ReadyPlanet.com


สอบถามการครอบครองที่ดิน


เรียน บริษัท ปมุขกฎหมาย จำกัด

ขอสอบถามด้านกฎหมายเกี่ยวกับที่ดิน

 

มารดามีที่ดินอยู่ 1 แปลง จำนวน 12 ไร่ ต้องการโอนมรดกเป็นของข้าพเจ้า แต่เนื่องจากที่ดินส่วนหนึ่งจำนวน 1 ไร่ มีบุคคลอื่นมาครอบครองโดยปลูก พืชสวนผลไม้ มาเป็นเวลา 10 กว่าปี แต่การครอบครองของบุคคลดังกล่าว ไม่สุจริต 

      คือ  พี่ชายของมารดา ได้ตกลงทำสัญญาซื้อขายกับบุคคลดังกล่าว โดยที่มารดาไม่ทราบ และโฉนดก็ยังเป็นของมารดาอยู่ เมื่อพี่ชายของมารดาได้รับเงิน แล้วก็หนีไป  ต่อมาบุคคลดังกล่าวได้มาเปลี่ยนแปลงที่ดิน โดยการขุดล่องน้ำ ปลูกสวนผลไม้ มารดาของข้าพเจ้า ก็ได้มีการขัดขวาง แต่ก็มีปัญหากระทบกระทั่ง เนื่องจากบุคคลดังกล่าวไม่ยอม จึงทำให้มารดาต้องปล่อยเฉยมาเป็นเวลา 10 กว่าปีจนถึงปัจจุบัน เมื่อต้นปี 2552 บุคคลดังกล่าวได้มาขอให้มารดาของข้าพเจ้าโอนที่ดินให้  หรือไม่ก็ซื้อคืนในราคา 80,000 บาท โดยมีการพูดจาทำนองข่มขู่ว่า มีลูกชายเป็นตำรวจ

 

     กระผมขอเรียนสอบถามว่า

1. การครอบครองที่ดินของบุคคลดังกล่าว เป็นการครอบครองโดยปรปักษ์หรือไม่

2. ผู้ครอบครองดังกล่าว มีสิทธิ์เรียกร้อง หรือฟ้องร้องใด ๆ ได้บ้าง

3. เมื่อมารดาของข้าพเจ้าโอนที่ดินแปลงนี้ให้ ข้าพเจ้าต้องการทำกินในที่แปลงนี้ ข้าพเจ้าจะมีสิทธิในการเรียกคืนอย่างไรบ้าง ต้องมีบุคคลใด เป็นคนกลาง ณ ที่ใด โดยที่ไม่เกิดการกระทบกระทั่ง

3. ในการเจรจา หากเรายินยอมจ่ายค่า ต้นผลไม้ในราคา 10,000 – 20,000 บาทได้หรือไม่

4.  หากบุคคลดังกล่าวไม่ยินยอม มีการฟ้องร้องขึ้นศาล ข้าพเจ้าสามารถฟ้องกลับใด ๆ ได้บ้าง เช่น ฟ้องขับไล่ ,ให้ทำที่ดินกลับเป็นเหมือนเดิม และเรียกร้องค่าทดแทนในกรณีที่ผ่านมา น่าจะมีรายได้จากที่ดินตรงนี้บ้าง ได้หรือไม่

 

ขอขอบพระคุณอย่างสูงครับ



ผู้ตั้งกระทู้ ศักดิ์ดา (a_noom-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2009-01-06 16:14:21 IP : 125.26.38.205


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2957077)

1.เป็นการครอบครองปรปักษ์   เพราะครอบครองโดยเจตนาเป็นเจ้าของ

2.  ผู้ครอบครองปรปักษ์สามารถร้องศาล  ให้เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในส่วนที่ครอบครองได้

3.  ควรใช้วิธีเจรจาประนีประนอมกัน  คนกลางในการเจรจา   เช่น  ผู้ใหญ่บ้าน    กำนัน  นายอำเภอหรือปลัดอำเภอเป็นต้น......มารดาของคุณก็ชะล่าใจจนเกินไปที่ปล่อยให้เขาเข้ามาครอบครองที่ดินจนเกิน  10  ปี  ถ้าเขาร้องศาลเพื่อให้ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์......เขาน่าจะได้กรรมสิทธิ์แน่นอน   เพราะการครอบครองของเขาครบองค์ประกอบตามกฎหมาย

4. ก็อยู่ที่การเจรจากันครับ

5.  ถ้ามีการขึ้นศาล   มารดาของคุณน่าจะเสียเปรียบ   ถ้าฟ้องขับไล่  เขาก็คงยกการครอบครองปรปักษ์ขึ้นต่อสู้    ก็อย่างที่บอกไว้ว่าชะล่าใจให้เขาครอบครอง เกิน  10  ปี  ก็คงแก้ไขลำบาก......การไกล่เกลี่ยประนีประนอม...ยอมถอยกันคนละก้าว คือทางออกที่ดีที่สุด   คือไม่มีผู้แพ้ผู้ชนะ ไม่ต้องมาหวาดระแวงเรื่องการบาดหมางใจกัน    เขาเสนอขอเงิน  80,000  บาทฝ่ายของคุณก็เสนอมา 20,000  บาท  ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี  เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของการเจรจาประนีประนอมกันแล้ว....     คุณก็ลองขยับจำนวนขึ้นอีกหน่อย  ถ้าเขายอมขยับลงนิด  น่าจะถึงจุดลงตัวในไม่ช้า   สิ่งสำคัญในการเจรจาคือ  ต้องมีสติและความอดทนในการต่อรอง   เรื่องเขาคุยข่มก็ทำเป็นหูไปนาทำตาไปไร่ไว้ก่อน     อย่าถือมาเป็นประเด็น  เพราะจะทำให้การเจรจายากลำบากขึ้น........    คิดว่าเรื่องนี้คงยุติลงด้วยดีครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-01-06 19:07:29 IP : 125.26.112.190


