ReadyPlanet.com


ใครต้องพิสูจน์ยอดเงินมรดก


พี่ชายและพี่สะใภ้ ทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง  พี่ชายออกจากงานเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2548  ได้รับเงินจากที่ทำงาน จำนวน 4,000,000.บาท  (เป็นเงินเพราะเหตุออกจากงาน+เงินชดเชยให้ออกงาน+เงินที่ฝากไว้กับบริษัท)  และเสียชีวิต เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2549 เป็นการเสียชีวิตแบบกระทันหัน  (ระยะเวลาห่างกัน 1 ปี 1 เดือน)  ไม่ได้ทำพินัยกรรม   ภายหลังพี่สะใภ้ได้เป็นผู้จัดการมรดก  ปกปิดทรัพย์ จำนวนดังกล่าว  บิดาของดิฉันทำเรื่องขอถอดถอนพี่สะใภ้จากการเป็นผู้จัดการมรดก  ได้ขอหมายศาลเพื่อสืบทรัพย์ จึงทราบว่าพี่ชายมียอดเงินดังกล่าว  จึงขอเรียนสอบถามดังนี้

 

1. เมื่อสอบถามไปยังพี่สะใภ้ ได้รับแจ้งว่า เงินจำนวนดังกล่าวใช้หมดแล้ว เป็นการบ่ายเบี่ยงไม่ยอมแจ้งว่าใช้อะไรบ้าง (ซึ่งผิดกับหลักความจริง ที่คนตกงานจะใช้จ่ายเงินที่มีอยู่อย่างประหยัด  และโดยปรกติพี่ชายจะเป็นคนประหยัดมาก  ไม่เล่นการพนัน ไม่ดื่มเหล้า ไม่เที่ยวผู้หญิง ไม่มีภรรยาน้อย  เวลาเจ็บป่วยก็ใช้บัตรทอง  30.- รักษาทุกโรค)  การที่พี่สะใภ้แจ้งว่าใช้จ่ายหมดแล้ว  พี่สะใภ้จะต้องพิสูจน์ยอดการใช้จ่ายต่อศาลหรือไม่ (ตัวเลขคร่าว ๆ) หรือบิดาดิฉันจะต้องเป็นผู้พิสูจน์ว่า เงินของพี่ชายได้ถูกนำไปซื้อหุ้นในชื่อพี่สะใภ้  หรือนำไปซื้อกองทุน แล้ว  (ซึ่งจะทำได้ยุ่งยากกว่า เพราะบิดาจะไม่ทราบว่ามีหุ้นใด ปริมาณเท่าใด  เริ่มซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่  แต่ทราบว่ามี เนื่องจากได้รับจดหมายจากบริษัทหลักทรัพย์เพื่อแจ้งข่าวสารและจ่ายเงินปันผล)

2. หุ้น  กองทุน  เงินสดในบัญชีของพี่สะใภ้  (ก่อนที่พี่ชายจะเสียชีวิต)  จะสามารถนำมาแบ่งให้กับบิดาด้วยได้หรือไม่  อย่างไร    

 

รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ   และขอขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ

 



ผู้ตั้งกระทู้ ผู้เดือดร้อน :: วันที่ลงประกาศ 2008-02-06 08:52:17 IP : 58.9.138.227


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1496212)

-ผู้จัดการมรดกมีหน้าที่รวบรวมทรัพย์สินของเจ้ามรดก   กรณีภรรยาอ้างว่าเงินใช้หมดแล้ว  ก็เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ว่าใช้หมดจริงแล้วหรือไม่   เวลาผ่านไปเป็นปี    เงิน  4 ล้านบาทนั้นดูเหมือนมากแต่เมื่อมาอยู่ในครอบครองของใครก็ตามโอกาสที่จะใช้หมดไปไม่ใช่เรื่องยาก เช่น  งานศพของสามีก็คงหมดไปพอสมควร   บ้าน  รถ และค่าครองชีพประจำวัน เป็นต้น  ก็ลองเจรจากันดูอาจได้ข้อยุติ  แนะนำให้ใช้วิธีเจรจาตกลงกันก่อนจะมีคดีขึ้นสู่ศาลครับ

-สำหรับการแบ่งมรดกคร่าวๆ     ถ้าเขาไม่มีบุตร เงิน  4 ล้านภรรยาจะได้ส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งก่อนในฐานะสินสมรส   คือ  2 ล้านบาท   อีกครึ่งหนึ่ง  แบ่งภรรยาและบิดา  คนละครึ่ง  สรุปภรรยาได้ส่วนแบ่ง  3 ล้านบาท  บิดา  ได้ส่วนแบ่ง  1  ล้าน   สำหรับเงินหุ้นถ้ามีก็แบ่งในลักษณะเดียวกัน  คือแบ่งเป็นสินสมรสก่อนกึ่งหนึ่ง  อีกกึ่งหนึ่งแบ่งภรรยากับบิดาคนละเท่าๆกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2008-02-06 17:55:08 IP : 125.26.107.217


ความคิดเห็นที่ 2 (1501962)

ขอบคุณมากค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เดือดร้อน วันที่ตอบ 2008-02-07 11:47:59 IP : 58.137.129.220



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.