ผมเป็นหนี้ตามคำพิพากษากรณีกู้ยืมเงินโดยมีหลักทรัพย์บ้านพร้อมที่ดินของแม่เป็นประกัน(แม่เป็นผู้กู้ร่วม)หลังคำพิพากษาผมม่สามารถชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งได้เกือบสองล้านบาท เจ้าหนี้จึงนำหลักทรัพย์ขายทอดตลาด(เจ้าหนี้ซื้อไว้เอง) ต่อมาตามยึดทาวน์เฮ้าส์ซึ่งผมกำลังผ่อนอีกและให้ผมทำบันทึกข้อตกลงประนอมหนี้ให้ผมผ่อนหนี้ต่อไปอีกหากครบตามที่ต้องการจะไม่ต้องใช้หนี้อีกและจะถอนอายัดทาวน์เฮ้าส์ผมผ่อนไม่ไหวตามบันทึกข้อตกลงปรับปรุงหนี้เพราะตกงานได้ขายรถยนต์สภาพเก่าที่ใช้อยู่ให้เต้นท์รถเกือบสองแสนบาท เจ้าหนี้สืบทราบแจ้งความผมข้อหาโกงเจ้าหนี้ ผมให้การต่อตำรวจผมขายจริงแต่นำเงินไปชำระค่างวดบ้านค้างอยู่หลายหมื่น(เป็นทาวน์เฮ้าส์ที่เจ้าหนี้ยึดไว้) ส่วนเงินที่เหลือเก็บไว้ใช้ขณะตกงาน และช่วยค่ารักษาพยาบาลพ่อที่ล้มป่วยผมขายรถเก่าตั้งแต่ปี2544 มีการโอนรถปี 2547 เจ้าหนี้เข้าแจ้งความ ส.ค.2551 ให้การตำรวจ ต.ค.2551(เจ้าหนี้รายนี้ยังฟ้องผมและแม่อายุ81ปีให้เป็นบุคคลล้มละลายด้วยขอถามท่านผู้รู้ครับ

1.ตำรวจจะส่งคำฟ้องให้อัยการหรือไม่(จากเหตุผลของผม ซึ่งมิได้มีเจตนาโกงเจ้าหนี้ หรือทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบแต่อย่างใด)

2.อัยการจะพิจารณาส่งฟ้องผมหรือไม่ครับจากข้อเท็จจริงที่ผมให้การไว้

3.หากส่งฟ้องผมจะต้องคำพิพากษาเป็นอย่างใด(ขอความเห็นหน่อยครับ)