เมื่อยายเสียชีวิตได้มีการนัดแบ่งสมบัติโดยไม่ได้ทำการเปิดพินัยกรรมกัน(หาไม่เจอ) แต่นาย ข ไม่ยอมมา  ทุกคนแบ่งกันและได้เก็บไว้ให้นาย ข บางส่วน แต่นาง ค ข้องใจอยากดูพินัยกรรม เลยช่วยกันหาจนเจอ เมื่อเจอได้นัดทุกคนมาเพื่อเปิดพินัยกรรมแต่ นาย ก และนาย ข ไม่มา นาง ค จึงกล่าวว่าเปิดพินัยกรรมเลยมีอะไรนาง ค จะรับผิดชอบเอง  

    เมื่อเปิดพินัยกรรมแล้วพินัยกรรมได้กล่าวว่า ที่ดิน ให้นาย ก และ ข บ้านให้นาง ค และ ง และเครื่องประดับทั้งหมดรวมทั้งเงินในบัญชี ได้ยกให้กับผู้ที่ดูแล (ซึ่งคือนาง ง) แต่เงินหมดไปกับการดูแลยายทั้งหมดแล้ว(ผู้ป่วยติดเตียง) และนาง ง ได้จ่ายเงินเพื่อดูแลยายเพิ่มเติมเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า4แสน(ไม่มีใครช่วยออกเลย)  เมื่อพินัยกรรมเขียนเช่นนั้น  นาง ค จึงนำมรดกที่ได้ไปมาคืนที่นาง ง เมื่อนาง ค นำมาคืน นาง ง เห็นว่า นาง ค มีส่วนในการดูแลยายจึงได้ให้กลับคืนไป 

 

   เมื่อได้ทำการเปิดพินัยกรรมแล้วทำให้ นาย ข ไม่พอใจและได้หลอกให้นาง ง เอาพินัยกรรมฉบับจริงไปให้ดูที่บ้าน และได้ยึดเอาไว้ นาง ง ไม่สามารถทำอะไรได้ 

 

และนาย ข ได้กล่าวว่า สมบัติที่ตกเป็นของนาง ง ตามพินัยกรรมนั้น นาย ข จะเอาไปทั้งหมด เพื่อทดแทน ทองที่นาย ข อ้างว่าคุณตาได้พูดว่าจะให้ ถ้าไม่ให้จะเอาเงิน2แสน และถ้าไม่ให้เงิน2แสน จะฟ้องเพื่อเอาบ้าน (บ้านโอนเป็นชื่อของนาง ง ไม่ต่ำว่า10ปีมาแล้วและเป็นที่ของทรัพย์สิน)

 

2 พินัยกรรม ตัวจริง จะมีผลหรือทำการใดๆให้นาง ง เสียหายได้หรือไม่ ถ้าสามารถเอาพินัยกรรมที่เป็นสำเนามาได้(ยายได้ทำไว้4ฉบับ ให้กับ น้องสาวของยายและญาติผู้ใหญ่) 

 

3 ถ้านาย ข มาเอาสมบัติไป จะให้เขียนประมาณว่าจะไม่มายุ่งกับครอบครัวเราอีก ต้องใช้เป็นสัญญาแบบไหน ประนีประนอมหรืออะไร