ReadyPlanet.com


ภรรยาเก่าฟ้องสามีเรื่องโรงเรียนลูก


ดิฉันมี ปัญหากับภรรยาเก่าของสามีมาก เรื่องเค้าฟ้องจะเลี้ยงดูบุตรคนที่ 2 ซึ่งปัจจุบัน ดิฉันและสามีดูแลอยู่ (ดิฉันเลี้ยงดูเด็กคนนี้มา 10 ปีแล้ว และรักเหมือนลูก เพราะดิฉันไม่มีลูก) สาเหตุเนื่องจากดิฉันไม่ต้องการให้ลูกไปหาภรรยาเก่าบ่อยๆ เพราะลักษณะการสอนลูกของเค้าและของดิฉันต่างกัน เนื่องจากดิฉันจะพยายามสอนลูก ให้มีวินัย ลูกอยู่กับดิฉันการเรียนดีตลอด ฉันค่อนข้างเข้มงวด เพราะลูกเป็นโรค สมาธิสั้น ดิฉันจะไม่ค่อยให้เล่นเกมส์ หรือดูทีวีรายการที่ใช้ความรุนแรง แต่ เมื่อไปอยู่กับภรรยาเก่า(แม่ของเค้า) เค้าก็จะให้เล่นเกมส์ ให้ดูทีวี จนทำให้ เด็กมีนิสัยกร้าวร้าว และตอนหลังก็เล่มจะขโมยเงินไปซื้อเกมส์ และการเรียนก็แย่ ลง จนตอนหลังเค้าก็ฟ้อง จะเลี้ยงดูลูก เพราะปัจจุบันเค้าเป็นเมียน้องของเจ้าของ กิจการคนนึง เรียกว่าค่อนข้างมีฐานะเนื่องจากสามีใหม่เค้ามีกิจการส่วนตัว ตอน นั้นดิฉันกลัวว่าเค้าจะเอาลูกไป จึงยอมเค้าทุกอย่าง ยอมให้เค้ามารับลูกไปอยู่ ด้วยบ้าง แต่ตอนหลัง มันเริ่มแย่มากขึ้น เพราะเค้าเริ่มไปแสดงตัวที่โรงเรียน ลูก ทำให้ดิฉันเสียหน้า เพราะดิฉันไม่เคยบอกใครว่าลูกไม่ใช่ลูกดิฉัน จนดิฉันทน ไม่ได้ จึงบอกสามีว่าถ้าเค้าจะเอาลูกไปก็ให้เอาไปเลย แต่เค้าต้องไปหาโรงเรียน ใหม่ให้ลูกด้วย เพราะโรงเรียนที่ลูกอยู่ปัจจุบัน คือสาธิต จุฬาฯ นั้น ลูกเข้า ได้เพราะใช้สิทธิ์ของสามี
>จนเมื่อเดือนก่อน ก็มีคำร้องมาอีกว่า ให้สามีดิฉันไปให้เหตุผลต่อศาลเรื่องจะเอาลูกออกจากโรงเรียน...ดิฉันไม่ไหวกับผู้หญิงคนนี้แล้วค่ะ ดิฉันขอคำ ปรึกษาด่วนด้วยค่ะ ว่าต้องทำอย่างไร เพราะนัดขึ้นศาลกลางเดือนหน้า (กลางเดือน มกราฯ) และยังโทรมาขู่สามีต่างๆ นานา ว่าเป็นข้าราชการ ด่าดิฉันว่าไม่รู้จัก ยอมรับความจริง ลูกไม่ใช่ลูกตัวเอง จะอายไปทำไม ฯลฯ ขอความกรุณาดิฉันด้วยค่ะ ถ้าต้องการข้อมุลเพิ่มเติมนัดคุยกันได้ค่ะ แต่เรื่องราคา ดิฉันและสามี รับ ราชการ เงินเดือน ไม่มาก สองคนรวมกันยังได้แค่ สองหมื่นกว่า ยังไงก็กรุณาดิฉัน ด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ กลุ้มใจที่สุด :: วันที่ลงประกาศ 2007-12-18 16:15:15 IP : 161.200.255.162


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1327319)

-ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณดีว่า   หัวอกคนเลี้ยงดูเด็กเป็นเวลาหลายปีย่อมรักและผูกพันเสมือนลูกในไส้  ถ้าจะมีใครมาพรากจากไปคงทนรับสภาพไม่ได้ง่ายๆ......