ความคิดเห็นที่ 2 (2957304)

ขอบพระคุณมากครับ สำหรับคำตอบ

มีข้อสงสัยอยู่ตรงว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ในหลักเกณฑ์มี 6 ข้อ คือ

1.       ครอบครองหมายถึง กิริยาเข้ายึดถือทรัพย์สิน เช่น เข้าทำประโยชน์ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ ในเรือกสวนไร่นาถือว่าได้ครอบครองเรือสวนไร่นานั้นเป็นต้น

2.       ทรัพย์สินของผู้อื่น หมายถึง ทรัพย์สินที่เจ้าของมีกรรมสิทธิ์อยู่ในกรณีที่ดินจะต้องเป็นที่ดินที่มีโฉนดหรือตราจองเท่านั้น

3.     โดยสงบ คือ การครอบครองโดยปราศจากการข่มขู่ การใช้กำลัง การหลอกลวงและไม่มีใครมาหวงห้าม กีดกัน แสดงความเป็นเจ้าของ หรือฟ้องร้องขับไล่

4.       โดยเปิดเผย คือ การครอบครองโดยมิได้หลบซ่อนเร้น ปิดบัง หรืออำพรางใด ๆ

5.     ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ คือ การครอบครองโดยเจตนาดังใจที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้น ไม่ใช่การครอบครองแทนผู้อื่น เช่น คนสวนเฝ้าสวนแทนเจ้าของสวนหรือครอบครองตามสัญญาให้อำนาจไว้ เช่น การครอบครองที่นาทำนาตามสัญญาเช่านา เป็นต้น

6.     การครอบครองอสังหาริมทรัพย์ติดต่อกันสิบปี หรือสังหาริมทรัพย์ห้าปี ความหมายของอสังหาริมทรัพย์โดยทั่ว ๆ ไป หมายถึงที่ดินรวมทั้งทรัพย์ก็คือ ทรัพย์ที่ขนเคลื่อนที่ได้นั่นเอง การครอบครองปรปักษ์จะได้กรรมสิทธิ์ต้องปรากฏว่าครอบครองติดต่อกันตลอดมาเป็นเวลานานตามที่กฎหมายกำหนดไว้ดังกล่าวด้วย

ซึ่งในข้อ 3 ผิดจากความเป็นจริง ถือว่าเป็นการครอบครองโดยไม่สุจริต หรือเปล่าครับ รบกวนตอบอีกครั้งนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ศักดิ์ดา วันที่ตอบ 2009-01-07 10:50:24 IP : 125.26.37.57


ความคิดเห็นที่ 3 (2957333)
-การครอบครองโดยสงบ  น่าจะหมายถึง   การครอบครัวโดยปราศจากการโต้แย้งจากเจ้าของ.......  ตามข้อเท็จจริงที่เล่ามา   คุณแม่ของคุณไม่เคยแจ้งข้อหาบุกรุก   หรือฟ้องขับไล่แต่อย่างใด    ก็ถือได้ว่าเป็นการครอบครองโดยสงบแล้ว    เรื่องการข่มขู่แม้มีจริง   ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะพิสูจน์กันได้ง่ายๆ....และไม่การแจ้งความไว้ก็ยิ่งไม่มีน้ำหนักที่เชื่อถือได้.....แต่การปล่อยให้เขาขุดร่องสวนและทำสวนผลไม้  มีหลักฐานแสดงการครอบครองเด่นชัดว่าเขามีการครอบครองโดยสงบจริงครับ......คดีนี้ถ้ามีการฟ้องร้องกัน    ขั้นแรกศาลมักให้ไกล่เกลี่ยประนีประอมกันก่อน....ถ้าสามารถใช้การเจรจาได้ก่อนขึ้นศาล    จะสามารถทุ่นเวลาและทุ่นเงินอย่างมากครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-01-07 12:03:47 IP : 125.26.107.202


ความคิดเห็นที่ 4 (3233599)

การกระทำใดใดที่ขัดต่อความสงบ เรียบร้อย ของสังคม สนับสนุนการ โกง แย่งชิง ปล้น ล่วงละเมิด   เท่ากับเป็นการสนับสนุนความชั่ว ความเลวทรามต่ำช้า ของมนุษย์ ให้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น   ใครไม่เคยโดนแย่งชิงแบบนี้มาก่อนคงไม่รู้สึกหลอกครับว่ามันเจ็บช้ำน้ำใจในเรื่องนี้ขนาดไหน   เป็นข้อ.....ที่ชั่วร้าย เลวทรามมาก มาก

ผู้แสดงความคิดเห็น นี่หรือที่เรียกว่า ความยุติธรรม วันที่ตอบ 2011-01-15 09:48:09 IP : 223.204.217.30



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.