[ หน้าแรก ] | [ เกี่ยวกับปมุขกฎหมาย ] | [ บริการของปมุขกฎหมาย ] | [ กระดานปรึกษากฎหมาย ] | [รวม Link ที่น่าสนใจ ] |
หากต้องการให้ประเทศไทยเพิ่มบทลงโทษพวกคดีขมขื่น(ทั้งฆ่าและไม่ได้ฆ่า)ควรทำอย่างไร | |
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีกฏหมายค่อนข้างอ่อน หรือผู้พิพากษาเองตัดสินบทลงโทษค่อนข้างอ่อน และการดำเนินคดีมีความล่าช้ามาก นอกจากนี้ยังมีหลายคดีที่ผู้เสียหายไม่ได้รับความยุติธรรม อย่างเช่นคดีฆ่าขมขื่นเป็นต้น ไม่ว่าจะขมขื่นแล้วฆ่า / ฆ่าขมขื่น/ รุมโทรมถ่ายคลิป การขมขื่นในกรณีสายเลือดเดียวกัน เป็นต้น มีประชาชนจำนวนมากเมื่อเห็นข่าวประเภทนี้แล้วรู้สึกสะเทือนขวัญ และหวาดกลัวกับภัยสังคม และยิ่งเมื่อเห็นคำตัดสินซึ่งมันควรจะมีบทลงโทษที่แรงกว่านี้ แต่กลับไม่เห็นความยุติธรรมของศาลไทย ก็ยิ่งทำให้หลายคนมีความเห็นว่า ไทยควรเพิ่มบทลงโทษให้หนักกว่านี้ แต่จะทำเช่นนั้นได้ ต้องทำอย่างไร ต้องเสนอผ่านใคร และใครมีอำนาจในการทำเรื่องนี้ ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้และร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ | |
ผู้ตั้งกระทู้ จอย :: วันที่ลงประกาศ 2008-11-03 23:02:08 IP : 124.157.145.162 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2932095) | |
-การข่มขืน...ทั้งชายและหญิง (ปอ.ม.276) มีโทษจำคุก 4-20 ปี ถ้าเป็นการโทรมหญิงหรือชาย(ร่วมกัน 2คนขึ้นไป) มีโทษ 15-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต.... -การฆ่าผู้อื่น (ปอ.ม.288) มีโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุก 15-20 ปี เป็นต้น.... -ที่คุณบอกว่ากฎหมายไทยยังอ่อน หรือกำหนดโทษไว้ค่อนข้างน้อย จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ดูตัวอย่างอัตราโทษที่ผมยกมาให้เห็นก็คงพอจะยืนยันได้.... -ส่วนจำเลยต้องได้รับโทษมากน้อยเพียงใด ก็อยู่ที่กระบวนการพิจรณาในศาล การที่ศาลจะลงโทษจำเลยมากน้อยเพียงใด พยานหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง บางทีข่าวที่ออกมาทางสื่อ มีการเพิ่มสีเพิ่มแสง เพื่อการประโคมข่าว เพื่อหวังผลทางการค้า การโฆษณา ข้อเท็จจริงอาจคลาดเคลื่อนบิดเบือนไป ด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ผู้รับสื่อหรือประชาชนอาจสับสน......แต่กระบวนการพิจรณาในศาล ต้องชัดเจนหรือ มีเหตุมีผล สอดรับกัน จนปราศจากข้อสงสัยจึงจะสามารถลงโทษจำเลยได้.......ผู้กระทำความผิดอาจหลุดรอดไปได้ เพราะขาดพยานหลักฐาน ก็มีทางเป็นไปได้ และก็เป็นไปอยู่เสมอ ที่คนผิดลอยนวล กระบวนการยุติธรมจึงได้นำกระบวนทางวิทยาศาสตร์ เช่นนิติเวช หรือการติดกล้องวงจรปิด มาช่วยเหลือ แต่จะให้ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์คงเป็นไปไม่ได้ เพราะการก่ออาชญากรรมมักทำในที่ลับตาคนเป็นส่วนใหญ่ ถ้าพยานหลักฐานเอื้อมไม่ถึง เขาก็รอดตัวไป......คุณคงไม่ต้องคิดแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษให้สูงขึ้นหรอก.เพราะอัตราโทษปัจจุบันก็สูงมากพอแล้ว......ควรหาทางเสนอแนะว่า ทำอย่างไร จึงจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อลงโทษผู้กระทำความผิดให้ได้ทุกราย น่าจะดีกว่า..... -ขอยกตัวอย่าง พยานบุคคลที่ถูกอ้างตัวในการพิจารณาคดี พยานส่วนใหญ่มัก บอกว่าไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ ทั้งที่เป็นประจักษ์พยาน เพราะกลัวภัยมาถึงตัว......คุณก็คิดดูก็แล้วกัน ถ้าให้ปากคำเช่นนี้ ผู้กระทำผิดก็ลอยนวล.....แล้วจะมาโทษว่ากฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไรครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2008-11-04 14:02:33 IP : 125.26.108.239 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2932102) | |