-ขอแนะนำ  ให้คุณปล่อยวาง  และยอมรับสภาพความจริง  เมื่อไม่ใช่ลูกของคุณ  เมื่อแม่ที่แท้จริงเขาอยากได้คืนก็ควรตัดใจปล่อยเขาไป    ที่จริงทุกสิ่งที่เรามีหรือที่ทุกคนเป็นเจ้าของ  ล้วนเป็นสิ่งสมมุติ  ไม่มีใครเป็นเจ้าของอะไรที่แท้จริงแม้แต่รายเดียว   เราเกิดมาเพื่อเป็นเจ้าของเพียงชั่วคราว  ไม่ช้าก็จำเป็นต้องเปลี่ยนมือไป  ที่พระท่านเรียกว่า   สมบัติผลัดกันชม   แม้แต่ชีวิตร่างกายที่เราหวงแหนว่าเป็นของเราแท้ๆ  แต่วันหนึ่งเราก็จำเป็นต้องทิ้งร่างกายจากไป  การยึดมั่นถือมั่นเกินไปจะทำให้เรามีแต่ทุกข์ใจ.....เรื่องโรงเรียนก็ไม่ควรไปเอาชนะกัน  โดยใช้เด็กเป็นเรื่องต่อรอง   ควรให้เด็กเรียนที่เดิม  เรื่องเด็กจะมีพฤติการณ์เปลี่ยนไปในทางไม่เหมาะสม   เป็นเรื่องนอกเหนือการควบคุมของเรา  อย่าไปกังวลให้ทุกข์ใจเลย    ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง  คือสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม  ไม่มีใครฝืนกฎแห่งกรรมได้....ปล่อยวาง   แผ่เมตตา  ด้วยความจริงใจแล้วคุณจะพบกับความสุขที่แท้จริงครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2007-12-18 19:18:36 IP : 125.26.108.223


ความคิดเห็นที่ 2 (1328011)

กรณีของคุณนับว่าน่าเห็นใจมาก ผมไม่ทราบว่าทางสามีของคุณได้หย่าขาดจากภรรยาเก่าของเขาแล้วหรือยัง ถ้าหย่าแล้วศาลได้พิพากษาให้ใครเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตร เพราะว่าหากในกรณีที่หย่ากันไม่ว่าโดยความยินยอมหรือโดยคำพิพากษาของศาล ศาลจะชี้ขาดด้วยว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองบุตรซึ่งศาลเขาก็จะพิจารณาว่าฝ่ายใดมีความเหมาะสมในการเลี้ยงดูบุตรมากกว่ากัน

     ซึ่งหากเราเป็นฝ่ายที่ใช้อำนาจปกครองบุตรก็มีสิทธิดังนี้ คือ กำหนดที่อยู่ของบุตร และเรียกบุตรคืนจากบุคคลอื่นซึ่กักบุตรไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

    แต่หากว่าทางฝ่ายภริยาเก่าของสามีคุณเป็นฝ่ายที่ใช้อำนาจปกครอง แล้วทางคุณเห็นว่าเขาประพฤติตนไม่สมควร หรือภายหลังพฤการณ์ได้เปลียนแปลงไป คณก็อาจยื่นคำร้องต่อศาลให้ศาลสั่งเปลี่ยนตัวผู้ปกครอง ซึ่งทางศาลก็จะพิจารณาโดยคำนึงถึงความผาสุกและประโยชน์ของบุตรเป็นสำคัญ

ผู้แสดงความคิดเห็น ยินดีรับฟัง วันที่ตอบ 2007-12-19 00:34:58 IP : 125.24.247.45


ความคิดเห็นที่ 3 (1328818)

เรียน คุณยินดีรับฟัง..

สามีดิฉันหย่าขาดกับภรรยาเก่าเมื่อปี 42 ค่ะ ส่วนเรื่องอำนาจปกครองบุตร ตอนหย่า ภรรยาเก่าเค้าให้อำนาจการปกครองเป็นของสามี แต่มาตอนหลัง เมื่อเค้าได้เป็นเมียน้อยเสี่ย มีเงินมีบ้าน มีรถ แล้วประกอบกับว่าดิฉันไม่ค่อยอยากให้เค้าเอาลูกไป เพราะเอาไปแล้วพฤติกรรมเปลียน เมื่อกลับมา ดิฉันก็จะห้ามไม่ให้ลูกไปค้างกับเค้า ให้เพียงแค่ มารับไปบ้าง แล้วก็มาส่ง เค้าก็เลยไม่พอใจ ฟ้องศาลเรื่องขอเพิกถอนการปกครองบุตร

