อ่านแล้วเล่นเอางงเลย พิมพ์ให้มันเข้าใจกว่านี้หน่อยนะครับ

เอาเป็นว่าผมเข้าใจตามนี้ คุณถูกเจ้าหนี้ฟ้อง แล้วศาลได้ตัดสินให้คุณชำระหนี้โดย คิดดอกเบี้ยซึ่งเข้าใจว่าเป็นเรทอัตราผิดนัดผิดเงื่อนไข ร้อยละ 15 ต่อปี ต่อมาภายหลังจากที่คุณได้ผ่อนชำระไปแล้วประมาณ 1 ปี กว่านั้น ปรากฎว่าคุณผิดนัดอีก ซึ่งเจ้าหนี้สามารถบังคับคดีได้ทันทีโดยใช้สัญญายอมนั้นเป็นเกณฑ์ นั่นเอง

ดังนั้น  เข้าใจว่าคุณต้องการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่  เอ่อ.....เวลาธนาคารเขาจะเจรจากับคุณนั้น อาจจะเป็นเรื่องขอผ่อนน้อยลง เนื่องจากยอดที่เคยผ่อนมานั้นตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ธนาคารฯเขาก็พร้อมที่จะคุยครับ แต่จะได้ดั่งดวงหฤทัย เอ้ย..ดังดวงใจหรือเปล่านั้นก็อีกเรื่องนึง เนื่องจากเขาเป็นต่อแล้วก็มันมีหนี้ที่มีหลักประกันนี่นา สามารถยึดทรัพย์ขายทอดตลาดได้นั่นเอง ก็คือเป็นเจ้าหนี้ที่มีหลักประกันนั่นเอง OK. ขอตอบแบบกำปั้นทุบดินได้ดังนี้

1.จะทำอะไรในแง่กฎหมายได้บ้าง อันนี้มันลึกซึ้งเข้าไปสุดเกินบรรยาย เพราะว่าคุยแล้วมัน ยาว.....ววววววววๆๆๆๆๆๆ แต่พอจะตอบได้ว่า ก็เข้าไปเจรจาไงครับ เพราะว่าเขามีสิทธิ์ที่จะยึดทรัพย์คุณได้แล้ว เนื่องจากเข้าใจว่าคุณผิดนัดแล้วแม้จะเป็นนัดเดียวก็ตามเขามีสิทธิตามคำพิพากษาตามยอมครับ แต่ถ้าโดนยึดแล้วขายทอดตลาด มันก็ยังมีเทคนิคอีกแต่ไม่ขอกล่าวอุ๋บไต่ไว้ก่อน อึดอัดใช่ไหมอยากรู้สิท่า จะบอกใบ้ให้ก็ได้ ...แบะ..แบะ..แบะ

2. ส่วนไอ้ที่ส่งไปแล้วนั้น จะเป็นเท่าไหร่ก็ตามธนาคารเขาก็ตัดเงินต้น - ดอกเบี้ยให้แล้วตามปกติตามคำสั่งศาลที่ชอบด้วยกฎหมายอีกต่ะหาก..เข้าใจ๋ (ตัดแล้วตัดเลยขอคืนก็ไม่ได้)

3. คุยธนาคารในแง่ไหนได้บ้าง  (3.1) ขอ ชำระหนี้ปิดบัญชีโดยขอให้ธนาคาร เวปดอกเบี้ยลงบางส่วน อันนี้ขอบอกลดได้เยอะด้วย แต่เขาจะดูหลักประกันคุณด้วยว่าประเมินได้เท่าไหร่ เกิดประเมิณได้ซัก 6-7 ล้าน อันนี้ขอบอกลดได้ยากมาก ก็มูลค่าหลักประกันมันเหลื่อมล้ำเขาก็เป็นต่อแล้ว สู้ยึดแล้วขายไม่ดีกว่าเหรอ(3.2) ขอผ่อนไหมแบบขั้นบันได เช่น 1-3 ปีแรกผ่อนเท่านี้ 4-6 ผ่อนเท่านี้ แล้วปี่ต่อๆไป ผ่อนเท่านี้....เป็นต้น (3.3) ตีโอนหลักประกันไปเลยกล่าวคือคุณไม่มีเงินแล้วขอตีทรัพย์แทนการชำระหนี้ไปเลย กรณีนี้ใช้ได้เฉพาะทรัพย์ที่เกรดดีหน่อยครับ แต่ระยะหลังธนาคารมักไม่ค่อยยอมรับวิธีนี้มากนักเพราะว่าไม่อยากเอามาเป็นภาระในการขาย สู้เอาเงินสดๆไม่ดีกว่าหรือ

สรุป (1)แนะนำให้ดูตัวเราก่อนว่ามีความจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องใช้ทรัพย์แปลงนี้เป็นที่อยู่อาศัยหรือเปล่า ถ้าไม่แล้ว ก็ให้ประกาศขายไปเลยแล้วเข้ามาเจรจาขอชำระหนี้ปิดบัญชี อันนี้ธนาคารเขาจะลดดอกเบี้ยให้เยอะ ไม่แน่เราขายแล้วอาจเหลือเงินใช้ก็ได้

(2) รีไฟแนนซ์ คือกู้ธนาคารอื่นแล้วนำเงินมาชำระเจ้าหนี้ซะ แต่ว่าเขาจะปล่อยสินเชื่อหรือเปล่าก็อีกเรื่อง แต่เมื่อก่อน ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารอาคารสงเคราะ เขารับรีไฟแนนซ์นะครับ

(3) ตีโอนหลักประกันไปเลยรายละเอียดพิมพ์ไปแล้ว

หมายเหตุ ถ้ามันจนตรอกจริงๆ เพราะว่าปัจจุบันติดบูโรแล้ว ก็ให้มันยึดไปเลย สู้เก็บเงินไว้กินดีกว่า แล้วขั้นตอนขายทอดที่ผมใบ้..แบะ..แบะ..แบะ ไว้นั้นเราก็ให้ญาติพี่น้องมาประมูลซื้อคืนก็ได้ (มันยังมีเทคนิคขั้นตอนนี้อีกเยอะ ถ้าจะให้พิมพ์เห็นทีข้าน้อยจะพิมพ์ไม่ไหว เอาเป็นว่าลองไปปฎิบัติเป็นแนวทางก่อนแล้วกัน)

เฮ้อ....เฮ้อ.....พิมพ์ซะเหนื่อยเลย.....

คือจริงๆ ผมกำลังอยู่ในขั้นตอนปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ครับ ตอนที่อยู่ระหว่างฟ้อง ผมได้ส่งงวดเป็นปกติเป็นเวลาปีกว่า ที่สงสัยเพราะเค้ามาคิดดอกผมอีกทั้งที่ผ่านมา ก้อส่งตลอดไม่ได้หนีไปไหน คือกำลังจะไปเจรจาขอลดดอกครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