[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
ปรึกษากฎหมาย | |
ในกรณีเราได้นำโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ไปจดนำนองกับนายทุน1-2- 3 ตามลำดับหลังจากนั้นจะขอวงเพิ่มกับนายทุนคนที่4 เพื่อมาใช้ในการทำธุรกิจ แต่นายทุนคนที่4 ไม่รับจำนองบอกกล่าวว่าเพราะยอดที่จดจำนองสูงแต่ให้ทำการขายให้และตีราคามาให้และได้ยื่นขอเสนอว่าให้ทำสัญญาจะซื้อขายเพื่อนำเอกสารไปขอยื่นกู้ธนาคารและมีค่ารอเวลาต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละ100,000 บาท ราคาซื้อขายณกรมที่ดิน4,600,000 ทางเราก็ได้ไปโอนกรรมสิทธิ์แต่ได้รับเงินเพียง3,500,000 ถูกแบ่งออกเป็น2 ใบที่นายทุนตีเช็คสั่งจ่ายปลดจำนอง นายทุนคนที่3 ยอด2,318,750 และยอดจำนวนเงิน1,181,250 สั่งจ่ายเป็นเช็คเงินสดระบุชื่อนายทุนคนที่4 แต่ได้รับเงินสด700,000 บาท ซึ่งหัก 1. ค่าปากถุง/ น้ำมัน/ จิปาถะ181,250 บาท 2. ค่ารอทำธุรกรรมขอสินเชื่อธนาคาร3 เดือนตั้งแต่เดือนเมษายน- มิถุนายน2561
หลังจากที่โอนกรรมสิทธิ์วันที่2 เมษายน2561 ได้จัดทำสัญญาจะซื้อจะขายครั้งที่1 เพื่อจะนำไปขอสินเชื่อกับทางธนาคารจำนวนเงิน5,600,000 ภายในวันที่2 ธันวาคม2561 และสัญญาฉบับนี้ได้หมดอายุจึงได้ต่อสัญญาใหม่ - ครั้งที่2 วันที่29 เมษายน2562 ได้จัดทำสัญญาจะซื้อจะขายครั้งที่2 เพื่อจะนำไปขอสินเชื่อกับทางธนาคารจำนวนเงิน8,000,000 ภายในวันที่1 กรกฎาคม2562
และในเดือนกรกฎาคม2561 = โอนเงินเข้าบัญชีนายทุนคนที่4 100,000 บาท
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ชำระค่าดอกเบี้ย(ค่ารอเวลาขอสินเชื่อกับธนาคาร)
จนกระทั่งประมาณธันวาคม2561 นายทุนคนที่4 แจ้งว่าไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ100,000 แล้ว
ให้ทำสัญญาเช่าบ้านเดือนละ50,000 มีกำหนดการเช่า6 เดือน ตั้งแต่2 ธันวาคม2561 - 2 พฤษภาคม2562 และในวันที่30 เมษายน2562 ได้รับโนติสจากสำนักกฎหมายว่าให้ขนย้ายออกภายในวันที่31 พฤษภาคม2562
จากรายละเอียดในข้างต้น 1. สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ไหมดูเหมือนมีเจตนาจะนำสินทรัพย์ไปเป็นของตนหรือเจตนาอื่นแอบแฝง 2. นายทุนคนที่3-4 เป็นพรรคพวกกันเอง 3. จากยอดซื้อขายจริงกับกรมที่ดิน4.6 ล้านแต่ได้รับเงินจริงไม่ถึงสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้างเพราะมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินจริง 4. จากเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ต้องกลายมาเป็นผู้เช่า 5. จากสัญญาซื้อขายจะซื้อขายกลับยอด5,600,000 กับ8,000,000 เป็นเพียงตัวเลขที่ทำเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อขอสินเชื่อกับทางธนาคารแต่ราคาซื้อคืนจริงตกลงกันด้วยวาจา 6.มีสิทธิ์จะได้คืนไหม | |
ผู้ตั้งกระทู้ Ano :: วันที่ลงประกาศ 2019-06-06 18:45:29 IP : 180.183.47.184 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (4311895) | |
การขายที่ดิน 1. สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ไหมดูเหมือนมีเจตนาจะนำสินทรัพย์ไปเป็นของตนหรือเจตนาอื่นแอบแฝง
ตอบ...ไม่น่าจะไปดำเนินคดีอะไรกับเขาได้ เพราะคุณมีเจตนาโอนที่ดินให้เขาโดยชอบแล้ว 2. นายทุนคนที่3-4 เป็นพรรคพวกกันเอง ตอบ...คงต้องหาทางพิสูจน์ว่า พวกเขามีเจตนา ฉ้อฉล ซึ่งคงพิสูจน์ได้ลำบาก 3. จากยอดซื้อขายจริงกับกรมที่ดิน4.6 ล้านแต่ได้รับเงินจริงไม่ถึงสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้างเพราะมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินจริง
ตอบ..ถ้ามีหลักฐานชัดเจนว่า ซื้อขายกันเท่าไร เมื่อจ่ายยังไม่ครบ ก็ต้องเรียกร้องส่วนที่เหลือ ถ้าไม่เป็นผล ต้องฟ้องทางแพ่ง 4. จากเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ต้องกลายมาเป็นผู้เช่า ตอบ..ก็คุณไปโอนกรรมสิทธิ์ให้เขา กรรมสิทธิ์ของคุณย่อมหมดไป นับแต่วันโอนกรรมสิทธิ์ 5. จากสัญญาซื้อขายจะซื้อขายกลับยอด5,600,000 กับ8,000,000 เป็นเพียงตัวเลขที่ทำเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อขอสินเชื่อกับทางธนาคารแต่ราคาซื้อคืนจริงตกลงกันด้วยวาจา ตอบ...ต้องใช้การเจรจา หรือฟ้องศาล ซึ่งตามข้อเท็จจริง คุณอยู่ในฐานะเสียเปรียบ 6.มีสิทธิ์จะได้คืนไหม ตอบ...ถ้าหมายถึงจะได้บ้าน คืนหรือไม่ คงไม่ได้คืน เพราะจดทะเบียนโอนให้เขาโดยชอบแล้ว เว้นแต่จะสามารถพิสูจน์ได้ว้า มีการ ฉ้อฉล ซึ่งคงพิสูจน์ไม่ได้ง่ายๆ... | |
ผู้แสดงความคิดเห็น มโนธรรม วันที่ตอบ 2019-06-07 03:51:55 IP : 101.51.5.54 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1087565 |