[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
หัวอกคนเป็นแม่ | |
ฉันได้แต่งงานกับชาวจีนที่มีการศึกษาและหน้าที่การงานที่ดี เราแต่งงานกันได้8ปีแต่ฉันอยู่ด้วยความอดทน ฉันใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรีที่เมืองไทยและฉันเคยมีแฟนเป็นคนไทยโดยโดนแฟนคนไทยขืนใจจนต้องยอมรับสภาพที่ต้องเป็นแฟนเขาเราไม่ได้แต่งงานกัน ฉันรู้จักเขาประมาณ2ปี หลังจากนั้นเราก็เลิกกันโดยที่เขาไปแต่งงานตามคำสั่งแม่ของเขาซึ่งฉันเองกลับรู้สึกโล่งใจเป็นที่สุดที่จะได้ไม่ต้องทนอยู่กับเขาอีกต่อไปถึงแม้เราจะเจอกันไม่บ่อยแต่ฉันก็ไม่เคยมีใครเลยได้แต่เก็บความทุกข์ไว้ในใจคนเดียว แล้วฉันก็ไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยความช่วยเหลือของน้าสาว และได้แต่งงานกับคนจีนก่อนแต่งงานเขาถามฉันว่าฉันยังบริสุทธิ์ไหม ฉันไม่เคยโกหกใครและไม่อยากให้ใครต้องเสียใจภายหลังฉันบอกเขาว่าฉันโดนแฟนเก่าข่มขืนแต่ไม่ได้บอกว่าฉันยังคบกับเขาต่ออีก2ปีและสามีว่าถ้ารับได้ก็แต่งงานกันถ้ารับไม่ได้เราก็เป็นเพื่อนกันได้ แต่เขายอมแต่งงานกับฉันโดยไม่มีสินสอดทองหมั้นเลยเพราะฉันไม่เคยชื่อเรื่องพวกนี้โดยที่ทางบ้านไม่เห็นด้วยกับการที่ไม่เรียกอะไรเลยตามประเพณีคนไทย แต่สามีฉันก็ให้เงินค่าเครื่องบินพ่อแม่ด้วยความไม่พอใจแต่ฉันขอร้องให้เขาให้ท่านเอง แล้วเราก็เริ่มชีวิตคู่กัน สามีฉันมีความต้องการทางเพศสูงมากขณะเดียวกันเขาก็เริ่มถามฉันเรื่องแฟนคนเก่า ฉันเริ่มโกหกเป็นเพื่อความสบายใจของเขาแต่สิ่งที่ฉันไม่คาดคิดก็เริ่มต้น ด้วยการถ้าวันไหนเขาดูหนังรักโรแมนติกเพียงแค่ฉากเดียวหรือบทอะไรที่เกี่ยวกับข่มขืน เขาจะหันมาหาฉันเริ่มด้วยการด่าทออย่างหยาบคายและดูถูก ถ้าฉันเถียงหรือมองหน้าเขาฉันจะโดนเขาทำร้ายร่างกาย แต่หลังจากที่เขาระบายอารมณ์หมดแล้วเขาก็จะดีกับฉันมาก ฉันเรียนรู้ที่จะอยู่กับความทุกข็โดยที่ทางบ้านไม่เคยรับรู้เรื่องนี้เลย ฉันเรียนที่จะอยู่กับความอดทน ความทุกข์ จนกระทั่งฉันเริ่มท้องเขาเริ่มด่าฉันน้อยลงและไม่ได้ทำร้ายร่างกายฉันอีก แต่หลังจากคลอดลูกแล้วทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมและยิ่งเลวร้ายมากขึ้นถ้าเขามีปัญหาเรื่องงานหรือเรื่องเงิน เขาจะเริ่มโทษว่าเป็นที่ฉันและครอบครัวที่ทำให้เขาลำบากเรื่องเงินเพราะฉันเอาเงินให้พ่อแม่ซึ่งฉันให้พ่อแม่แค่ค่าตั๋วเครื่องบินไม่ถึงแสนตลอดเวลาที่ฉันแต่งงานมาได้3ปี แล้วเราก็ได้ย้ายประเทศไปอยู่ที่บ้านเกิดของเขาที่ปักกิ่ง ซึ่งมันเริ่มเป็นฝันร้ายที่ยาวนานของฉัน ลูกเริ่มโตฉันไม่มีงานทำเพราะพูดได้แต่อังกฤษพูดจีนไม่ได้ เขาเริ่มมีความเครียดมากขึ้นด้วยหน้าที่การงานระดับสูงและปัญหาที่เขาอยากใช้หนี้ธนาคารที่กู้มาซื้อบ้านราคากว่า7ล้านให้หมดภายใน5ปีก่อนที่ดอกเบี้ยจะลอยตัวตามสัญญา