบกลับมาจากจังหวัดก่อน จึงจะดำเนินการต่อได้ “ส่วนคุณไม่เกี่ยวข้องแล้วเป็นเรื่องระหว่าง อบต.บ้านคลองสวนกับบ้านที่ต่อเติมผิดกฎหมาย” เรื่องกว่าจะตอบกลับก็หลังปีใหม่

              วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2558 บ้านที่ต่อเติม (ผิดกฎหมาย) มานั่งรออยู่ที่หน้าบ้าน นำเอกสารมาให้เซนต์รีบร้อนมากให้เซ็นต์เร็ว บอกว่าจะทุบให้แล้วให้เซนต์เอกสารด้วย

                อ่านดูแล้วอ้างใบอนุญาตเลขที่ 4/2558 (ชักแปลกๆ) โทรไปสอบถาม อบต.บ้านคลองสวน ได้รับคำตอบว่าเข้าเอาแบบมายื่นและเซนต์อนุญาติแล้ว อยากดูแบบมาดูได้ แต่ถ่ายเอกสารไม่ได้

                เรื่องชักแปลกๆ จึงยื่นเอกสารกลับคืน โดยไม่เซ็นต์ใดๆ

                 วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม 2558 ไปที่อบต.คลองสวน

1.        อบต. เอาแบบมาให้ดู แต่ไม่ให้ดูทั้งหมด ไม่เห็นว่ามีการเซ็นต์และประทับตราอย่างเป็นทางการใดๆ

2.        อบต. นำเอกสารการอุธรณ์มาให้ดู เป็นการอุธรณ์แจ้งมาที่ อบต.บ้านคลองสวน ไม่มีเอกสารบ่งชี้ว่าแจ้งไปจังหวัดอย่างที่ อบต. อ้างถามกลับว่า “เอกสารที่บอกว่ามีการอุธรณ์ไปที่จังหวัดอยู่ไหน แล้วมีการตอบกลับมาแล้วหรือ” อบต. ยืนอ้ำอึ้งไม่ตอบ แล้วพูดว่า “เรื่องมันจบไปแล้ว เข้าจะทุบให้ตามแบบ  ถอยผนังมา 50 ซม. จากแนวเขตแดน แต่ไม่ทุบขยับเสาโครงสร้าง”

                วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558 เจ้าของบ้านที่ต่อเติมกลับเอาเอกสารมาให้เซนต์อีกครั้ง และอ้างว่าได้ติดหนังสืออนุญาตต่อเติมที่บ้านแล้ว (เดินไปดูมีติดอยู่ข้างในบ้าน มองไม่เห็น) ผมไม่เซ็นต์เอกสารเช่นเดิม เพราะยังไม่เห็นเอกสารสรุปจากจังหวัดเลย

                ผมเลยทำเรื่องฟ้องต่อศาล ทางผมเองไม่ได้จ้างทนายเนื่องจากมีภาระหนี้สิน เลยต่อสูคดีเอง การฟ้องศาลนั้นผมต้องการให้รื้อโครงสร้างเสา ขยับให้ห่างจากแนวเขตแดนตามที่กฎหมายระบุ คือห่างจากแนวเขตแดนอย่างน้อย 50 ซม. และก่อเป็นผนังทึบ เพราะหากมีเหตุร้าย ไฟไหม้ หรือ ขโมยขึ้นบ้าน มีควา่มห่างระหว่างบ้านยังป้องกันเหตุเกิดได้บ้าง ซึ่งผมอ่านกฎหมายเขียนชัดเจนอยู่แล้ว แต่พอศาลนัดฟังคำพิพากษา ศาลยกฟ้อง ศาลแจ้งว่าโครงสร้างสามารถทำได้ ผมเลยสงสัยเพราะ ตอนนี้ที่ตอกเสาไว้ กำแพงเกิดรอยร้าว

ซึ่งกฎหมายก็เขียนไว้ดังนี้

ข้อ 50 ผนังของอาคารที่มีหน้าต่าง ประตู ช่องระบายอากาศหรือช่องแสง หรือระเบียงของอาคารต้องมีระยะห่าง

จากแนวเขตที่ดิน ดังนี้

(1) อาคารที่มีความสูงไม่เกิน 9 เมตร ผนังหรือระเบียงต้องอยู่ห่างเขตที่ดินไม่น้อยกว่า 2 เมตร

(2) อาคารที่มีความสูงเกิน 9 เมตร แต่ไม่ถึง 23 เมตร ผนังหรือระเบียงต้องอยู่ห่างเขตที่ดินไม่น้อยกว่า 3

เมตร

ผนังของอาคารที่อยู่ห่างเขตที่ดินน้อยกว่าตามที่กำหนดไว้ใน (1) หรือ (2) ต้องอยู่ห่างจากเขตที่ดินไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร เว้นแต่จะก่อสร้างชิดเขตที่ดินและอาคารดังกล่าวจะก่อสร้างได้สูงไม่เกิน 15 เมตร ผนังของอาคารที่อยู่ชิดเขตที่ดินหรือห่างจากเขตที่ดินน้อยกว่าที่ระบุไว้ใน (1) หรือ (2) ต้องก่อสร้างเป็นผนังทึบ และดาดฟ้าของอาคารด้านนั้นให้ทำผนังทึบสูงจากดาดฟ้าไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร ในกรณีก่อสร้างชิดเขตที่ดินต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงด้านนั้นด้วย

              ผมอยากถามว่า

              1 ศาลตัดสินอย่างนี้เพาระอะไร ทำไมไม่ให้รื้อโครงสร้างออก แล้วย้ายเสาขยับห่างแนวเขตแดนอย่างน้อย 50 ซม. และก่อผนังทึบตามกฎหมาย

              2 หากหลังจากนี้คู่กรณีต่อเติมต่อโดยต่อเติมชิดเขตแดนทำเป็นสองชั้นต่อไปแปลว่าทำถูกกฎหมายหรือครับ

              ต้องสู้คดีนี้อย่างไรครับ