ReadyPlanet.com


คดียักยอก


เรียนปรึกษาท่านผู้รู้ค่ะ

ดิฉันได้มอบสินค้าให้ นาย ก นำไปเสนอลูกค้าของเขา โดยเราเป็นคนกำหนดราคา มีการต่อราคามา แต่เราไม่ตกลงต้องการของคืน ปรากฎว่าทางนาย ก บอกว่าได้ขายไปแล้วบ้าง เดี๋ยวไปเอาคืนมาให้ พอผ่านไปอีกวันสองวันก็บอกว่านำกลับมาให้แล้ว แต่ผิดรายการ จนไปตามถึงบ้าน ก็บอกจะชำระให้หมด แต่ขอแบ่งจ่ายจะนำเงินมาให้ตามวันเวลาที่กำหนด สุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อได้ ดิฉันจึงต้องไปร้องทุกข์กับเจ้าพนักงาน คดีนี้เป็นยักยอกซึ่งมีดิฉันและอัยการเป็นโจทย์ พอถึงศาลชั้นต้น ท่านมองเป็นแพ่ง ซึ่งดิฉันได้อุทรณ์ไปเมื่อเดือนมิถุนายนแล้ว

อยากทราบว่า จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนคะที่ศาลอุทรณ์จะมองต่างมุมจากศาลชั้นต้น ทำไมศาลชั้นต้นถึงสรุปคดีความง่ายๆจัง  ทำไมท่านไม่ได้ดูถึงการกระทำหรือเจตนาของจำเลยคะ ดิฉันควรจะยื่นแพ่งเลยได้ไม๊ กลัวเรื่องอายุความ

ขอความกรุณาท่านผู้รู้ช่วยตอบคำถามให้ด้วยค่ะ จะเป็นพระคุณอย่างสูง



ผู้ตั้งกระทู้ พลอย :: วันที่ลงประกาศ 2008-08-29 10:41:43 IP : 124.120.131.48


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2900193)
-ตามที่เล่ามา ก็เป็นลักษณะเป็นหุ้นส่วนทำการค้ากัน   เมื่อมีการทำผิดเงื่อนไขหรือผิดสัญญาที่ตกลงกัน   น่าจะเป็นเรื่องทางแพ่ง  คุณจึงต้องไปฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งภายในอายุความ 1  ปี...แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผม..บางทีศาลอุทธรณ์อาจมองว่าเป็นเรื่องยักยอกทรัพย์หรือลักทรัพย์ก็เป็นได้...เรื่องมุมมองหรือดุลยพินิจเป็นเรื่องที่มีโอกาสเห็นแตกต่างกันได้เสมอ..เขาจึงกำหนดให้มี 3 ศาลเพื่อป้องกันความผิดพลาด   แม้คำพิพากษาศาลฎีกายังมีคำพิพากภายหลังกลับหรือแย้งคำพิพากษาก่อน อยู่เสมอ...เรื่องดุลยพินิจยากที่ใครจะหยั่งรู้ได้ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2008-08-29 19:04:09 IP : 125.26.111.178



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.