มีเรื่องอยากเรียนถามพี่ๆนักกฎหมายหรือผู้รู้ด้วยครับ เรื่องมีอยู่ว่าตอนนี้แม่
ของผมถือสิทธิ์ครอบครองที่ดิน แบบ สปก อยู่แปลงหนึ่งประมาณ 50กว่าไร่
ครับซึ่งเป็นที่ดินที่ได้รับตกทอดมาจากคุณตาที่เสียชีวิตแล้วครับและเราก็ได้
ทำไร่ทำสวนยางมาประมาณ 15 ปีแล้ว แต่อยู่มาตอนนี้มีคนจะมาออกเอกสาร
 น.ส.3.ก ทับซ้อน สปก. ในที่ของเราเค้าสามรถทำได้หรือไม่ครับ......เพราะ
เค้าบอกว่าที่ดินแปลงนี้เมื่อ 20 ปีก่อนเป็นของสามีเค้าที่เป็นผู้ว่าราชการที่
จังหวัดนี้ได้นำเงินมาซื้อที่แห่งนี้ซึ่งตอนนั้นรู้ว่าเป็นที่สาธารณะไว้ แต่ด้วยความ
ที่เป็นข้าราชการไม่สามารถถือสิทธิ์ได้ก็เลยด้วยความที่สนิทกับคุณตาผมก็เลย
ซื้อโดยชื่อคุณตาผมครับ...แล้วเค้าก็หายไปเลยหลังจากย้ายไปที่จังหวัดอื่น
ไม่ได้ติดต่อมาเลยประมาณ 10กว่าปีได้ ....โดยที่ระหว่างนี้มีอยู่ปีหนึ่งทาง
รัฐบาลก็ได้ออก สปก.ให้กับประชาชนที่แห่งนี้ก็เลยกลายเป็นที่ สปก.ในชื่อ
ของตาผมและ ตาผมก็ได้ทำไร่ ทำสวนปลูกอ้อย และสุดท้ายก็ทำสวนยางพารา
ทั้งหมด 50กว่าไร่ และเมื่อตาเสียก็ตกทอดมาเป็นของแม่ผมที่เป็นชาวสวน
ธรรมดาคนหนึ่งทำกินมาก็เกือบ10ปี แล้ว และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมามีหนังสือ
มาจากทางอำเภอมาถึงญาติผมที่มีที่ดินติดกับของแปลงแม่ผมนี้มาบอกว่าเค้า
ทางเมียผู้ว่าต้องการที่ทำ น.ส.3ก ในที่แห่งนี้ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ให้มาช่วยชี้
เขตแดนให้ด้วย ทางญาติผมก็เลยนำเรื่องมาบอกเราก็ตกใจมาเค้าบอกว่าจะ
ฟ้องร้องเราด้วย ทั้งที่เราก็ไม่เคยเห็นหรือรู้จักเค้าเลยก็เคยได้ยินแต่คุณตาเล่าบ้าง
แต่ก็นานเป็น สิบๆปีแล้ว........ก็เลยอยากจะถามว่าเค้าสามรถทำ น.ส.3กได้ไหม
ครับ หรือเรามีทางพอจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ เพราะเท่าที่รู้มาท่าน
ผู้ว่าคนนี้มีเส้นสายอำนาจมากมีลูกน้องที่เป็นนายอำเภอ ปลัดก็เยอะที่เคยทำงาน
ด้วยที่นี่และถ้าสมมุติว่าเค้าทำ น.ส.3ก ได้ก็ต้องทำโดยนายอำเภอหรือปลัด แล้ว
ท่านก็เส้นใหญ่เหลือเกินเพราะเท่าที่เคยอ่านเจอมา ดังนี้

 
                วิธีการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3ก

                1. ผู้ขอต้องยื่นคำขอต่อนายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอท้องที่ที่ดินตั้งอยู่แล้วแต่กรณี พร้อมทั้งแนบหลักฐานตามที่กล่าวมาแล้ว

                2. เมื่อรับคำขอแล้ว นายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ หรืออาจจะมอบให้เจ้าหน้าที่ผู้ใดไปแทนก็ได้ จะออกไปทำการรังวัดพิสูจน์สอบสวนว่าได้ทำประโยชน์ในที่ดินนั้นตามระเบียบและกฎหมาย ในการรังวัดเจ้าของที่ดินและเจ้าของที่ดินข้างเคียงต้องไประวางชี้แนวเขตและลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานด้วย

                3. เมื่อได้พิสูจน์การทำประโยชน์แล้วปรากฎว่าได้มีการครอบครองและทำประโยชน์ตามสมควรแก่สภาพที่ดินในท้องถิ่น ตลอดจนสภาพกิจการที่ได้ทำประโยชน์แล้ว นายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอจะประกาศคำขอรับรองการทำประโยชน์ไว้ 30 วัน ณ ที่ว่าการอำเภอหรือกิ่งอำเภอที่ทำการกำนันในบริเวณที่ดินที่ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์และสำนักงานเทศบาล (ถ้ามี) แห่งละ 1 ฉบับ

                4. ถ้ามีผู้คัดค้าน นายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอจะทำการสอบสวนเปรียบเทียบ ถ้าตกลงกันได้ก็ดำเนินการไปตามข้อตกลงนั้น หากตกลงกันไม่ได้ก็ให้มีคำสั่งว่าจะออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่ฝ่ายใด และให้ฝ่ายที่ไม่พอใจไปดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลภายในกำหนด 60 วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่ง เมื่อศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งประการใดให้ดำเนินการไปตามนั้น ถ้าไม่ได้ฟ้องภายในกำหนด 60 วัน ก็ให้ดำเนินการไปตามที่มีคำสั่งไว้แล้ว

                5. ถ้าไม่มีผู้คัดค้าน ก็ให้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้ต่อไป

                6. ถ้าปรากฎว่า การออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ไปโดยความผิดหลงหรือฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ถูกต้องด้วยประการใดก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจสั่งเพิกถอน น.ส.3 ได้

............แล้วถ้าเกิดเค้าทำได้จริงๆ เกิดเป็นข้อ 4 ขึ้นมาและมีปัญหาหล่ะครับคือถ้าเราไปร้องเรียนแต่ ท่านๆทั้งหลายเป็นลูกน้องเค้าหล่ะเราจะทำอย่างไรเพราะถ้าให้
เราฟ้องร้องคงไม่มีปัญญาจ้างทนายแพงๆมาสู้เค้าเป็นแน่
      ขอความกรุณาท่านผู้รู้แนะนำเราด้วยเถิดครับจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
กับชาวไร่ชาวนาอย่างเราครับ