[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
ขึ้นศาลคดีฟ้องอย่าค่ะ | |
วันที่22 ธันวาคม 51นี้หนูต้องไปเป็นจำเลยเกี่ยวกับคดีฟ้องอย่านะค่ะ ขอรบกวนเล่าเรื่องโดยคร่าวๆนะค่ะ เมื่อ 7ปีที่แล้วดิฉันอายุประมาณ 20 ปีได้จดทะเบียนสมรสกับผู้ชายคนหนึ่งเนื่องจากเหตุที่ดิฉันพลาดพลั้งมีอะไรกันจนมีบุตร และมารดาฝ่ายชายแจ้งเหตุที่ให้จดทะเบียนสมรสว่าเมื่อคลอดบุตรนั้นสามีจะได้เบิกค่าคลอดได้ ณ ตอนนั้นผู้ชายคนนั้นเป็นกระเป๋ารถเมล์ของ ขสมก. แต่เมื่อหลังจากหนูจดทะเบียนไม่ถึงเดือนตั้งท้องก็ประมาณเดือนครึ่งผู้ชายคนนั้นได้มีภรรยาน้อยพร้อมทั้งได้ออกจากบ้านที่พักไปอยู่ด้วยกันกับภรรยาน้อย (ตอนอยู่ด้วยกันไปอาศัยบ้านพี่สาวเค้าอยู่) ปล่อยให้ดิฉันตั้งท้องจนครบกำหนดคลอดเมื่อคลอดลูกแล้วชายคนนั้นก็ไม่ได้สนใจไยดีไม่เคยเยี่ยมเยียน เมื่อดิฉันคลอดบุตรจนแข็งแรงดิฉันก็ได้มาอยู่ที่บ้านและได้ยกบุตรของดิฉันให้ผู้ใจบุญไปเลี้ยงเนื่องจากที่บ้านยากจนมาก และเมื่อฝ่ายชายติดต่อมาขอหย่าดิฉันก็ยินยอมที่จะหย่าแต่ติดตรงที่ว่าดิฉันไม่ได้เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อและนามสกุลเนื่องจากดิฉันเกิดการรังเกียจจนมิอยากใช้ร่วมด้วย และแม่ฝ่ายชายก็ยังแจ้งว่าไหนๆก็ไม่มีมรดกร่วมกันก็ให้ต่างคนต่างฉีกทะเบียนสมรสแล้วก็เลิกรากันไป เรื่องล่วงเลยมาเป็นระยะเวลา 7ปี จนดิฉันเรียนจบมีงานมีการทำวันหนึ่งดิฉันก็ได้รับหมายศาลแจ้งเรื่องการฟ้องหย่า โดยมีโจทย์เป็นชายคนนั้นและมีจำเลยคือดิฉัน เรื่องมันไม่ตรงที่ดิฉันได้อ่านข้อความว่าเค้านั้นไม่เคยมีบุตรร่วมกับดิฉัน และดิฉันเองเป็นคนที่ไม่ยอมหย่าขาดจากเค้าทำให้เค้านั้นต้องฟ้องหย่าโดยการฟ้องหย่านี้ไม่มีสินสมรสใดๆ แต่ในข้อร้องขอต่อศาลนั้นให้ดิฉันนั้นเสียค่า ฤชาธรรมเนียมศาลทุกอย่ารวมทั้งค่าทนายความ(ซึ่งดิฉันก็ไม่ทราบว่าเท่าไหร่) ซึ่งตอนนี้ที่ดิฉันสืบทราบมารดาของเค้าและพี่สาวรวมทั้งแม่ดิฉันซึ่งพอจะเป็นพยานได้นั้นได้เสียชีวิตไปหมดแล้วส่วนบุตรนั้นดิฉันไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากดิฉันได้ยกบุตรให้เป็นสิทธิขาดตั้งแต่ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลโดยให้จดเป็นบุตรของคนอื่นไปเลยดิฉันเลยไม่มีเอกสารใดๆ สิ่งที่ดิฉันอยากจะรบกวนสอบถามคือ 1.ถ้าดิฉันไม่ไปขึ้นศาลจะได้หรือไม่เพราะตอนนี้ดิฉันอยู่ที่ยะลาจึงไม่เป็นการสะดวกที่จะขึ้นไปที่จังหวัดปทุมธานีจริงๆ และยังไงดิฉันก็ต้องการหย่าอยู่แล้วจึงไม่ต้องไปประณีประนอมศาลจะมีคำพิพากษาให้หย่าขาดจากกันโดยอัตโนมัติเลยใช่หรือไม่ 2.ค่าฤชาธรรมเนียศาลรวมทั้งค่าทนายความนั้นที่ผู้ชายคนนั้นให้ดิฉันเป็นผู้จ่ายให้นั้นไม่ทราบว่าจะเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ค่ะ (ฟ้องหย่าไม่มีสินสมรส) ถ้าดิฉันไม่ไปศาลแล้วทางศาลจะเรียกเก็บอย่างไรค่ะ แล้วดิฉันไม่จ่ายได้หรือไม่ ซึ่งมีแค่เรื่องค่าธรรมเนียมที่ดิฉันมองว่าเค้าไม่ใช่ลูกผู้ชายตั้งแต่ต้นยันจบจริงๆ
| |
ผู้ตั้งกระทู้ เด็กไง่ (tamakorn_m-at-yahoo-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2008-11-25 23:24:16 IP : 124.122.244.22 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2942203) | |
ถ้ายังไงหนูขอรบกวนคำปรึกษาพร้อมวิธีแก้ไขด้วยนะค่ะ เพราะหนูหมดหลทางและปัญญาจริงๆขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เด็กโง (tamakorn_m-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2008-11-26 00:06:04 IP : 124.122.244.22 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2942219) | |
ควรต้องไปครับ แม้นไม่ไปศาลในวันดังกล่าวศาลจะพิพากษาให้หย่ากันมิใด้ครับ ดังนั้นค่าฤชาธรรมเนียมไม่ต้องเสียครับ ขอรายละเอียดในคำฟ้องของฝ่ายชายมากเยอะอีกนะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ปีโป้ (pipob-lee-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2008-11-26 01:26:47 IP : 203.144.139.226 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2942276) | |
-1. ตามหลักการแล้ว คุณควรไปตามนัด เพื่อให้มีโอกาสแถลงข้อเท็จจริงต่อศาลบ้างตามสมควร แม้ไม่ได้ยื่นคำให้การ คุณก็สามารถอ้างตนเองเป็นพยานเพื่อให้ปากคำได้......แต่ระยะทางห่างไกลก็น่าเห็นใจ ถ้าคุณไม่ไปจริงๆ เขาก็คงร้องขอให้ศาลพิจารณาลับหลังคุณได้....เมื่อศาลอนุญาตให้หย่าได้ เขาก็สามารถนำคำพิพากษาไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอจดทะเบียนหย่าได้.....คือถือคำพิพากษาให้หย่าแทนเจตนาการหย่าของคุณได้ ตามที่คุณเข้าใจก็มีส่วนถูกครับ 2. ค่าฤชาธรรมเนียม กรณีนี้คงไม่มากมายอะไร เพราะไม่ทรัพย์สินเข้าเกี่ยวข้อง ก็อยู่ที่ศาลจะใช้ดุลยพินิจว่าใครควรเสีย.....ส่วนมากผู้ชนะคดีไม่ต้องเสีย หรือเป็นอันพับ คือต่างฝ่ายต่างชำระ.....คุณก็ไม่ต้องวิตกเรื่องนี้เกินไป ถ้าศาลให้คุณชำระ ค่อยติดต่อขอชำระ ก็คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นหรือร้ายแรงอะไรครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2008-11-26 08:44:26 IP : 125.26.109.224 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1088349 |