เรียน คุณ ผู้เฒ่า  ที่เคารพ

ผมได้ให้เพื่อน(ลูกหนี้) ยืมเงิน โดยผมโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของเพื่อน มีหลักฐานการโอน ยอดรวม 1 ล้าน ยืมเดือน กันยายน 51      ลูกหนี้นัดคืนเงินให้ผม15 ตุลาคม 51 โดยไม่มีดอกเบี้ย

พอถึงกำหนดนัดคืนเงินลูกหนี้มีเหตุขัดข้องจึงขอเลื่อนเวลาคืน 1 เดือน โดยลูกหนี้ได้เซ็นต์สัญญาเงินกู้ให้(สัญญาที่ขายตามร้านเครื่องเขียน)  โดยลงชื่อช่องผู้กู้เพียงจุดเดียว ลงชื่อที่ร้านอาหารถนนลาดพร้าว ระหว่างที่เราสองคนดื่มและทานอาหารด้วยกัน  (เซ็นต์สัญญากู้ 16 พ.ย. 51)

ต่อมาวันที่ 20 พ.ย.51 ลูกหนี้เขียนเช็คมาชำระหนี้ 1 ฉบับ ยอดเงิน 1 ล้าน เช็คธนาคารกรุงเทพลงวันที่16 ธ.ค. 51   โดยลูกหนี้บอกว่าจะให้ดอกเบี้ยเป็นเงินสด 12500(ร้อยละ 1.25 ต่อเดือน) นำเช็คมามอบให้ที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว

พอถึงวันที่ 16 ธ.ค.51 ผมนำเช็คไปเรียกเก็บ  ธนาคารปฏิเสธบัญชีปิดแล้ว   โทรหาลูกหนี้ก็ไม่รับสาย ผมจึงไปแจ้งความ

ขอเรียนถามดังนี้

1 ผมได้กรอกสัญญาเงินกู้เอง  โดยเขียนบ้านเลขที่ ที่ผมอยู่ปัจจุบัน(บางกะปิ)    เขียนยอดเงิน 1 ล้าน ดอกเบี้ย 15 ต่อปี ติดอากรแสตมป์ และขีดฆ่าคำว่าประกันหนี้ โดยผมเซ็นต์กำกับ  ผมลงชื่อช่องผู้ให้กู้ โดยไม่มีพยาน   ขอถามว่าสัญญาถูกต้องและใช้บังคับตามกฏหมายได้หรือไม่ ขอคำแนะนำและคำอธิบายด้วย

ลูกหนี้ผมไปให้การกับตำรวจว่า สัญญาเป็นโมฆะเพราะเซ็นต์ที่ร้านอาหาร แต่ผมเขียนสัญญาเงินกู้ที่บ้านภายหลัง  ผมจึงใช้บ้านเลขที่ผมเป็นสถานที่ทำสัญญา   เพราะผมไม่รู้ว่าร้านอาหารบ้านเลขที่เท่าไร

ลูกหนี้บอกกับตำรวจว่าตอนเซ็นต์ เมามากไม่รู้สติ แต่ผมว่าเขาไม่เมา  ข้อโต้แย้งว่าขาดสติใช้ได้หรือไม่ ขอคำอธิบาย และคำแนะนำด้วย

ลูกหนี้รู้จักกับตำรวจที่ผมแจ้งความ ผมกลัวว่าตำรวจจะสั่งไม่ฟ้อง ผมต้องทำอย่างไร

2.ตอนที่ลูกหนี้นำเช็คมาให้ เป็นเวลา 22.00น ที่ห้างเซ็นทรัล ลูกหนี้บอกกับตำรวจว่ายามวิกาล มองไม่ค่อยเห็น  ขอถามว่ายามวิกาลเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่

ขอขอบคุณ