[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
ขอความช่วยเหลือ ให้เด็กอายุ 19 ด้วยครับ | |
เรื่องมีอยู่ว่า น้องสาวของกระผม ได้ทำงานอยู่กับ บริษัท ขายจิวเวอร์รี่ บริษัทหนึ่ง (ไม่ขอระบุชื่อ) อยู่ที่ห้างสรรสินค้า Isetan ที่อยู่ภาพในตึก central world ซึ่งลักษณะร้าน เป็นร้านขนาด ประมาณ กว้าง1.2 เมตร ยาว ประมาณเกือบ 2 เมตร และปัจจุบันภายในร้านไม่มี กล้องวงจรปิด (ซึ่งเมื่อก่อนเคยมีแต่เนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่รับสัญญาณที่ office เสียจึงไม่สามารถใช้งานกล้องได้) น้องสาวกระผมทำงานที่นี่ได้ประมาณ 1 ปี 5 เดือน ซึ่งไม่เคยมีปัญหาอะไร จนกระทั่งเมื่อปลายเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คือ ว่า มีกลุ่มคนมิจฉาชีพกลุ่มหนึ่งเข้ามาติดต่อพูดคุยกับน้องสาวของข้าพเจ้าขณะที่ กำลังจัดร้านอยู่ (ซึ่งตอนนั้นห้างยังเปิดได้ไม่นาน) กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ก็เข้ามา ทำทีว่าสอบถามข้อมูลสินค้า อยู่สักพักหนึ่ง และต่อมา ได้มีโทรศัพท์จาก office ได้โทรเข้ามาที่ร้าน น้องสาวของข้าพเจ้าก็ได้หันหลังไปรับโทรศัพท์ ซึ่งเป็นเวลา ไม่ถึง 1 นาที คนร้ายก็ขโมยถุงเก็บ จิวเวอรี่ไปแล้ว มูลค่าประมาณ สี่แสนหกหมื่น โดยประมาณ ต่อมาน้องสาวของข้าพเจ้าก็ได้แจ้งกับทาง พนักงานรักษาความ ปลอดภัยภายในพื้นที่ห้างเพื่อขอดู ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดจากภายในห้างฯ เพื่อ ดูเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย แต่ปรากฏว่า ภายในห้างสรรพสินค้า ไม่มี กล้องวงจรปิด (ในส่วนของ ห้าง isetan ไม่มีกล้อง) ทำให้ไม่สามารถติดตามตัว คนร้ายได้เลย ต่อมาน้องของข้าพเจ้าได้เข้าแจ้งความที่ สน. ปทุมวัน เพื่อทำ บันทึกไว้ และในวัน จันทร์ที่ 2 มีนาคมนี้ ทางบริษัทได้เรียกน้องของข้าพเจ้าเข้าไป คุยเรื่อง ค่าเสียหายของตัวสินค้าที่ถูกขโมยไป โดยสรุปว่า น้องของข้าพเจ้าต้อง รับผิดชอบเป็นจำนวนเงินถึง 200,000 บาทถ้วน ทั้ง ๆ ที่น้องเค้าเพิ่งจะอายุ เพียง 19 เท่านั้น ส่วนตัวผมเองตั้งแต่ได้ฟังเรื่องราวจากน้องสาวผมครั้งแรก ผม ก็นึกเอะใจว่า 2 ทำไมตอนเช้าบริษัทถึงไม่จัดให้มีการเข้าเวร 2 คน เพื่อเป็นว่า คนหนึ่งคอยต้อนรับลูกค้า อีกคนหนึ่งคอยดูแลความเรียบร้อยภายในตัวร้านและสังเกตุพฤติกรรมลูกค้า สมมตินะครับ ถ้าตัวผมเป็น โจร ก่อนที่ผมจะปล้นใคร ผมต้องดูก่อนว่า ร้านที่เราจะปล้นนั้น มี กล้องวงจรปิด หรืออุปกรณ์อะไรก็แล้วแต่ ที่ขัดขวาง หรือ ทำให้การปล้นของเรา ต้องเป็นอุปสรรค ซึ่งร้านที่น้องผมทำงานอยู่ พูดง่าย ๆ เลยว่า ไม่มีสักอย่าง ไม่ว่า จะเป็นกล้องวงจรปิด ที่เอาไว้สำหรับ บันทึกภาพต่าง ๆ ไว้เป็นหลักฐาน ทำให้ โจร กลุ่มนี้สามารถ เข้ามาทำการขโมยสินค้าได้อย่างงายดาย ดังนั้นผมอยากจะเรียนถามกับทางสภาทนายความว่า จะมีหนทางไหน บ้างครับ ที่จะให้น้องผม ได้รับการประนีประนอมเรื่องหนี้สิน ให้ไปชำระหลังจาก เรียนจบ ระดับชั้น ปริญญาตรี เพราะตอนแรกผมตั้งใจจะให้น้องเค้าลาออกจาก งาน ตอนสิ้นเดือน กุมภาพันธ์เพื่อออกมาศึกษาต่อ แต่กลับต้องมาเกิดเรื่องแบบนี้ ขึ้นก่อน ทำให้น้องของผมเครียดอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่อยากจะรีบศึกษาต่อให้จบ ไว ๆ กลับต้องมารับภาระหนี้สิน ที่ตัวเค้าเอง ไม่ตั้งใจที่จะให้เกิด แต่มันกลับเกิด ขึ้น จากระบบรักษาความปลอดภัยที่ไม่มีความรัดกุมของ ทางห้างฯ และของตัว บริษัทเอง ด้วย ถือว่าเห็นแก่ อนาคตของ เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนึงที่ต้อง ทำมาหากินส่ง เสียตัวเองเรียน ตั้งแต่อายุ 17 แต่กลับต้องมามีหนี้สิน ถึง 200,000 บาท ทั้ง ๆที่ อายุแค่นี้ด้วย ผมกราบขอร้องละครับ ช่วยน้องผมด้วย | |
ผู้ตั้งกระทู้ สุเทพ :: วันที่ลงประกาศ 2009-03-02 14:32:36 IP : 58.8.180.63 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2978756) | |
ขออภัยที่ตอบก่อนท่านปมุข มีความเห็นอื่นแย้งได้ครับ ในความเห็นส่วนตัว หากเป็นจิวเวอรี่ผมคิดว่าทางร้านน่าจะมีการทำประกันทรัพย์สินสูญหายไว้แล้วนะครับ ซึ่งหากเป็นกรณีอย่างนี้ ร้านอาจไม่ใช่ผู้เสียหายที่แท้จริงหากได้รับเงงินจากบริษัทประกันภัยแล้ว และในทางคดีคงต้องรอตำรวจในการสอบสวนครับ ในทางแพ่ง ก็ต้องบอกว่าเกิดจากความประมาทเลินเล่อของน้องคุณด้วยส่วนหนึ่งซึ่งอาจจะต้องรับผิดในส่วนนี้ คำถามก็คือ ตอนที่เข้าทำงานมีใครเป็นผู้ค้ำประกันการทำงานหรือไม่ เพราะบริษัทอาจฟ้องเค้าด้วย หากไม่มีก็ไม่ยากครับ ให้น้องคุณเรียนให้จบอย่างสบายใจ มุ่งทำงานราชการเป็นหลักเพราะเงินเดือนข้าราชการ ไม่สามารถอายัดได้ เมื่อครบ 10 ปี ก็ไม่มีหนี้แล้วครับ(แนะนำแบบทนายโจรต้องขออภัย) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น James_Bond วันที่ตอบ 2009-03-03 00:32:03 IP : 118.173.251.224 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2978814) | |
ขอบคุณสำำหรับคำตอบครับ สำหรับเรื่องคนค้ำประกันนั้น คนที่ค้ำประกันก็คือแม่ ของน้องเค้าครับ ซึ่งเมื่อวาน ทางบริษัท ก็พาน้องเค้าเดินทางไปหา และมัดมือชก ให้เซ็นสัญญารับสถาพในการเป็นหนี้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผมสงสัยว่า นี่เค้าไม่คิดจะรอ คำไต่สวนจากตำรวจเลยหรือยังไง ทำไมถึงจ้องแต่จะเอาตังจากน้องเค้า แม่เค้าก็ทำงานอยู่ร้าน แฟมมิลี่มาร์ท เงินเดือนก้อแค่ 6-7000 แล้วยังต้องถูกบังคับให้จ่ายเงินชดใช้ให้อีกถึงเดือนละ 3000 และที่สำคัญ แม่ของน้องเค้ายังต้องส่งเสียลูกชายอีกคนหนึ่งที่ำกำลังเรียนอยู่ระดับชั้น ปวช1 ด้วย ซึ่งผมคิดว่า มันจะเป็นการผลักภาระมากเกินไป รบกวนผู้ที่รู้เรื่องทางกฏหมายให้คำแนะนำมากกว่านี้หน่อยครับ ว่าจะสามารถแก้ไขอะไรได้หรือปล่าว ผมสงสารน้องและแม่ของน้อง เค้าจริง ๆ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สุเทพ วันที่ตอบ 2009-03-03 09:04:41 IP : 58.8.185.60 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2978824) | |
รบกวน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด หรือ ที่ใช้นามแฝงว่า ผู้เฒ่า เข้ามาให้คำปรึกษาหน่อยนะครับ น้องผมต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ เหนแก่อนาคตเด็กเถอะนะครับ T-T | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สุเทพ วันที่ตอบ 2009-03-03 09:26:12 IP : 58.8.185.60 |
ความคิดเห็นที่ 4 (2978897) | |
