[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
ช่องโหว่การกู้เงินเรียน | |
กู้เงินเรียนโดยที่ทางสถานศึกษาเอาเอกสารการกู้มาให้เซ็ฯ(ผู้กู้,ผู้คำ) ทางสถานศึกษาเป็นผู้กรอกข้อความทั้งหมดรวมทั้งตัวเลขยอดเงินกู้ของนักศึกษาพอสิ้นปีก็ไม่จัดทำเอกสารคู่สัญญาให้นักศึกษาถือไว้เป็นหลักฐานอีกกรณีนึงคือมีเพื่อนนักศึกษา(ภาคสมทบ)มีอาชีพรับราชการครูแต่แกเอาลูกมาเรียนด้วยเพราะคิดว่ามีสิทธิ์เบิกค่าเล่าเรียนคืนแตพอไปขอเอกสารเพื่อที่จะไปเบิกคืนทางสถานศึกษาแจ้งว่าไม่สามารถออกเอกสารให้ได้และไม่มีท่านไหนเคยได้ดิฉันว่าทางสถานศึกษาทำไม่ถูก(เป็นเอกชน)ขณะนี้ดิฉันกลัวว่าตัวเลขยอดเงินกู้จะมีมูลค่าสูงกว่าความเป็นจริงจะทำอย่างไรดีคะ ใครรู้ช่วยบอกที่ หรือมีคำแนะนำก็แนะนำมาได้เลย | |
ผู้ตั้งกระทู้ เบนซ์ :: วันที่ลงประกาศ 2007-09-22 07:32:55 IP : 117.47.100.41 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1164404) | |
-นโยบายให้กู้เงินเรียน เป็นความผิดพลาดมาแต่แรก โดยยกเหตุผลที่สวยหรูมาเป็นข้ออ้างในการมีนโยบายนี้ คือ "การให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผู้เรียนที่ขาดทุนทรัพย์ได้มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนได้เท่าเทียมกับผู้เอื่น" ดูเหตุผลแล้วมีน้ำหนักพอที่สามารถทำให้นโยบายนี้สามารถผลักดันไปได้ด้วยดี ซึ่งรัฐต้องใช้เงินปีละหลายหมื่นล้านเพื่อ นโยบายนี้..... ---แต่ในความเป็นจริงผู้กู้ยืมเงินเรียนจำนวนไม่น้อยไม่ได้ใช้เงินที่กู้ยืมเรียนไปใช้เพื่อการศึกษา แต่ใช้จ่ายในการซื้อมือถือ และสิ่งของที่ไม่จำเป็นต่อการศึกษาแต่อย่างไร เพราะการกู้ยืมเงินนั้นค่อนข้างง่ายดาย เพียงมีผู้รับรองว่ายากจนและมีรายได้น้อยก็สามารถกู้ยืมเรียนได้ 2-3 หมื่นและเด็กมักพูดเสมอว่าเงินเหล่านี้เป็นเงินให้เปล่า จึงมีจำนวนไม่น้อยไม่ยอมคืนเงิน แม้ถูกฟ้องร้องในศาลก็ผลัดผ่อนไปเรื่อยๆโดยที่รัฐทำอะไรไม่ได้ถนัดนัก เพราะเรื้องนี้มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หลายคนยังหวังว่าวันหนึ่งคงมีนักการเมืองออกกฎหมายยกเลิกหนี้สินจากการกู้ยืมเรียน เรื่องความไม่เป็นธรรมในการปล่อยกู้ดังที่คุณบอกมาไม่ต้องไปพูดถึงให้เสียเวลา เพราะส่วนใหญ่ครูจะเป็นผู้ชี้ขาดว่าใครควรได้กู้เท่าไร ดังนั้นเรื่องเส้นสายหรือเห็นแก่ญาติพี่น้องจึงจะสามารถได้กู้จึงปรากฏให้เห็นบ่อยๆ.... -นโยบายนี้ดีผมเห็นด้วยแต่ควรมีการคัดสรรผู้ที่สมควรได้รับทุนให้เข้มงวดมากกว่านี้ ควรเอาเกณฑ์นักเรียนที่ประพฤติดี เรียนดีและตั้งใจเล่าเรียนมาประกอบการพิจารณาด้วย แต่ที่ผ่านมามักใช้เกณฑ์ว่าใครยากจนก็สามารถกู้ยืมเรียนได้ ทำให้รัฐต้องมีภาระใช้จ่ายเกินความจำเป็น | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2007-09-22 09:58:06 IP : 125.26.106.170 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1087491 |