เพิ่มเติมค่ะ

มีหนี้ 2 บัตรรวมกันแล้ว 55,000 บาท (ให้ผ่อน 6เดือน) แต่ถ้าปิดบัตร จ่าย 46,000 บาท ครั้งเดียว แต่ว่าปัญหาคือ ยังไม่สามารถปิดบัตรได้ พยายามเจรจาแล้วก็ไม่เป็นผล จริงๆ ตั้งใจผ่อน 6 เดือน แต่เดือนนี้ไม่ไหวจริงๆ

ทางบัตรเครดิตก็แจ้งว่าเรื่องถูกส่งฟ้องแล้ว แต่ถ้าคุณยอมจ่าย เราจะระงับเรื่องฟ้องของคุณ

ถ้าฟ้องแล้ว ทางบริษัทฯ ที่บัตรเครดิตจ้างทวงหนี้ สามารถระงับได้รึเปล่าคะ?

แล้วควรจะให้เค้าฟ้องไปเลยดีรึเปล่าคะ แล้วจะมีผลยังไงบ้าง

กลุ้มใจจังเลยค่ะ

1. ชำระครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เพราะว่าอายุความ 2 ปี นับแต่วันชำระครั้งสุดท้าย

2.ถ้าอายุความยังไม่ขาด ให้หายใจลึกๆ(เอาอ๊อกซิเจนไปเลี้ยงสมอง) แล้วพร้อมกับตะโกนเรียกความมั่นใจ ซึ่งมีวิจัยแล้วว่ามักใช้ได้ผลในยามเครียดหรือจนตรอก แล้วจะรู้ดีขึ้น

3.คดีแพ่งมันไม่มีเรื่องการติดคุกติดตะรางไม่ต้องไปกลัว คนเรามีหนี้ก็ต้องจ่ายอยู่แล้วแต่มันต้องมีเทคนิคและวิธีกันบ้าง ส่วนใหญ่พวกนี้จะไม่ค่อยฟ้องเพราะว่าไม่คุ้มกับค่าจ้างทนายความ แต่ดูจากยอดหนี้แล้วถ้าเป็นผมฟ้องนะ แฮ่ๆๆๆๆ

4.ให้ลองเจรจาใหม่ถ้าเขาไม่ยอมก็บอกว่าฟ้องไปแล้วจะไปคุยในชั้นศาลเอง กว่าจะฟ้องและนัดสืบมีเวลาตั้งตัวอีกนานในการหาเงิน

5.บอกไปเลยว่ามีหนี้หลายตัว ถ้าจะให้ชำระผ่อนได้เท่านี้ เพราะว่าต้องส่งตัวอื่นๆด้วย เอาไหม ไม่เอกก็ฟ้องไปช่วงนี้กว่าจะถึงวันนัดสืบก็คงผ่อนตัวอื่นๆหมดแล้ว แล้วมาทำยอมในชั้นศาลซะก็สิ้นเรื่อง ฮ่าๆๆๆ แต่อาจจะมีค่าดำเนินการทางกฎหมายบวกเข้าไปด้วยนิดหน่อยนะคร๊าบ

6.ตอนนี้ผมมีหนี้บัตรอยู่ก็ 2 แสนกว่า ไม่เห็นเครียดเลย เงินเดือน 22,000.- บาท ถ้ามัวแต่ชำระขั้นต่ำชาตินี้เมื่อไหร่จะหมดฟ่ะ สู้เก็บเดือน ละ 10,000.- บาท ปีนึงๆ ก็ได้แสนแล้วไม่รวมโบนัส

สรุป เก็บเงินทุกเดือน แล้วรอปิดบัญชีทีละตัวจะดีกว่าขืนชำระแต่ขั้นต่ำเดือนนึงๆก็ไม่พอกินกัน สู้เก็บเงินแล้วค่อยๆไปปิดดีกว่า หรือจะผอนแบบที่พอรับได้ก็ดีครับ ดคีแพ่งไม่มีการติดคุกหรอกไม่ต้องไปกลัว อย่างมากก็ยึดทรัพย์บังคับคดี แล้วถ้าเราโอนย้ายถ่ายเทก็จบ แม้ในทางกฎหมายจะสืบติดตามได้ก็ตามที แต่ในทางปฎิบัตธนาคารไม่ทำหรอกครับไม่คุ้ม โดยเฉพาะหนี้แค่หลักหมื่น แต่อาจจะรำคาญหน่อยในการโดนบริษัทโทรมาบ่อยๆ ก็เปิดแบบสั่นแล้วกัน

บางครั้งการโดนยอมถูกฟ้องนั้น มันก็จะมีระยะเวลาเข้ามาทำให้เรามีเวลาที่จะเก็บเงินแล้วเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ในชั้นศาลได้ครับ

หมายเหตุ การถูกฟ้องมิใช่การถูกซ้ำเติมเสมอไป อาจเป็นการดีเสียอีกที่พอมีเวลาเก็บเงินเข้ามาเจรจา หรืออย่างน้อย บัตรตัวอื่นก็อาจจะผ่อนหมดแล้ว และค่อยนำเงินมาผ่อนตัวที่กำลังถูกฟ้องครับ ฮ่า...ฮ่า..ๆๆๆๆๆๆๆ สวัสดีชาวโลก