-บริษัทก็คงให้น้องของคุณรับผิดทางแพ่ง ซึ่งก็พอมีข้อต่อสู้คือ ไม่ได้ประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุสุดวิสัย น่าจะเป็นเหตุบรรเทาความรับผิดได้ และดังที่ความเห็นที่ 1 แนะนำไว้ก็ถูกต้อง คือเขาต้องมีการประกันภัยไว้แน่นอน ดังนั้นน้องของคุณอาจไม่ต้องรับผิด....... -คำแนะนำ ก็ปล่อยให้เขาฟ้องไป แล้วขอความช่วยเหลือสภาทนายความให้การช่วยเหลือในการต่อสู้คดี นี่คือทางออกที่ดีที่สุดครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-03-03 11:55:00 IP : 125.26.106.187 |
ความคิดเห็นที่ 5 (2978974) | |
ขอรบกวนเรียนถามอีกนิดนึงครับคือว่า เมื่อวานนี้ ทางบริษัทเค้าได้พาตัวน้องของผมไปทำสัญญาในการยอมรับภาะหนี้สินแล้ว ผมอยากจะทราบว่า ยังจะพอมีทางสู้หรือปล่าวครับ เพราะทางบริษัทษัทเค้า รู้ว่าทางน้องผมและแม่ของน้องผมไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เลย เค้าก็เลยจับมัดมือชก ทั้ง ๆ ที่บริษัทของเค้า มีการทำประกันไว้ แต่ถ้าอ้างว่า บริษัทประกันนั้น จะประกันในกรณีที่ เกิดการ จี้ หรือ ปล้นเท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้ มันก็คือการ ขโมย ซึ่งก้ออยู่ในขอบข่ายของการจี้ปล้น แต่ทางบริษัทบอกว่า ไม่รับ ผมอยากจะทราบว่า เค้าโกหกหรือปล่าวครับ เพราะผมดูท่าทางแล้ว เค้าไม่ค่อยแฟร์สักเท่าไร เพราะอะไรรู้มั้ยครับ หลังจากที่ของหาย เค้าไม่เคยติดต่อก้บทางตำรวจเพื่อตรวจสอบคดีเลย มีแต่จะมาจ้ำจี้จ้ำไช เอาเงินจากน้องเค้า รบกวนตอบอีกครับนะครับ ขอคำถามสุดท้ายแล้ว ถ้าทุกคนคิดว่ามันมีอะไรแปลก ๆ จริง ๆ หรือมีทางที่จะแก้ไขสัญญาได้จิง ๆ ผมจะได้ดำเนินการจ้างทนายความไปสู้คดี เพราะเรื่องนี้ผมยอมไม่ได้จริง ๆ ที่ต้องมาหากินกับเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ต้อง ทำงาน +เรียนเพื่อเลี้ยงตัวเอง | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สุเทพ วันที่ตอบ 2009-03-03 14:34:08 IP : 58.8.185.60 |
ความคิดเห็นที่ 6 (2979007) | |
-สัญญาที่ทำขึ้นโดยถูกข่มขู่ โดยไม่มีทางเลือก หรือรู้ไม่เท่าทัน สามารถบอกล้างสัญญาให้เป็นโมฆะได้......ถ้าคิดจะต่อสู้ในเรื่องนี้ ขอแนะนำให้หาทนายความปรึกษาแนวทางที่รัดกุมและชัดเจนอีกทีครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-03-03 15:34:06 IP : 125.26.112.15 |
ความคิดเห็นที่ 7 (2979035) | |
ขอบพระคุณมากครับ ถ้ามีโอกาสจริง ๆ ผมจะขอใช้บริการจาก ทนายของเว็บไซต์นี้แหล่ะครับ ขอบพระคุณมากจริง ๆ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สุเทพ วันที่ตอบ 2009-03-03 16:23:31 IP : 58.8.185.60 |
ความคิดเห็นที่ 8 (2979262) | |
แล้วพอจะทราบมั้ยครับว่า ถ้าเราจะว่าจ้างทนายให้มาว่าความให้ จะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง แล้วประมาณเท่าไรอ่ะครับ แล้วกรณีที่เราชนะความ เราจะได้อะไรบ้าง แล้วถ้าเรา แพ้คดี เราจะต้องเสียอะไรบ้าง รบกวนตอบผมทีเพราะ เกิดมาไม่เคยได้เข้าไปติดต่อกับทนายความสักที รบกวนหน่อยนะครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น สุเทพ วันที่ตอบ 2009-03-04 09:33:35 IP : 58.8.185.121 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1088452 |