เราเริ่มทะเลาะกันมากขึ้นฉันโดนทำร้ายมากขึ้นไม่เว้นแม้กระทั่งต่อหน้าลูกหรือแม่ของเขา ถ้าฉันไม่อยากโดนด่าหรือทำร้ายฉันต้องเอาใจเขาสารพัดรวมทั้งยอมให้เขานอนกับคนอื่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง ถามว่าฉันรับได้ไหมรับไม่ได้ก็ต้องได้ถ้าอยากอยู่อย่างสงบ แต่ก็ใช่ว่ามันจะหมดฉันก็คนมีความอดทนเหมือนกัน หลังจากที่ฉันอยู่จีนได้ไม่นานฉันก็พูดจีนได้และเริ่มเป็นครูสอนภาษาไทยได้เงินเป็นกอบเป็นกำพร้อมทั้งรับงานข้างนอกทำให้ค่าใช้จ่ายในบ้านและเงินเดือนของเขาแทบไม่ต้องใช้ แต่มันต้องแลกกับการทำงานอย่างหนักของฉัน สอนตั้งแต่8โมงเช้าถึง เที่ยงคืน รวมทั้งต้องทำอาหารและดูแลครอบครัว จนกระทั่งฉันออกมาทำงานข้างนอกเป็นหลักและงานสอนเป็นงานรอง ฉันได้ออกจากบ้านเป็นครั้งแรก ฉันจะทำงานข้างนอกประมาณ4วันกลับบ้านครั้งหรือบางทีถ้างานมากฉันก็ไม่ได้กลับเป็นครึ่งเดือน เงินที่ได้ฉันบอกรายได้ของฉันต้องให้เขาหมด ถ้าฉันมีเงินให้เขาหรือไม่ฉันก็ต้องตอบสนองตัณหาของเขาเป็นอย่างดีฉันก็จะไม่ได้ยินเสียงด่าจากเขา แล้ววันที่ระเบิดมันก็มาถึง เมื่อเขาต้องการให้ฉันเอาใจเขาหลังจากที่ฉันกลับมาจากทำงานกว่า15วัน ฉันเหนื่อยแทบขาดใจแต่เขาให้ฉันเอาใจเขาก่อนที่เขาจะนอน ฉันทำได้นิดเดียวด้วยความรู้สึกว่าฉันคือเมียหรือทาสกันแน่ ฉันหยุดทำแล้วเขาก็เริ่มด่าทอถึงอดีตด่าพ่อแม่ญาติพี่น้องทั้งตระกุลรวมถึงด่าถึงประเทศไทย ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปฉันเถียงและเขาก็ทำร้ายร่างกายฉัน ทีนี้ฉันสู้แต่ด้วยแรงผู้หญิงมีหรือจะสู้ไหวเขาเหยียบหัวฉันเหยียบหน้าและถ่มน้ำลายใส่หน้าฉันประมาณ 7ครั้ง เขาทำแบบนี้ต่อหน้าลูกและแม่ของเขาพอเขาเห็นลูกร้องไห้เขาก็ตบฉันแล้วบอกว่าเป็นเพราะฉันคนเดียว หลังจากที่เขาใจเย็นลงแล้ว เขามาขอโทษเหมือนทุกคร้งที่เขาเคยทำและได้ผล แต่ฉันสิจำได้ว่าวันนั้นหิมะตกตอนเช้า เขามีประชุมด่วน ฉันตัดสินใจหนีแล้วโกหกลูกว่าฉันไปตลาดฉันหยิบแค่พาสปอร์ตเท่านั้น ฉันกอดลูกด้วยน้ำตาและเดินออกจากบ้านท่ามกลางหิมะด้วยเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ฉันสงสารและใจจะขาดที่ต้องจากลูกชายของฉันเพียงคนเดียว กลับมาสู่อ้อมกอดแม่ด้วยหัวใจสลาย ครอบครัวฉันรู้เรื่องทุกอย่างก็ตอนนนี้ล่ะ ฉันปิดมันไว้ตลอดเวลา8ปี ฉันหนีมาเขาช็อคทุกคนช็อคไม่เคยมีใครว่าแมวโง่ๆตัวหนึ่งมันจะกล้าหนีได้ เขาโทษฉันและหาว่าฉันเป็นคนไม่ดี มีผู้ชาย แต่ความเป็นจริงฉันหนีความเป็นทาส ฉันรู้สึกว่าต้วฉันรับอะไรไม่ได้อีกแล้ว ฉันไม่สนใจเงินทองทรัพย์สินใดๆแล้ว ฉันคิดแต่จะฆ่าตัวตายและโทษตัวเองว่าฉันเป็นคนไม่ดีจริงๆเหมือนดั่งที่เขาพูด หลังจากที่ฉันกลับมาอยู่เมืองไทย