กระทำชำเรา/พรากผู้เยาว์

   ถ้าน้องอายุไม่เกิน 15 ปี ก็แจ้งความดำเนินคดี ฐานกระทำชำเรา ตาม ปอ. ม.277ซึ่งมีโทษจำคุก 4-20 ปี ปรับ  80,000 -  400,000  บาท..ถ้าฝ่ายชายอายุไม่เกิน 18 ปี และหญิงอายุ 13-15 ปี  ถ้าฝ่ายหญิงยินยอม  ศาลอาจให้สมรสกัน และกำหนดความผิดตามสมควร ก็ได้.....ถ้าน้องอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ก็แจ้งความฐานพรากผู้เยาว์ ตาม ปอ. ม.319 จะมีโทษจำคุก  2-10 ปี ปรับ  40,000 - 200,000  บาท เมื่อถูกแจ้งความดำเนินคดี  ฝ่ายชาย ก็คงกุลีกุจอขอเคลียร์เรื่องนี้  เพราะมีโทษถึงจำคุก  ในการเจรจาก็สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ ตามความเหมาะสม  ส่วนเรื่องคดีความ ก็ปล่อยให้ตำรวจดำเนินต่อไป....แต่ การเป็นฝ่ายหญิง  เมื่อเกิดเหตุแบบนี้  แม้จะมีช่องทาง ของกฎหมาย ที่จะเล่นงานฝ่ายชายได้  แต่ฝ่ายหญิง  ก็ย่อมเสียเปรียบวันยังค่ำ   เพราะสังคมก็คงติฉินนินทากันสนั่นเมือง  ต้องอับอายขายหน้าผู้คน...ดังนั้นก่อนแจ้งความดำเนินคดี  ควรหาคนกลางที่น่าเชื่อถือไปติดต่อญาติฝ่ายชาย ให้รับผิดชอบ  โดยชดใช้ค่าเสียหายตามควร   ควรกล้ากำหนดเป็นตัวเงินว่า จะให้ชดใช้เท่าไร  ก็เจรจาต่อกันไปตามเห็นสมควร อย่าไปเสียเหลี่ยมฝ่ายชาย  โดยไปทำความยินยอมว่า ฝ่ายชายจะจัดงานสมรส หรือแต่งงานให้ในภายหลัง ซึ่งสุดท้ายฝ่ายชายมักผิดสัญญา    ควรกำหนดค่าเสียหายเป็นเงิน และจ่ายกัน ในเร็ววันหรือในวันเจรจา ถ้าผลัดผ่อนไป ก็แจ้งความดำเนินคดีได้....อีกช่องทางหนึ่ง   ก็ไม่ต้องไปดำเนินการใดๆทั้งสิ้น ในเมื่อ น้องทำผิดพลาดไปแล้ว  ก็ไม่ต้องลงโทษอะไรมากมาย  เพราะคงไม่สามารถย้อนเวลากลับไปเหมือนเดิมได้  เมื่อน้องคลอดเด็กออกมา ก็ช่วยกันฟูมฟักเลี้ยงดู  ซึ่งฝ่ายหญิง มีอำนาจปกครองบุตร และเลี้ยงดูบุตรเพียงผู้เดียวเท่านั้น  เมื่อผ่านห้วงเวลานี้ไปได้ ก็ควรให้น้องหาโอกาสไปศึกษาาเล่าเรียนต่อจนจบ  ใช้เหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นบทเรียนราคาแพง ในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ไม่ให้ผิดพลาดซ้ำอีก  หลายๆราย ที่ใช้ช่องทางนี้  สามารถเรียนจบ มีงานทำที่เป็นหลักแหล่ง   ทิ้งอดีตที่เลวร้ายไว้เบื้องหลัง  สามารถมีครอบครัวที่ดี พบชายที่จริงใจไม่รังเกียจ อดีตที่ผ่านมา   ก็ต้องมาพิจาณาดูเองว่า จะเลือกแบบไหน ดีที่สุด  ด้วยความปรารถนาดี ครับ