เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงเวลาหนึ่ง ดิฉันห่างๆกับแฟนหรือจะคิดว่าเลิกกันก็ได้ แต่วันหนึ่งดิฉันได้รู้จักกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง เราพูดคุยสนิทสนมกันมานานเชิงชู้สาว แต่คุยคบหากันได้อยู่ช่วงหนึ่ง อยู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งอ้างตัวว่าเป็นแฟนกับผู้ชายคนนี้ แล้วก็ส่งข้อความด่าดิฉันเสียๆหายๆและโทรมาด่าด้วยและยังให้เพื่อนของเค้าโทรมาด่าดิฉันอีกแต่พอดิฉันได้สอบถามกับฝ่ายชาย ฝ่ายชายบอกกับดิฉันว่าเค้ากับผู้หญิงไม่มีอะไรกันแล้วที่เค้าบอกไม่จริง เค้าเฉยๆกับผู้หญิงคนนี้แล้วอย่าคิดมาก คนเราจะรักกันมันผิดหรือไง เราก็คบกันไปเรื่อยๆ แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ส่งมาด่าฉันและเตือนดิฉันเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้บอกให้ฉันเลิกคบเลิกติดต่อแต่พอดิฉันสอบถามกับฝ่ายชายเค้าก็ยังยืนยันคำเดิมที่เคยให้กับดิฉัน แต่ก็มีหลายครั้งที่เราเคยหยุดการติดต่อกัน เพราะดิฉันรับไม่ได้กับการด่าของผู้หญิงคนนี้ เคยกินยานอนหลับไปหลายครั้ง แต่มีเพื่อนมาช่วยไว้ทัน แต่พอหยุดการติดต่อไปได้ช่วงหนึ่ง เลิกคิดคบหากันในชิงชู้สาวแต่ก็มีบ้างที่ส่งเมลล์หาสารทุกข์สุขดิบและโทรหาถามข่าวคราวว่าสบายดีหรือเปล่า แต่พอได้ติดต่อกันอีกครั้ง ดิฉันอาจเป็นฝ่ายผิดที่ติดต่อเค้าไปเอง พอคุยนานไปเค้าก็เริ่มคุยแบบชู้สาวเหมือนเคย ดิฉันก็ใจอ่อน เวลานานไปเราก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ่ง ระหว่างนั้นเค้าก็ได้ยืมเงินดิฉันอยู่เรื่อยๆ ให้ดิฉันซื้อของให้ให้ ผ่อนบัตรเครดิตให้ ยืมเงินผ่อนรถ ซื้อของใช้ และขอเงินใช้เป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งดิฉันได้ทราบว่าดิฉันได้ตั้งท้องได้เดือนกว่าๆ พอบอกฝ่ายชายเค้าก็หายไปเลย แต่ฝ่ายหญิงเค้าโทรมาด่าและส่งข้อความมาด่าดิฉันเสียๆหายๆด่าถึงพ่อแม่แล้วแทนตัวดิฉันว่าเป็นตัวชะนี พอหลังจากวันที่ฝ่ายชายทราบข่าวว่าดิฉันท้อง เค้าก็หายไปซ้ำเค้ายังไปเที่ยวปีใหม่ที่มาเลเซียโดยไม่ใส่ใจดิฉันเลย  ดิฉันจึงตัดสินใจไปทำแท้งที่คลินิกแห่งหนึ่งโดยทำไม่ถูกกฏหมาย และออกค่าใช้จ่ายไปประมาณ 3-4 หมื่นบาทหลังจากที่ดิฉันไปทำแท้งมาเสร็จเค้าก็กลับมาหาดิฉันพยายามมีเพศสัมพันธ์กับดิฉันให้ได้ หลังจากนั้นดิฉันก็ต้องเข้าออกโรงพยาบาลตลอดเพราะมีเลือดออกเสมอซึ่งมันเป็นอากาศผิดปกติ ซึ่งดิฉันจะบอกเค้าเสมอและให้เค้ายังช่วยใส่ยาสอดสำหรับผู้หญิงที่ติดเชื้อทางช่องคลอด และหลังจากนั้นดิฉันก็มารู้ที่หลังว่าแท้ที่จริงแล้วเรื่องที่เค้าบอกดิฉันเค้าโกหกหลอกลวงดิฉันมาตลอด เค้ามีแฟนแล้วและเค้าก็อยู่กินกัน ดิฉันก็เลยตกลงกับเค้าแต่ละหว่างนั้นมีเพื่อนของดิฉันที่เค้าเคยชอบพอกับดิฉันโกรธที่ดิฉันถูกหรอกเพราะเค้าเคยเตือนแล้วแต่ดิฉันไม่ฟัง เค้าเคยทำร้ายดิฉันแต่ไม่รุ่นแรงมากเพราะความเป็นเพื่อนมากกว่าเพราะดิฉันไปปรับทุกข์กับเค้าอยู่เสมอ และเพื่อนของดิฉันคนนี้ก็ส่งเมลล์ไปด่าผู้ชายคนนี้และแฟนแต่ปลอมแปลงอีเมลล์ไม่ได้ส่งในนามจริง และบอกให้เค้าช่วยออกค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวของดิฉัน และให้เค้าคืนเงินที่ยืมจากดิฉันไป เป็นจำนวนเงิน 20000 บาท เค้าก็โอนเงินมาให้ดิฉันจำนวนเงิน 20000 บาทซึ่งเงินส่วนนั้นไม่ใช่เป็นเงินของเค้าเป็นเงินของแฟนของเค้า  ซึ่งตลอดเวลานับจากวันที่เค้าโอนเงินให้ดิฉัน เป็นเวลา 7 เดือนแล้ว ช่วงนั้น แม่ของฝ่ายชายเค้าก็โทรไปหาแม่ดิฉันหลอกลวงแม่ดิฉันว่าเป็นเพื่อนดิฉันเพื่อหลอกถามว่าดิฉันได้เล่าเรื่องอะไรให้แม่ฟังบ้าง แม่ของดิฉันตกใจและเป็นห่วงดิฉันไม่เป็นอันทำอะไร ต้องร้องไห้และเสียใจที่ลูกโดนหรอกและต้องมารักษาตัวจากการกระทำของผู้ชายคนนี้ หลังจากวันนั้นดิฉันต้องเข้าโรงพยาบาลทุกเดือนและเพิ่งจะผ่าตัดมาด้วยค่ะ ซึ่งดิฉันมีความโกรธมากที่โดนหลอกทั้งร่างกาย ทรัพย์สิน และชื่อเสียง และทางด้านจิตใจด้วยค่ะ จึงอยากให้เค้ารู้บ้างว่าถ้าโดนหลอกบ้างคุณจะรู้สึกเช่นไร จึงกุเรื่องมาว่าท้องกับเค้าหลังจากวันที่เลิกกัน และแต่งเรื่องว่าจะแต่งงานแล้วว่ามีคนจะมารับเป็นเด็กให้แทน ดิฉันทราบว่าการกุเรื่องหรือแต่งเรื่องมันผล แต่ดิฉันอยากให้ค้ารับรู้บ้างว่าถ้าเค้าบอกว่าเค้าอยู่กินกับแฟนแล้ว ใครบ้างจะเข้าหาเรื่องใส่ตัว แถมเค้ายังเคยพาดิฉันไปบ้านเค้าตัว ถ้าเค้าไม่คิดจิงจังเค้าจะพาดิฉันไปบ้านเพื่ออะไรกันแต่ช่วงที่แต่งเรื่องเป็นการส่งเมลล์ไม่ได้ระบุชื่อค่ะ หลังจากที่ดิฉันไปทำแท้งครั้งแรกทิ้งเวลาประมาณ 4 เดือนค่ะถึงดิฉันจะรู้ความจริง หลังจากบอกว่าตัวเองท้อง ก็โกหกเค้ามาคลอดค่ะ แล้วปลอมเมลล์ว่าเป็นคนอื่นบ้างเช่นว่าเป็นเพื่อนดิฉันส่งข่าวรื่องท้อง เพียงอยากให้เค้าไม่สบายใจอย่างดิฉันบ้างก็เท่านั้น ดิฉันทราบรู้ว่ามันไม่ดีแต่ความโกรธที่ทำให้ชีวิตดิฉันพัง ขาดความมั่นใจ ดิฉันโกหกมาได้ประมาณ 7 เดือน แต่ระหว่างที่โกหกก็ได้ส่งเมลล์ไปโกหกเค้าเสมอ แต่ปลอมชื่อเป็นคนอื่นค่ะ เกี่ยวกับท้องปลอมๆของดิฉัน แต่เค้าก็มารู้ทีหลังว่าดิฉันโกหก เค้าก็เลยด่าดิฉันแล้วบอกว่าจะไปแจ้งความ และขอเงินคืนเงินที่เค้าโอนให้ดิฉันค่าทำแท้งจำนวน 20000 เพราะเค้าบอกว่าแฟนของเค้าโทรไปถามจากทางโรงพยาบาลแล้วว่าดิฉันไม่เคยไปรักษาที่โรงพยาบาลเลย ไม่มีประวัติการเข้ารักษาตัวของดิฉัน ดิฉันจึงไปขอประวัติการรักษาตัวของดิฉันทุกครั้งมาเก็บเอาไว้ เพื่อเป็นการยืนยัน  แต่เค้าบอกว่าเค้าจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับดิฉัน เรื่องเงินกับเรื่องที่ดิฉันโกหก แล้วเค้าก็โทรมาวันละ 10 รอบและส่งเมลล์มาด่าดิฉันและส่งเมลล์มาขู่ว่าหน้าไม่อายเอาเงินคนอื่นไป อย่างนี้ต้องไม่เม้นใน Hi5 เพื่อนดิฉันฝากทวงเงินให้อับอายไปมากกว่านี้อีก และทุกวันนี้เค้าก็ส่งเมลล์มาหัวเราะใส่ดิฉันทุกวัน แล้วบอกว่าจะดำเนินคดีกับดิฉันให้ถึงที่สุด แต่ดิฉันคิดว่าดิฉันโดนกระทำขนาดนี้เค้าไม่เคยคิดจะขอโทษหรือสำนึกอะไรเลยไม่เคยจะขอโทษทางบ้านของดิฉันกับสิ่งที่เค้าทำไป ช่วงเวลาที่ดิฉันคบเค้าดิฉันมีเงินเก็บอยู่ประมาณ 50000 หมื่นบาท เค้าเอาเงินส่วนนั้นไปใช้จ่าย ยืมบ้างมาขอที่ห้องบ้าง ซึ่งเงินหายไปหมด ซึ่งเค้าได้ยืมและขอใช้เงินดิฉันตลอดและให้ดิฉันเลี้ยงตลอด และจ่ายค่าโทรศัพท์ให้ตลอดจนเงินส่วนนั้นไม่เหลือเลยค่ะซึ่งเงินบางส่วนดิฉันไปกู้มาด้วย หลังจากวันที่เค้ารู้เรื่องที่ดิฉันโกหกเค้าก็โทรไปคุยกับเพื่อนที่ทำงานดิฉันแล้วเพื่อนคนนี้ก็ไปเล่าต่อๆกันจนดิฉันอับอายไม่กล้าไปหาเพื่อนคนอื่นอีกเลย แต่จดหมายหรืออีเมลล์ที่เราส่งกันไปส่งกันมานั้น ถ้าคิดกันให้ดีๆแล้ว ก็สามารถปลอมเอกสารกันได้ เพราะว่าถ้าเค้าจะสร้างเรื่องโกหกใส่ความดิฉันเค้าก้อแค่สมัครเมลล์เพิ่ม แล้วก็ส่งไปให้ตัวเองก็เท่านั้น แต่ที่เค้าส่งมาหาและด่าดิฉัน เป็นเมลล์และชื่อจริงของเค้าที่เค้าใช้อยู่ค่ะเมลล์เหล่านี้จะเป็นหลักฐานในคดีความได้ไหมค่ะ  แต่เค้าได้บอกว่าเค้าไปแจ้งความที่ สน ไว้แล้ว คดีการขู่ กรรโชกทรัพย์  เอาเงินของเราไป  มาวุ่นวายกับตัวเราและครอบครัว  ก่อให้เกิดความม่ายสบายใจ กังวลใจ 

ข่มขู่ เรียกร้องค่าเลี้ยงดู  ข่มขู่ว่าจะฟ้อง สร้างความไม่สบายใจ  หมื่นประมาท ดิฉันอยากทราบว่าเค้าจะเอาเรื่องดิฉันได้ไหมค่ะ เงินดิฉันมีคืนให้ค่ะ แต่ดิฉันคิดว่าเป็นเงินที่ดิฉันควรได้ เพราะดิฉันโดนกระทำมามากค่ะ รบกวนด้วยค่ะ ถ้าดิฉันมีสิทธิชนะคดีความ ดันจะให้ทางสำนักงานเป็นทนายดำเนินการต่อให้ดิฉันทันทีเลยค่ะ