เขาขอร้องให้ฉันกลับและสัญญาจะเป็นลูกเขยที่ดีทดแทนที่เขาทำผิดเมื่อก่อน ฉันเห็นแก่ลูกและสงสารเขาจึงกลับไปปักกิ่งอีกครั้ง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อลูกเข้าใจว่าฉันไม่รักเขา ลูกไม่กล้าแม้แต่จะไปไหนกับฉันสองคนแม่ลูก เพราะกลัวว่าฉันจะพาเขาหนีมาอยู่เมืองไทย พ่อเขาสอนไว้และเขาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับฉันได้ไม่ถึงอาทิตย์ทุกอย่างก็เหมือนเดิมเพียงแต่เขาไม่ได้ด่าฉันเหมือนเมื่อก่อนไม่มีการทำร้ายร่างการ แต่เขาหยิบเอาประเด็นการหนีกลับมาเมืองไทยของฉันที่ทำให้ครอบครัวเราเสียเงินไปกว่าครึ่งล้านเพราะฉันคนเดียว ต่อว่าพ่อแม่ฉัน เขาจะพูดอาทิตย์ละ5วันๆละ 1-2ชั่วโมง โดยที่ฉันต้องนั่งฟังอย่างเดียว ฉันทนไม่ได้แล้วที่ต้องเห็นลูกมาแอบแง้มประตูคอยดูว่าพ่อจะตีแม่ไหม ฉันเห็นแววตาลูกที่มองฉันเจ็บถึงขั้วหัวใจ แต่ลูกเชื่อพ่อกับย่ามากเขาไม่กล้าอยู่กับฉันสองคน ทำทุกอย่างที่พ่อสั้ง ฉันเลยตัดสินใจหนีมาอีกครั้งและคงไม่กลับไปอีกถึงแม้ว่าฉันจะรักลูกว่าแค่ไหน สามีฉันเขาเข้าใจว่าฉันมีผู้ชายคนใหม่เพราะเห็นฉันคุยMSN กับคนไทยซึ่งก็เป็นเพื่อนร่วมงานกันทั้งนั้นและส่วนมากก็เป็นผู้หญิง เขาบอกทุกคนว่าฉันมีชู้ ฉันก็ไม่รู้เขาไปเอาความคิดนี้มาจากไหนทั้งๆที่เขารู้อยู่เต็มอกมันไม่ใช่ คำถามของฉันคือว่า ฉันควรจะทำอย่างไรดี ตอนนี้ฉันสับสนและโทษตัวเองว่าฉันเป็นคนไม่ดีที่หนีลูกมา ฉันคิดฆ่าตัวตายให้มันจบความเจ็บปวดของฉันลงให้เร็วที่สุด ใครก็ได้บอกที....... | |
ผู้ตั้งกระทู้ หิมะร้อน :: วันที่ลงประกาศ 2009-01-16 12:43:47 IP : 124.120.183.81 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2960810) | |
-คุณได้ผ่านความระทมขมขื่นของชีวิตมามากมาย จนสามารถเรียกได้ว่าคุณคือยอดมนุษย์ ที่มีความขันติที่สูงส่ง คุณคือผู้ชนะในเกมชีวิตอย่างขาวสะอาด ที่มีใจคอเด็ดเดี่ยวกล้าหนีจากสิ่งที่ทำให้ชีวิตตกต่ำและเลวร้าย........แล้วคุณจะมายอมแพ้เอาตอนจบเอาง่ายๆโดยการคิดสั้น ฆ่าตัวตายอย่างโง่เขลาหรือ ชีวิตคุณยังมีค่ามากมายเหลือคณา เพียงแต่วิบากกรรมนำพาให้คุณต้องตกไปอยู่ในสถานที่อันไม่เหมาะสม เมื่อคุณสามารถหลุดรอดมาได้อย่างผู้ชนะ จงมีชีวิตยืนอยู่อย่างผู้ชนะไม่ยอมพ่ายแพ้แก่โชคชะตาต่อไปเถิด........ -ธรรมะของพุทธองค์คือยาวิเศษที่สามารถรักษาเยียวยาชีวิตที่ตกต่ำและมือบอดได้อย่างอัศจรรย์.......เริ่มต้นตั้งแต่ เข้าวัดทำบุญ ฟังธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ และแผ่เมตตา เมื่อปฏิบัติสม่ำเสมอ เพียงหนึ่งเดือนผ่านไป จะพบความเปลี่ยนแปลงในชีวิต หนทางชีวิตที่เคยมือมน ไร้ทางออก หรือความทุกข์ที่เคยสุมรุมในอก จะค่อยคลี่คลายไปอย่างน่าอัศจรรย์.....