1.หนังสือสัญญากู้ยืมเงินสำเร็จรูปที่วางขายตามท้องตลาดก็สามารถนำมาใช้ได้   แต่ต้องปิดอากาแสตมป์ให้ครบถ้วนถูกต้อง   ในอัตราเงินกู้2,000 บาทปิดอากรฯ  1  บาท   โดยผู้ให้กู้เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย  และให้ผู้กู้ขีดฆ่าและลายลายมือชื่อพร้อมวันที่กำกับ

2. สำเนาบัตรประจำตัวของผู้กู้ที่แนบกับสัญญากู้ก็ช่วยให้สัญญากู้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือมากขึ้นว่าเขาทำสัญญากู้จริง  เพราะมีอยู่บ่อยที่ผู้กู้มักต่อสู้ว่าไม่เคยกู้หรือสัญญากู้ปลอมเป็นต้น...และถ้าจะให้เป็นหลักฐานมั่นคงยิ่งขึ้นควรให้ผู้กู้เขียนด้วยลายมือชื่อตนเองลงในสำเนาบัตร ว่า "ใช้ประกอบสัญญาการกู้ยืมเงินของ.........ตามสัญญาลงวันที่......."และลงลายมือชื่อของผู้กู้กำกับครับ

3. เมื่อครบกำหนดสัญญาถ้าเขาไม่ชดใช้  ต้องฟ้องภายในอายุความ  10  ปีครับ

4. การเขียนสัญญาระบุว่าจะเรียก ดอกเบี้ยเพิ่ม 2% ต่อวัน  ก็คงเป็นคิดดอกเบี้ยร้อยละ 730  ต่อปี  คงผิดกฎหมายน่าจะใช้บังคับไม่ได้   ถ้าเจอลูกหนี้หัวหมอฟ้องว่าเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด(15%ต่อปี)คุณคงเดือดร้อนแน่นอนครับ...สัญญากู้ยืมเงินเพียงผู้กู้ลงลายมือชื่อในสัญญา  แม้ไม่มีลายนิ้วมือหรือไม่มีพยานก็ใช้บังคับได้

5.ก็มีผลใช้บังคับได้  เว้นแต่ถ้าเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด  ใช้บังคับไม่ได้

-หลักฐานการกู้ยืมเงินทำกันเองคล้ายรูปแบบของจดหมาย  และลงลายมือชื่อของผู้กู้  แม้ไม่ปิดอากรฯก็สามารถใช้ฟ้องร้องได้....แต่การให้กู้ยืมเงินโดยไม่มีหลักประกัน เช่นใช้หลักทรัพย์หรือบุคคล ค้ำประกันการกู้ยืมเงิน  มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ไม่ต่างอะไรกับการจับเสือมือเปล่า  โอกาสถูกกัดตายมีมากครับ ....  ธนาคารหรือสถาบันการเงินกว่าจะปล่อยเงินกู้แต่ละครั้งต้องมีบุคคลหรือหลักทรัพย์มาจำนองค้ำประกันการกู้ยืมเงิน  แต่ก็ยังเคยมีธนาคารแห่งหนึ่งล้มละลายมาแล้วเพราะไม่สามารถเรียกร้องหนี้คืนได้.....สำหรับคุณแม้ทำหลักฐานการกู้ยืมไว้มั่นคงเพียงใดก็ตาม  ถ้าเขาไม่มีให้คืน   คุณจะทำอย่างไร ก็ลองไปคิดดูนะครับ   มีเงินฝากธนาคารไว้ไม่ดีกว่าหรือครับ ด้วยความปรารถนาดี....

1.อยากทราบว่าหนังสือสัญญาการกู้ยืมเงิน เราสามารถเขียนขึ้นเองได้รึเปล่า

2.คิดดอก 3% ต่อเดือน ผิดกฎหมายหรือไม่?

3.จะต้องใช้หลักฐานอะไรบ้างสำหรับผู้ที่จะมากู้ยืมเงิน (ตอนนี้ยืมไปแล้วยังไม่ยอมคืน แต่ยังไม่ได้ทำหนังสือสัญญาใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ผู้กู้ยืมยินดีเซ็นให้)

4.กรณียืมโดยปากเปล่าไม่มีสัญญา สามารถไปแจ้งความได้รึเปล่า

5.ใบแจ้งความหรือใบบันทึกประจำวันของตำรวจสามารถนำไปเป็นหลักฐานการยืมได้มั้ย?

6.ถ้าทำหนังสือสัญญาเอง จะต้องเสียอากรแสตมป์รึเปล่าแล้วไปเสียที่ไหนได้บ้าง

ขอบคุณค่ะ

ขอบคุณคับ

อยากทราบว่าในหนังสือสัญญากู้เงินตามกฎหมายใหม่นั้นตรงที่เขียนว่าข้าพเจ้า ได้ทำสัญญากู้เงินให้ไว้แก่ ต้องเป็นชื่อคนกู้หรือผู้กู้คะ

ถ้าเราลงในสัญญากู้ยืมเงิน  แต่เราไม่ได้ลงอัตราดอกเบี้ย คือไม่ได้คิดดอกเบี้ย  แต่ให้ชำระเป็นรายเดือน ทุกเดือนจนกว่าจะครบ  ให้มีผู้ค้ำประกัน  ในกรณีนี้ถ้าผู้กู้หนีหายไป  เราสามารถเอาเรื่องกับคนค้ำได้ใช่ไหมคะ  แล้วสามารถจับกุมดำเนินคดีกับผู้ค้ำได้หรือไม่