ReadyPlanet.com


ผู้ค้ำประกัน


เนื่องจากดิฉันมีอาชีพรับราชการและได้ไปค้ำประกันการเช่าซื้อรถยนต์ให้กับคนข้างบ้าน  เมื่อประมาณเดือน ก.ค. 51 ผู้เช่าซื้อส่งค่างวดไม่ไหว จึงได้ส่งมอบรถคืนให้บริษัท ประมาณเดือน พ.ย. 51 บริษัทฯ แจ้งว่าจะดำเนินการขายทอดตลาดรถยนต์ดังกล่าว หากขาดทุนผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันต้องรับผิดชอบ 

           ประมาณวันที่ 27 ธ.ค. 51 ดิฉันติดต่อไปยังฝ่ายกฎหมายของบริษัท  ได้รับแจ้งว่าได้ดำเนินการขายทอดตลาดรถยนต์คันดังกล่าวแล้ว ปรากฎว่าขายทอดตลาดขาดทุน จำนวน 104,000 บาท ซึ่งทางบริษัทฯ จะมีหนังสือแจ้งผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันทราบภายหลัง

           วันที่  7  ม.ค. 52  บริษัทฯ ได้มีหนังสือแจ้งผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำฯ ว่าให้นำเงินไปชำระส่วนที่ขายขาดทุน จำนวน 198,000 บาท  รวมทั้งค่าเสียประโยชน์จากการได้รับค่างวด 3 งวด เป็นเงินประมาณ 27,000 บาท  รวมทั้งสิ้น ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำฯ ต้องนำเงินไปชำระประมาณ  225,000  บาท  โดยให้ชำระเงินภายใน 15  วัน

            เมื่อได้รับหนังสือแจ้งจากบริษัทฯ  ดิฉันได้ติดต่อไปยังฝ่ายกฎหมายของบริษัทฯ  เพื่อสอบถามว่าต้องดำเนินการต่อไปเช่นไร  ได้รับคำตอบว่าให้ผู้เช่าซื้อเป็นผู้ติดต่อว่าจะชำระหนี้โดยวิธีใด (จะชำระเป็นงวดหรือจะชำระเป็นเงินก้อน)  แล้วหากบริษัทไม่มียอดเงินการชำระหนี้เข้าบัญชี  บริษัทจะดำเนินคดีกับผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำ  ......... ดิฉันได้แจ้งให้ผู้เช่าซื้อทราบปรากฎว่า ผู้เช่าซื้อก็ติดต่อไปยังบริษัท ว่าไม่สามารถชำระหนี้ให้ได้ คงต้องปล่อยให้บริษัทดำเนินคดี (ดูแล้วผู้เช่าซื้อจะไม่ยอมรับภาระหนี้สินดังกล่าวแต่อย่างใด)..... และดิฉันทราบดีว่าในฐานะผู้ค้ำประกันก็ต้องเป็นรองผู้เช่าซื้ออยู่แล้ว เพราะหากไม่สามารถเก็บเงินจากผู้เช่าซื้อได้ ก็ต้องมาเก็บจากผู้ค้ำประกัน

     ดิฉันจึงมีข้อข้องใจดังนี้  ค่ะ

     1.   การเจรจาที่บอกว่าก่อนที่จะมีหมายศาล ใช่การเจรจาที่ผู้เช่าซื้อไปเจรจากับบริษัทฯ  ใช่หรือไม่  และตามที่ดิฉันกล่าวมาผู้เช่าซื้อได้เจรจากับบริษัทว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้  ดังนั้น  ต่อไปก็คือบริษัทจะดำเนินคดีแพ่ง ใช่หรือไม่

     2.  เมื่อบริษัทดำเนินคดีทางแพ่งแล้ว  สิ่งที่ได้รับตามมา คือ หมายศาลแจ้งให้ไปชี้แจงต่อศาล ใช่หรือไม่

     3.  โอกาสที่ศาลจะพิจารณาลดหนี้   ให้มีมูลหนี้น้อยกว่านี้เป็นไปได้หรือไม่  เพราะจากเดิมที่เจ้าหน้าที่แจ้งทางโทรศัพท์  มูลค่าการขายขาดทุน เพียง 104,000 บาท  แต่เมื่อแจ้งเป็นหนังสือ ทำไมมีมูลค่าถึง 198,000 บาท   ช่วยวิเคราะห์ด้วยค่ะ