-การข่มขืน...ทั้งชายและหญิง (ปอ.ม.276) มีโทษจำคุก 4-20 ปี ถ้าเป็นการโทรมหญิงหรือชาย(ร่วมกัน 2คนขึ้นไป) มีโทษ 15-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต.... -การฆ่าผู้อื่น (ปอ.ม.288) มีโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือ จำคุก 15-20 ปี เป็นต้น.... -ที่คุณบอกว่ากฎหมายไทยยังอ่อน หรือกำหนดโทษไว้ค่อนข้างน้อย จึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ดูตัวอย่างอัตราโทษที่ผมยกมาให้เห็นก็คงพอจะยืนยันได้.... -ส่วนจำเลยต้องได้รับโทษมากน้อยเพียงใด ก็อยู่ที่กระบวนการพิจรณาในศาล การที่ศาลจะลงโทษจำเลยมากน้อยเพียงใด พยานหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง บางทีข่าวที่ออกมาทางสื่อ มีการเพิ่มสีเพิ่มแสง เพื่อการประโคมข่าว เพื่อหวังผลทางการค้า การโฆษณา ข้อเท็จจริงอาจคลาดเคลื่อนบิดเบือนไป ด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ผู้รับสื่อหรือประชาชนอาจสับสน......แต่กระบวนการพิจรณาในศาล ต้องชัดเจนหรือ มีเหตุมีผล สอดรับกัน จนปราศจากข้อสงสัยจึงจะสามารถลงโทษจำเลยได้.......ผู้กระทำความผิดอาจหลุดรอดไปได้ เพราะขาดพยานหลักฐาน ก็มีทางเป็นไปได้ และก็เป็นไปอยู่เสมอ ที่คนผิดลอยนวล กระบวนการยุติธรมจึงได้นำกระบวนทางวิทยาศาสตร์ เช่นนิติเวช หรือการติดกล้องวงจรปิด มาช่วยเหลือ แต่จะให้ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์คงเป็นไปไม่ได้ เพราะการก่ออาชญากรรมมักทำในที่ลับตาคนเป็นส่วนใหญ่ ถ้าพยานหลักฐานเอื้อมไม่ถึง เขาก็รอดตัวไป......คุณคงไม่ต้องคิดแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษให้สูงขึ้นหรอก.เพราะอัตราโทษปัจจุบันก็สูงมากพอแล้ว......ควรหาทางเสนอแนะว่า ทำอย่างไร จึงจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อลงโทษผู้กระทำความผิดให้ได้ทุกราย น่าจะดีกว่า..... -ขอยกตัวอย่าง พยานบุคคลที่ถูกอ้างตัวในการพิจารณาคดี พยานส่วนใหญ่มัก บอกว่าไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ ทั้งที่เป็นประจักษ์พยาน เพราะกลัวภัยมาถึงตัว......คุณก็คิดดูก็แล้วกัน ถ้าให้ปากคำเช่นนี้ ผู้กระทำผิดก็ลอยนวล.....แล้วจะมาโทษว่ากฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไรครับ -เรื่องความล่าช้า ในการพิจารณาคดี ถ้ามองดูเผินๆก็ล่าช้าจริง แต่ถ้าเข้าใจกระบวนการยุติธรรม ก็คงพอเข้าใจได้ว่า การพิจารณาแต่ละคดี คงไม่สามารถรวดเร็วทันใจ เพราะ คดีความต้องเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่ายหลายหน่วยงาน....เริ่มจากตำรวจ รวบรวมพยานหลักฐาน สั่งฟ้องไปยังอัยการ อัยการพิจารณาเพื่อส่งฟ้องศาล เพียงแค่สองหน่วยงานนี้ คงใช้เวลาไม่น้อย เมื่อคดีขึ้นสู๋ศาล กระบวนการพิจารณาในศาล กว่าจะสืบปากคำพยานผ่านไปแต่ละปาก บางทีต้องใช้เวลาครึ่งค่อนวัน บางทีตำรวจ อัยการ ทนาย พยาน ผู้พิพากษา มีภารกิจในช่วงนั้น จำเป็นต้องเลื่อนการพิจารณาไปอีก ประกอบกับคดีความที่ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลมีค่อนข้างมาก.....คดีแต่ละคดีจึงอาจไม่ทันใจทันกับความรู้สึกของเราอย่างแน่นอนครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2008-11-04 14:14:47 IP : 125.26.108.239 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2933427) | |
น่าจะประหารชีวิตสถานเดียวไปเลยนะคะ ไม่ได้โหดนะคะ แต่บทลงโทษไม่ได้ทำให้ผู้ต้องหาสำนึกผิดเลย ออกมาจากคุกก็ก่อคดีซ้ำอีก ถ้ามีบทลงโทษที่รุนแรงก็อาจทำให้ไม่มีใครกล้ากระทำผิด เพราะทุกคนย่อมรักชีวิตตัวเองอยู่แล้ว ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำตอบนะคะคุณผู้เฒ่า | |
ผู้แสดงความคิดเห็น จอย วันที่ตอบ 2008-11-07 23:43:00 IP : 124.157.145.52 |
ความคิดเห็นที่ 4 (2942549) | |
ออกกฎหมายและบังคับใช้ให้เด็ดขาด ถ้าทำผิดจริงให้ริบของกลาง ห้ามอุทธรณ์ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ธนา วันที่ตอบ 2008-11-26 15:57:59 IP : 58.9.230.23 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 1087710 |