ReadyPlanet.com


ถามอีกนิด


ถามกฎหมายต่อ

กรณีที่

1. นาย ม กับนาง ค อยุ่กินกันมาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส และมีบุตรด้วยกัน 3 คน (ถือว่าเป็นบุตรโดยธรรมได้หรือไม่)

2. ต่อมานาง ค เสียชีวิตลง ทรัพย์สินที่มีก่อนนาง ค ตายต้องทำอย่างไร

3. หากทรัพย์สินนั้นยังไม่ได้จัดการ ต่อมา นาย ม ได้แต่งงานใหม่และจดทะเบียนสมรส กับนาง พ (2508)และได้มีบุตรกับภรรยาใหม่นี้ ด้วยกันอีก 3คน (ถามว่าทรัพย์สินใน ข้อ 2 นี้เป็นสินสมรสหรือไม่)

4. ลูกของภรรยาเก่าที่ตาย ทั้ง 3 คนนั้นมีสิทธิ์ในทรัพย์นี้หรือไม่

5. ต่อมาที่ดินแปลงที่ปลูกบ้านอยู่ร่วมกันมา ได้แบ่งออกเป็นสองแปลง คือแปลงที่ 1 และแปลงที่ 2 และแปลงที่ 1 เป็นเลขที่บ้านเก่า ปลูกสร้างอยู่แล้ว ส่วนแปลงที่ 2 นั้น ลูกคนที่ 3ของภรรยาเก่าที่ตาย ได้ไปปลูกบ้านแล่ะแต่งงาน ขอ จดเลขทะเบียนบ้านไว้แล้วในปี 2534 และอยู่ที่นั้นเรื่อยมา จนกระทั่งปี 2540  ที่แปลงที่ 2 นี้ นาย ม ได้จดเป็นเอกสารสิทธิ์ เป็นโฉนดโดยมีชื่อเป็นของนาย ม

หลังจากนั้นไม่นาน นาย ม ได้ทำสัญญายกที่ดินแปลงที่ 2 ให้กับบุตรคนที่ 3 (ในข้อ 5)ลูกภรรยาเก่าที่ตายเป็นสัญญาให้ที่ดิน(ท.ด. 14)โดยในสัญญานั้นได้ระบุว่าเป็นการให้โดยเสน่หาไม่มีค่าตอบแทนระหว่างบิดากับบุตร พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่บุตรคนที่3ของภรรยาเก่าปลูกไว้พร้อมเลขทะเบียนบ้านที่บุตรกับสามีได้จดไว้ (ให้ในปี 2540 หลังจากจดเป็นเอกสารสิทธิ์ ประมาณ 6 เดือน)

ถามว่า บุตรคนที่ 3 ของภรรยาเก่าที่ตายนั้นมีสิทธิ์และเป็นกรรมสิทธิ์ของบุตรคนที่3นี้หรือไม่

6. หลังจากนั้น นาย ม ได้เสียชีวิตลงในปี 2543 ถือว่าที่ดินแปลงที่ 2 ซึ่งบุตรคนที่ 3 ของภรรยาเก่าที่ตายครอบครองอยู่นั้น(ถามว่า ต้องตกเป็นมรดกหรือไม่)

7 ต่อมาปี 2551บุตรของภรรยาใหม่ที่จดทะเบียนสมรสได้ใช้สิทธิ์ของทายาทตามกฎหมายพ้องศาลเพื่อเอาที่ดินแปลงที่ 2 นี้คืนจากบุตรคนที่ 3 ของภรรยาเก่าที่ตาย (ถามว่าการใช้สิทธิ์ของลูกของภรรยาใหม่นี้ชอบด้วยกฎหมายได้หรือไม่)

8. สรุปแล้ว บุตรคนที่3 ของภรรยาเก่าที่ตายนั้นจะยังคงมีสิทธิ์ในที่ดินแปลงที่ 2 นี้ต่อไปหรือไม่ ไขปัญหาข้อข้องใจหน่อยจ๊ะ

