การตกลงใดๆด้วยวาจา อาจไม่ผลผูกพันตามกฎหมาย ทำไมไม่ระบุไว้ในสัญญาจะซื้อจะขายให้ชัดเจนไปเลยว่า ถ้ายกเลิกสัญญาเช่าไม่ได้ บี จะเพียงขอรับเงินมัดจำคืน สัญญาจะซื้อจะขายเป็นอันยกเลิก การไปตกลงด้วยวาจา ก็คงพิสูจน์กันลำบาก หรือเขาอาจอ้างหน้าเฉยว่า ไม่ได้ตกลงใดๆไว้ นอกจากที่ทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ พ่อของคุณก็ย่อมเสียเปรียบ...... แต่...แม้สัญญาเช่ายังไม่ยกเลิก ก็สามารถซื้อขายที่ดินได้ ทำไมต้องไปรอให้หมดสัญญาเช่าก่อน บี ผู้ซื้อที่ดินก็รับโิอนทั้งสิทธิ์และหน้าที่ คือได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน และยังต้องปฏิบัติตามสัญญาเช่าต่อไปเท่านั้น....
1. นายB มีสิทธิ์ที่จะมาฟ้องร้องเรียกเงิน 5ล้านบาทเป็นค่ายกเลิกสัญญาหรือไม่?
ตอบ...ถ้าในสัญญาจะซื้อจะขายระบุเบี้ยปรับไว้ เขาก็สามารถเรียกร้องได้ ก็ไปประมาทเลินเล่อ ที่ไปทำสัญาไว้หละหลวมเอง การจะซื้อจะขายที่ดินหลายร้อยไร่ เป็นเงินหลายล้านบาท ควร มีที่ปรึกษากฎหมายหรือทนายความช่วยดูแลสัญญาอย่างรอบคอบ เมื่อทำสัญญาไว้หละหลวมไม่รอบครอบย่อมเสียเปรียบ.....ในเมื่อ บี อยากได้ที่ดิน เมื่อตกลงราคากันได้ ก็ควรโอนให้เขาไปเลย ทำไมต้องรอให้หมดสัญญาเช่าครับ
2. พ่อผมมีสิทธิ์ที่จะฟ้องกลับนายBฐานข่มขู่รีดทรัพย์ได้หรือไม่?
ตอบ.....ถ้าเขาเรียกร้องตามสัญญาจะซื้อจะขาย จะไปฟ้องเขาไม่ได้ ก็มีเพียงข้อต่อสู้ว่า เขาเรียกเบี้ยปรับสูงเกินควรเท่านั้นครับ
3. เมื่อนายB ทำอย่างนี้แล้ว พ่อผมคงไม่ขายที่ให้แก่นายBเด็ดขาดแล้ว ติดตรงสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ที่นายBทำไว้กับพ่อกระผม พ่อกระผมควรทำอย่างไร ที่จะยกเลิกสัญญาฉบับนี้และคืนเงินมัดจำแก่นายBได้ครับ?
ตอบ....ในเมื่อไปทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ จะมายกเลิกง่ายๆคงไม่ได้ เขาสามารถฟ้องให้ปฏิบัติตามสัญญาได้ ก็ลองเจรจาขอเลิกสัญญาดู บางทีอาจมีช่องทางทำได้ งานนี้คุณพ่อของคุณอยู่ในฐานะต้องปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายเท่านั้น ถ้าไม่ปฏิบัติตามสัญญาก็ย่อมถูกฟ้องและเรียกร้องค่าเสียหายแน่นอนครับ
|