ตอนนั้น ดิฉันเครรียดเหลือเกิน กลัวเค้าเอาลูกไปจากดิฉัน ดิฉันจึงประนีประนอมยอมให้เค้าเอาลูกไปค้าง เสาร์อาทิตย์ แต่ตอนหลัง ลูกคงมีข้อเปรียบเทียบ เพราะดิฉันค่อนข้างจะสอนให้ลูกมีระเบียบวินัย และไม่ค่อยให้เล่นเกมส์ ไม่ตามใจ แต่อยู่กับแม่เค้าเค้าได้ทุกอย่าง ตอนนี้เค้าอยากไปอยู่กับแม่เค้ามาก ..ทำให้ดิฉันเสียใจเหลือเกินค่ะ

ส่วนเรื่องที่ดิฉันคิดจะเอาเค้าออกจากโรงเรียน ส่วนหนึ่งก้เป็นเพราะภรรยาเก่าสามี เค้าชอบพูดอวดว่าเค้ารวย เค้าสามารถให้ลูกเรียนโรงเรียนดีๆ แพงๆ โรงเรียนคริสต์ สามีใหม่เค้า (ซึ่งเป็นสามีคนอื่น) รู้จักอ.ใหญ่โรงเรียนดังเยอะแยะ เค้าจะเอาลูกเรียนที่ไหนก็ได้ (และดิฉันคิดว่าที่เค้ายังให้ลูกเรียนที่นี่เพราะจะแกล้วดิฉันค่ะ ) เพราะก่อนหน้านี้ เค้าเคยไปแสดงตัวที่ทำงานเก่าดิฉัน เพราะเมื่อก่อนที่ดิฉันเลี้ยงลูก พอปิดเทอม ดิฉันก็จะเอาลูกไปไว้เนอร์สเซอรี่ของที่ทำงาน เพราะไม่อยากให้เป็นภาระคนอื่น เค้าก็ไปแสดงตัวจนดิฉันทำงานไม่ได้เพราะอับอายเพื่อนร่วมงาน จึงลาออกมาอยู่ทค่จุฬานี่ฯ ค่ะ

อย่างไรก็ตามดิฉ้นสงสัยว่าศาลมีสิทธิที่จะไม่ ให้สามีดิฉันให้ลูกออกจากโรงเรียนหรือไม่ เพราะจริงๆ การจะเอาลูกเรียน ที่ไหนมันเป็นสิทธิส่วนบุคคลใช่หรือไม่ค่ะ เพราะสิทธิ์ในการได้เรียนสาธิตนั้น จริงๆ ก็เป็นสิทธิ์ของสามี ในฐานะบุคลากรของจุฬาฯค่ะ

แล้วถ้าดิฉันจะฟ้องแพ่งเค้าในกรณีที่ทำให้ดิฉันอับอายทีเค้าไปแสดงตัวที่ทำงานดิฉัน ดิฉันจะทำได้หรือไม่ค่ะ

ขอความกรุณาดิฉันด้วยค่ะ

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าของกระทู้ วันที่ตอบ 2007-12-19 07:05:37 IP : 161.200.255.162


ความคิดเห็นที่ 4 (1328843)

เพิ่มเติมนะคะ

ตอนนี้เด็กมีปัญหาที่โรงเรียนมาก เนื่องจากผลการเรียนตกต่ำ งานคั่งค้างเยอะมาก คุณครูก็ฟ้องเรื่องพฤติกรรมทุกวัน ตั้งแต่แม่เค้าเขามาในชีวิต  จนตอนนี้เค้าเองก็รูสึกเบื่อที่ต้องแก้ปัญหาที่โรงเรียน เพราะแม่เค้าไม่เคยช่วย เรื่องการเรียนเค้าเลย ดิฉันจะเอาเหตุที่ว่าเค้าอยากออกไปเรียนที่อื่น มาเป็นเหตุขอลาออกจากโรงเรียนได้หรือไม่ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าของกระทู้ วันที่ตอบ 2007-12-19 07:18:01 IP : 161.200.255.162


ความคิดเห็นที่ 5 (1331401)

       กรณีของคุณนี้ที่คุณบอกว่าเขาได้ฟ้องขอเพิกถอนการปกครองบุตรแล้วคุณได้ประนีประนอมกับเขาโดยให้ลูกไปอยู่กับเขาได้ในวันเสาร์-อาทิตย์ เมื่อตกลงกันเช่นนี้แล้วก็ต้องเป็นไปตามนั้น