9. หากมีการพ้องร้องที่ศาลจริงแล้ว ระหว่าง บุตรที่จดทะเบียนสมรส ที่เป็นโจทย์กับบุตรที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสที่ครอบครองที่ที่พิพาทนี้อยู่หรือจำเลย แนวทางการตัดสินของศาล น่าจะออกมาในรูปการใด จ๊ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ถามอีกนิด

1. ตามข้อ 6 หากจะยกเรื่องอายุความมาสู้คดีจะได้หรือไม่

2. จากกรณีข้างบนนี้ ถือว่ามีการยักยอกทรัพย์หรือไม่หากมีการโอนขายออกไป 

 



ผู้ตั้งกระทู้ ประชาชน :: วันที่ลงประกาศ 2008-08-12 20:55:00 IP : 118.174.58.52


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2891989)

-1.เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของภรรยาฝ่ายเดียวครับ

2.ย่อมตกทอดแก่บุตรทั้งสาม  ที่เป็นทายาทโดยธรรม

3. ไม่เป็นสินสมรส .....  แต่วันเวลาผ่านไปเกือบ  50  ปี  สามีคงทำเอกสารสิทธิ์ต่างๆจนดูเสมือนเป็นสินสมรสของเขากับภรรยาใหม่แล้ว

4. มีสิทธิ์   แต่ต้องได้ทนายมือดีช่วยเหลือเพราะวันเวลาผ่านล่วงเลยมานาน....ทำไมเพิ่งมาถามเอาตอนนี้ครับ  

5.เมื่อเปลี่ยนเอกสารสิทธิ์การให้บุตรคนที่ 3   ต้องจดทะเบียนโอนการให้จึงจะสมบูรณ์  แต่เมื่อบุตรคนที่ 3  อาศัยอยู่ในที่แปลงนี้   แม้การให้ไม่สมบูรณ์   บุตรคนที่ 3   ก็สามารถยกเรื่องการครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้  โดยร้องศาลให้เปลี่ยนชื่อในโฉนดที่ดินจากของ  ม.  มาเป็นของบุตรคนที่ 3  ได้

6.เมื่อในเอกสารสิทธิ์เป็นชื่อของ  ม.   เมื่อเขาตาย  ที่ดินย่อมกลายเป็นมรดก   แต่ผู้ครอบครองอยู่สามารถยกเรื่องการครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้ได้ดังข้อ 5

7. ในฐานะทายาทเขาย่อมมีสิทธิเรียกร้องที่ดินแปลงที่ 2นี้ได้ เพราะ ม.  ยังมีชื่อในเอกสารสิทธิ์    บุตรภรรยาเก่า(คนที่3) ก็ต่อสู้เรื่องการครอบครองปรปักษ์ดังกล่าวข้างต้นได้...

8. มีสิทธิ์.....   แต่ต้องใช้สิทธิ์ทางศาลร้องขอเปลี่ยนชื่อในเอกสารสิทธิ์มาเป็นชื่อของตน ในฐานะผู้ครอบครองปรปักษ์ (เพราะครอบครองในฐานะเจ้าของ   โดยสงบ   โดยเปิดเผย   มาเกินกว่า  10 ปี...ให้ทนายช่วยดำเนินการครับ....)

9.ถ้าคุณ(คนที่ 3) ครอบครองถึง  10 ปี น่าจะเป็นฝ่ายชนะครับ....ดูตามเล่าน่าจะถึง 10 ปีแล้ว   เพราะออกโฉนดเมื่อ  2540

++++++++

1. ได้

2. คงไม่เป็นการยักยอกทรัพย์  คือผู้ครอบครองมีสิทธิ์ในที่ดินอยู่แล้ว   แต่สิทธิยังไม่สมบูรณ์   ต้องร้องศาลให้เปลี่ยนชื่อในเอกสารสิทธิ์อีกทีในฐานะผู้ครอบครองปรปักษ์

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2008-08-14 18:42:48 IP : 125.26.107.181



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.