     4.  และเมื่อศาลนัดหากผู้เช่าซื้อไม่ไป  แต่ดิฉันไปผู้เดียว เพื่อแถลงต่อศาล  และหากศาลพิจารณาแล้ว  การเจรจาประนอมหนี้ จะมีอีกหรือไม่

     5.  สุดท้าย เมื่อต้องชำระหนี้จริง ๆ  การชำระหนี้จะแบ่งเป็น ผู้เช่าซื้อส่วนหนึ่ง  ผู้ค้ำประกัน ส่วนหนึ่ง  หรือ จะต้องชำระหนี้เป็นยอดเดียว  หากผู้เช่าซื้อไม่ชำระ  ก็จะไล่เบี้ยที่ผู้ค้ำประกัน ใช่หรือไม่

     6.  ช่วยพิจารณาด้วยว่า  มูลหนี้ประมาณ225,000 บาท  เมื่อบวกค่าทนายของบริษัท  และค่าอื่น ๆ  ของบริษัท (หลังจากที่เจรจาประนอมหนี้แล้ว)  ดิฉันและผู้เช่าซื้อจะรับสภาพหนี้ที่มูลค่าเท่าไรค่ะ  จะได้ทำใจไว้รอ 



ผู้ตั้งกระทู้ ผู้ตกที่นั่งลำบาก :: วันที่ลงประกาศ 2009-01-29 08:52:37 IP : 203.151.46.130


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2965910)

1.ใช่

2.  ถ้าบริษัทฟ้องทางแพ่ง     จะมีคำฟ้องส่งให้ถึงบ้าน    เพื่อให้คุณยื่นคำให้การภายใน  15  วัน     และอาจมีกำหนดนัดให้ไปไกล่เกลี่ยกันก่อนดำเนินพิจารณาคดีในศาล....

3.  ต้องให้ทนายยื่นคำให้การ  แสดงเหตุผลที่มาที่ไปของจำนวนหนี้ให้ชัดเจนว่าจริงๆแล้ว   คุณเป็นหนี้เท่าใด     ถ้าไม่ยื่นคำให้การตามกำหนด    บริษัทคงขอให้พิจารณาคดีไปฝ่ายเดียว  ศาลมักให้ชำระหนี้ตามที่เขาเรียกร้อง    ดังนั้นการยื่นคำให้การตามนัดจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญ   ที่จะเพิกเฉยไม่ได้

4.  ถ้าไม่ยื่นคำให้การตามกำหนด   แต่ไปศาลเพียงผู้เดียว  คงนำพยานหลักฐานอื่นนำสืบหักล้างไม่ได้  คุณคงเป็นพยานได้เพียงคนเดียว   โอการแพ้คดีหรือต้องชำระหนี้ตามที่เขาเรียกร้องเป็นไปได้สูง     แม้คิดจะไปไกล่เกลี่ยหรือเจรจาประนีประนอม   ไม่ทำให้ไม่ต้องยื่นคำให้การแต่อย่างใด   คือต้องยื่นคำให้การตามกำหนดเสมอ    และควรคิดแนวทางการเจรจาหรือเงื่อนไขในการเจรจาไว้ให้พร้อม  เพื่อความสะดวกในการเจรจากัน....

5.เจ้าหนี้คงฟ้องทั้งผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกัน  แต่คุณเป็นข้าราชการ   เจ้าหนี้คงมุ่งเรียกร้องหนี้จากคุณเป็นอันดับแรก   เพราะไม่มีทางหลบลี้หนีไปไหน   เมื่อคุณชำระหนี้ก็ไล่เบี้ยกับผู้เช่าซื้อได้     แต่ถ้าเขาไม่มีหลักทรัพย์อะไร  คุณก็คงต้องรับภาระแต่เพียงผู้เดียว

6. คงประมาณ  300,000  บาท   แต่ถ้ามีทนายเก่งๆช่วยโต้แย้งเรื่องที่มาที่ไปของจำนวนหนี้   จำนวนเงินอาจลดลง  ประมาณ  50%.....จุดโต้แย้งสำคัญอยู่ที่การยื่นคำให้การ  ประกอบพยานหลักฐานอ้างอิง....

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-01-29 15:01:40 IP : 125.26.107.4



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.