ReadyPlanet.com


ถูกทำร้ายในเคหะสถาน


เรียนท่านคณะทำงาน   เข้าพรรษผมกลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดเพื่อทำบุญกลับเจอเรื่องไม่คาดฝันครับ     ผมรับราชการเป็นอาจารย์ที่หน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่งขณะกลับไปเยี่ยมมารดาพบว่าน้องชายนั่งดื่มสุราอยู่กลับเพื่อนกล่มหนึ่ง   เมื่อเวลาประมาณ  21.30  น.  ได้มีกลุ่มวัยรุ่นขับรถจักยานยนต์ประมาณ10คัน  มาจอดที่หน้าบ้านจากน้นได้เข้ามาทำร้ายเพื่อนน้องชาย  ผมซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ได้ออกไปห้ามปราม  กลับถูกชายคนหนึ่งใช้อาวุธมีดฟันที่แขนได้รับบาดเจ็บจากนนั้นมีวัยรุ่นชายจะใช้อาวุธปืนยิงผมจึงเข้าแย่งปืนภายหลังจากที่มีการชุนมุนประมาณ  20  นาที  สามารถจับกุมวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้  1  คนพร้อมอาวุธมีดและอาวุธปืน(มาทราบภายหลังว่าไม่มีกระสุน)   เป็นปืนลูกซองไทยประดิษฐ์  

 

ขออนุญาตเรียนถามปัญหาดังนี้
1.  กลุ่มคนที่ก่อเหตุมีประมาณ  10  คนขึนไปสามารถตั้งข้อหาซ่องโจรได้หรือไม่  โดยสามารถระบุชื่อเล่นได้ทุกคน   แต่ไม่รู้ชื่อสกุลจริง
2.  สามารถตั้งข้อหาเพิ่มเติมอะไรได้อีกบ้าง   
3.  ถ้าผู้ต้องหามาขอยอมความจะได้หรือไม่    แต่ผมและครอบครัวยืนยันจะเอาเรื่องถึงที่สุด   แม่ผมอายุมากแล้ว  เป็นลมล้มฟุบแล้วฟุบอีก  
4.  ระยะเวลาในการดำเนินการทั้งหมดใช้เวลาเท่าใด
5.  หากมีสิ่งใดที่ท่านอยากแนะนำผม   ได้โปรดแนะนำเพื่อใช้ในกระบวนการพิจารณาคดี
6.  ผมและครอบครัวขอครอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำของท่านและคณะทำงาน    ขอให้อยู่เป็นที่ปรึกษาของสังคมสืบไป////////////ศาสนวัฒน์



ผู้ตั้งกระทู้ ศาสนวัฒน์ :: วันที่ลงประกาศ 2008-07-20 12:13:18 IP : 118.172.247.94


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2879396)

1.ความผิดฐานเป็นซ่องโจร   ตาม ประมวลกฎหมายมาตรา  210....ต้องสมคบกัน  5  คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดในภาค 2  คือตั้งแต่มาตรา  107-มาตรา 366  ของประมวลกฎหมายอาญา(คุณสามารถไปดูรายละเอียดได้ว่ามีความผิดฐานใดบ้าง....ดาวน์โหลดประมวลกฎหมายอาญาได้ที่ห้องสมุดกฎหมาย www.krisdika.go.th)  กรณีที่เขาเข้าบุกรุกเข้ามาในบ้านคุณ  มีการทำร้ายร่างกาย...ถ้ามีข้อเท็จจริงว่ามีการสมคบกัน  5 คนขึ้นไปเพื่อก่อเหตุ ก็เข้าข่ายเป็นซ่องโจรได้.......

2.  ขอแนะนำว่าคุณอย่าไปกังวลเลยว่า พวกเขาจะมีความผิดฐานใดบ้าง   เพียงแจ้งตำรวจเมื่อเขาสืบสวนและสอบสวนพบว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานใดบ้างตำรวจก็คงตั้งข้อหานั้นเพิ่มเติมได้

3. ตามกฎหมาย  คดีทำร้ายร่างกาย  บุกรุกในเวลากลางคืน  ไม่สามารถยอมความได้  ตำรวจต้องสรุปสำนวนส่งอัยการเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป  ถ้าพยานหลักฐานชัดเจนพอที่จะสามารถลงโทษผู้กระทำความผิดได้........แต่ในทางปฏิบัติมักมีญาติของฝ่ายผู้กระทำความผิดมาเจรจราไกล่เกลี่ยเพื่อขอชดใช้ค่าเสียหาย   บางทีร้อยเวรก็มักให้เจรจากันถ้าตกลงกันได้เรื่องอาจจบที่โรงพักได้  ก็มีการปฏิบัติกันมากมายพอสมควรแม้เป็นคดียอมความไม่ได้  แต่ถ้าผู้เสียหายยินยอมไม่เอาความ   เขาก็มีวิธีปิดคดีได้.....ก็อยู่ที่คุณซึ่งเป็นผู้เสียหายจะใช้วิจารณญาณตัดสินเอาเองว่าควรเลือกทางใดครับ...

4. ระยะเวลาคงกำหนดชัดเจนไม่ได้  เพราะต้องผ่านหลายหน่วยงาน  คือ  ตำรวจ   อัยการ  และศาล....ในฝ่ายของตำรวจการสอบสวนเพื่อสรุปสำนวนกรณีมีผู้ต้องหาหลายรายก็คงต้องใช้เวลาพอสมควร    ฝ่ายอัยการก็เช่นกันคดีมีมากมายการสั่งคดีต้องใช้เวลา    ในชั้นศาลคดีก็ยิ่งมาก  การสืบพยานแต่ละนัดต้องใช้เวลา   ทั้งตำรวจ  อัยการ   ทนาย  คู่ความ  กว่าจะพร้อมกันได้บางทีก็ใช้เวลาพอสมควร   สรุปแล้วคงใช้เวลา   3 เดือน- 1  ปี โดยประมาณ....

5-6  ตามความเห็นส่วนตัวของผม   ถ้าได้รับการชดใช้ค่าเสียหายพอสมควรแก่เหตุ   การยอมความกันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2008-07-20 15:29:11 IP : 125.26.108.125


ความคิดเห็นที่ 2 (2892856)

ขอบังอาจออกความเห็นครับ

ทำไมถึงแนะนำให้ยอมความครับ ผู้กระทำผิดสมควร

ได้รับโทษ เพื่อให้เกิดความยำเกรงกฎหมาย และไม่เป็น

เยี่ยงอย่างต่อไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ข้าน้อย วันที่ตอบ 2008-08-16 00:27:13 IP : 124.121.68.97



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.