            อย่างนี้ก็แสดงว่าอำนาจในการปกครองบุตรก็ยังคงอยู่กับสามีของคุณในวันธรรมดา ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะเด็กก็ยังคงอยู่กับคุณอยู่ดี แต่ปัญหาของคุณก็คือคุณเสียใจที่ว่าพอเด็กไปอยู่กับแม่เขาแล้วทำให้เค้าไม่อยากมาอยู่กับคุณทั้งที่คุณหวังดี พยายามให้เด็กมีวินัย อันนี้ก็ต้องเป็นเรื่องที่คุณต้องทำใจ

          ส่วนกรณีที่สามีของคุณจะให้ลูกไปเรียนที่ไหนก็เป็นสิทธิของสามีคุณ  แต่ที่คุณบอกว่า มีคำร้องมาว่าให้สามีคุณไปแสดงเหตุผลในการที่จะให้เด็กย้ายโรงเรียน ซึ่งทางโน้นเขาก็คงจะยื่นเรื่องต่อศาลว่าทางเรากำลังจะให้เด็กย้ายโรงเรียนอาจจะเป็นปัญหาสำหรับเด็กได้อะไรทำนองนั้น ซึ่งหากเป็นอย่างนี้ศาลเขาก็ต้องรับฟังเหตุผลของเราด้วยว่าเป็นเพราะเหตุใด ฟังว่าฝ่ายใดมีเหตุผลอันสมควรมากกว่ากัน ส่วนเหตุผลที่คุณบอกมานั้นก็อยู่ที่ดุลยพินิจของศาลจถึงความเหมาะสม

                ส่วนกรณีที่คุณถามว่าคุณจะฟ้องเขาได้หรือไม่ที่เขาไปแสดงตัวในที่ทำงานทำให้คุณอับอาย ตรงนี้ก็ฟ้องหากได้ความว่าเขาจงใจจะกลั่นแกล้งคุณ เป็นเรื่องความผิดละเมิดต่อสิทธิของเราเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากว่าปัจจุบันเขายังคงทำแบบนี้นี้คุณก็ฟ้องเขาได้ แต่หากเป็นเรื่องมีมานานแล้ว ก็ต้องดูว่าพ้น 1 ปี แล้วหรือยัง หากพ้นไปแล้วก็ฟ้องเรียกค่าสินไหมไม่ได้

                  แต่ผมโดยความเห็นผมขออนุญาตแนะนำว่าให้คุณพยายามทำใจให้สงบดีกว่ามีโอกาสก็ไปไหว้พระทำบุญ หรือไหว้พระที่บ้านก็ได้ ตั้งจิตอธิษฐานแผ่ให้บุญกุศลนี้ไปถึงภรรยาเก่าของสามีคุณ ปรารถนาต่อเขาให้เขาได้ดีมีความสุข สักประมาณ 3-4 วัน ซึ่งคุณก็จะประหลาดใจว่าคุณมีความโกรธเกลียดเขาน้อยลงแม้เป็นเรื่องเล็กน้อยที่เรามองข้ามแต่ก็ได้ผลมหาศาลเกินคาด แต่หากมีเรื่องราวให้ฟ้องร้องกันเป็นการเสียเวลาและตัวคุณเองก็จะร้อนรุ่มตลอดเวลา ซึ่งตัวคุณเองก็ไม่สงบสุขอย่างแท้จริงสักที ปัญหาของคุณตอนนี้เรื่องมันอยู่ที่การวางใจของคุณเท่านั้น   ส่วนภรรยาเก่าของสามีคุณเขาทำกรรมแบบใดไว้ก็คงต้องได้รับผลไปตามนั้น คุณก็ไม่ต้องไปกังวลคิดถึงเขาหรอก  หากคุณอยากได้ข้อคิดดีๆ ที่ทำให้คุณคิดได้ ผมขอแนะนำให้คุณอ่านหนังสือสกุลไทย คอลัมน์ "ฝากใจไว้ที่นี้" ของคุณน้ำผึ้งป่าแล้วคุณก็พิจารณาเองว่าจะเป็นประโยชน์กับตัวคณได้อย่างไรบ้าง

ผู้แสดงความคิดเห็น ยินดีรับฟัง วันที่ตอบ 2007-12-19 23:37:48 IP : 125.24.246.191


ความคิดเห็นที่ 6 (1332437)

ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำมากค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น เจ้าของกระทู้ วันที่ตอบ 2007-12-20 07:58:07 IP : 161.200.255.162



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.