ถ้าคุณได้ทดลองปฏิบัติจริง ก็จะพบกับตัวเองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลไร้สาระครับ.....ขอบุญกุศลที่คุณได้เคยกระทำมาในชาตินี้และอดีตชาติ จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้คุณมีพลังใจที่เข้มแข็ง สามารถฟันฝ่าอุปสรรคทั้งมวลไปได้ด้วยดีเทอญ..... | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-01-16 15:18:29 IP : 125.26.111.35 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2960921) | |
ขอบคุณนะคะสำหรับการให้กำลังใจฉัน ตอนนี้สามีฉันต้องการให้ฉันกลับไปแล้วเริ่มต้นกันอีกครั้งโดยอ้างว่าลูกเริ่มมีปัญหาทางจิตและสังคม ลูกชายฉันกำลังจะเข้าโรงเรียนค่ะ แต่ฉันแอบถามญาติของเขาได้ความว่าลูกสบายดีและทุกคนรักแกและแกก็จะถามถึงฉันเฉพาะตอนแกนอน ฉันเข้าไปอ่านอีเมลล์ของสามีได้ความว่าเขาเขียนเรื่องให้ทนายฟ้องหย่าฉันโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีฉันอยู่ในศาล โดยข้อมูลที่เขาให้ทนายได้บิดเบือนความจริง และสิ่งที่เขาเขียนไปถ้าอ่านแล้วฉันก็คือผู้หญิ่งไทยที่เลวคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีความดีใดๆเหลืออยู่เลย ฉันเปลี่ยนเบอร์มือถือและฉันไม่อยากเจอเขาอีกแต่ฉันห่วงลูก เขาบอกถ้าฉันไม่กลับฉันจะไม่มีโอกาสเจอลูกอีก ในกรณีที่ฉันหนีมาแบบนี้โดยไม่มีการแจ้งความใดๆเลยและฉันกับเขาจดทะเบียนสมรสที่สิงคโปร์ แต่ตามกฎหมายสิงคโปร์ฉันกับเขาต้องหย่าที่สิงคโปร์เท่านั้น แต่ฉันกับเขาได้คืนบัตรประชาชนสิงคโปร์แล้วก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่ปักกิ่ง ฉันควรทำยังไงดีที่จะหย่าโดยที่ไม่ต้องเจอเขาคะเพราะฉันคงไม่ปลอดภัยแน่ถ้าเข้าไปหย่าให้เขา แต่ฉันก็ไม่อยากให้เรื่องมันคาราคาซังแบบนี้ เขาจะได้แต่งงานกับคนอื่นได้เพื่ออนาคตของเขาเอง ส่วนตัวฉันๆไม่ได้เดือดร้อนกับใบหย่าหรือใบทะเบียนสมรสเพราะฉันคิดว่าพอกันทีกับชีวิตคู่ ตอนนี้ขอทำงานดูแลพ่อแม่และมีเงินเก็บให้ลูกเท่านั้นก็คงพอแล้ว | |
ผู้แสดงความคิดเห็น หิมะร้อน วันที่ตอบ 2009-01-16 20:22:23 IP : 124.120.183.180 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2961148) | |
-ถ้าตามกฏหมายไทย เมื่อฟ้องหย่าถ้าคุณไม่ไปศาล ศาลคงพิจารณาไปฝ่ายเดียว เขาคงหย่าได้โดยที่คุณไม่ต้องไปศาล.....แต่นี่กฎหมายของจีนก็ไม่แน่ใจว่าใช้หลักการเดียวกันหรือไม่.......ลองติดต่อสถานทูตของจีนในประเทศไทยเพื่อสอบถามปัญหา ถ้าสามารหย่าได้โดยยินยอมตามกฎหมายไทย คุณก็เพียงส่งหนังสือยินยอมหย่าส่งไปให้เขาก็ได้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-01-17 16:27:17 IP : 125.26.107.251 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1088135 |