[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
ค้ำประกันสินเชื่อธนวัฎ | |
เรียนท่านอาจารย์ ผมขอปรึกษาท่านด้วยครับ เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ 13 พค.2535 ผมกับเพื่อนได้กู้สินเชื่อธนวัฎฃองธนาคาร โดยต่างคนต่างค้ำให้กัน เงินต้นคนละ 22,000 บาทดอกเบี้ยร้อยละ 16.50 บาทต่อปี กำหนดชำระคืนให้เสร็จสิ้นภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี(ธนาคารจะหักเฉพาะดอกเบี้ยโดยหักจากเงินเดือน ซึ่งเรารับราชการทั้งคู่ซึ่งต้นไม่หักนอกเสียจาก ว่าเราจะเอาเงินไปปิดเอง) จนกระทั่งปี 2546 เพื่อนผมเสียชีวิตลง ผมก็เข้าใจว่าครอบครัวเพื่อนและธนาคารคงจะเคลียหนี้กันแล้ว เมื่อวันที่ 3 กค.51 ที่ผ่านมาสำนักงานธนายความใด้แจ้งมาว่าเพื่อนซึ่งเป็นผู้กู้ ใด้ผิดนัดสัญญา ซึ่งเพียงวันที่ 23 เมย.51 ทั้งเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยรวมแล้ว 27,510 บาท และให้ผมซึ่งเป็นผู้ค้ำ ไปชำระหนี้ที่ธนาคารภายใน 7 วันนับแต่ที่ใด้รับหนังสือบอกกล่าว ผมขอเรียนถามท่านว่า 1. อายุความการเรียกร้องให้ชำระหนี้ขาดแล้วยัง(ไม่ทราบว่า 5 ปีหรือว่า 10 ปีครับ) 2. การที่ธนาคารเรียกผมผู้ค้ำประกันชำระหนี้ ตามหลักแล้วธนาคารน่าจะใด้บอกกล่าวกับคู่สมรสของเพื่อนมั้ยครับ หรือว่าสัญญาค้ำประกันนี้ผูกพันกันเฉพาะผมกับเพื่อนเท่านั้น 3. หลังจากที่เพื่อนผมเสียชีวิตเมื่อปี 46 ปกติธนาคารจะทำการหักดอกเบี้ยจากสลิปเงินเดือนทุกเดือน ซึ่งในเมื่อหักไม่ใด้ธนาคารน่าจะเอะใจ มีหนังสือแจ้งเตือนลูกหนี้หรือผู้ค้ำ จนกระทั่งเวลาใด้ล่วงเลยมาจนถึงปี 51 ถึงใด้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ค้ำไปชำระหนี้ หรือว่าไม่เกี่ยวกับอายุความครับ
| |
ผู้ตั้งกระทู้ คุณนพดล :: วันที่ลงประกาศ 2008-07-03 18:13:30 IP : 210.246.144.163 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2869769) | |
1. หนี้ของผู้ตายธนาคารต้องเรียกร้องภายใน 1 ปี ตั้งแต่เสียชีวิต สำหรับคุณผู้ค้ำประกันคงอายุความ 10 ปี นับแต่การขาดการชำระหนี้เป็นต้นไป 2. ธนาคารคงไม่ต้องแจ้งผู้อื่นหรอก คงส่งคำเตือนคุณผู้ค้ำให้ใช้หนี้ได้ทันที.... 3. ก็เป็นเรื่องที่ตอบลำบาก อาจเป็นเพราะธนาคารมีลูกหนี้เป็นจำนวนมากก็เป็นได้ อีกประการหนึ่งเขาอาจเห็นว่าคุณผู้ค้ำประกันยังอยู่ ไงๆหนี้ของเขาคงไม่สูญแน่นอน แต่......คุณก็นิ่งนอนใจจนเกินไป เมื่อเพื่อนเสียชีวิตและมีหนี้สินผูกพันกันอยู่ในฐานะต่างค้ำประกันให้กันและกัน คุณควรรีบติดต่อครอบครัวของเขาให้เคลียร์หนี้สินกับธนาคาร การเป็นข้าราชการเมื่อเสียชีวิตคงมีเงินตกทอดมายังทายาทพอสมควร เงินเพียง 2-3 หมื่นบาท ถ้าคุณไปติดต่อบอกกล่าวกับครอบครัวของเขา เขาคงไม่บิดพลิ้ว เพราะคนไทยเราเชื่อถือกันว่าการตายทับหนี้ไม่ดี เป็นบาปติดตัวไปในภพหน้า..... แต่คุณก็ตายใจปล่อยเรื่องผ่านมาตั้ง 4-5 ปี...คุณต้องเข้าใจว่าลูกหนี้กับผู้ค้ำประกันมีสถานภาพไม่แตกต่างกัน ถ้าลูกหนี้ไม่ใช้หนี้หรืออยู่ในสถานภาพที่ใช้หนี้ไม่ได้เพราะเสียชีวิต คุณผู้ค้ำประกันคงไม่พ้นความรับผิดชอบแน่นอน...แต่ลองไปคุยกับครอบครัวเขาดูบางทีความเชื่อถือแต่โบราณมาอาจทำให้เขาชดใช้หนี้ธนาคารแต่โดยดีก็อาจเป็นได้.......และในทางกฎหมายถ้าคุณใช้หนี้แทนเพื่อนที่เสียชีวิต คุณก็สามารถฟ้องไล่เบี้ยเรียกเงินคืนจากทายาทของเขาได้ครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2008-07-03 22:15:32 IP : 125.26.106.153 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2869854) | |
ขอบคุณครับท่านผู้เฒ่าสำหรับข้อชี้แนะผมคงจะต้องรีบคุยกับธนาคารดู แล้วก็รีบชดใช้ ถ้าทิ้งใว้นานดอกเบี้ยบานเบอะครับ ส่วนการฟ้อง ผมคงไม่ฟ้องไล่เบี้ยหรอกครับ ถือว่าทำบุญให้กับเพื่อน จากคุณนพดล 04-07-2008 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น นพดล วันที่ตอบ 2008-07-04 07:27:02 IP : 210.246.144.163 |
ความคิดเห็นที่ 3 (4458358) | |
มีความสงสัยว่า ตอนที่ทำสินเชื่อ ธ. ไม่ได้ให้ผู้กู้ทำประกันเงินกู้ หรือประกันชีวิตไว้ด้วยหรอคะ แล้วเงินที่หักตอนที่ทำสินเชื่อ คืออะไร.... | |
ผู้แสดงความคิดเห็น onsee วันที่ตอบ 2022-05-05 16:32:53 IP : 49.48.230.194 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1086912 |