ReadyPlanet.com


เรื่องการหย่าครับ


ขอปรึกษาหน่อยนะครับ ผมเป็นข้าราชการครู ยากจนหน่อย แต่ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนันใดๆครับขอเรื่มเลยนะครับ

ปี 2541 รู้จักกับภรรยา คบกันมา 3 ปี  พอถึงปี 2544 จับได้ว่าภรรยามีความสัมพันธ์กับชายอื่น จึงตัดสินใจเลิกคบแต่แม่และญาติพี่น้องของภรรยาขอร้องให้คบกันต่อเพื่อเห็นแก่หน้าของฝ่ายผู้หญิง ทั้งๆ ที่ผมไม่อยากคบแล้วเพราะเสียกำลังใจอย่างมาก แต่ก็ยอมคบต่อเพราะใจอ่อนเห็นแก่คำขอร้อง ปี 2545 จดทะเบียนสมรส และจัดงานแต่งงาน โดยที่ฝ่ายผู้หญิงไม่เรียกค่าสินสอดแต่อย่างไร และได้ย้ายไปอยู่บ้านภรรยารวมทั้งแม่ยายอีกคน

ปี 2546 มีบุตรชาย แต่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่เคยมีความสุขเลย มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันตลอด จนไม่พูดกันนานเป็นหลายๆเดือนก็มี เนื่องจากภรรยาเป็นคนขี้เกียจ นอนตื่นสาย 8 โมงเช้าไม่เคยทำหน้าที่ของแม่บ้านที่ดี อาหารไม่เคยหาให้ผมกิน ผ้าผมก็ซักเอง รีดเอง ผ้าอ้อมเปื้อนอุจจาระลูกก็แช่ไว้ ผมต้องมาซัก ก่อนไปทำงานก็ต้องไปหาอาหารให้ลูกทุกวันเพราะลูกยังเล็กมากสงสารลูกกลัวลูกจะหิว ส่วนใหญ่จะเป็นโจ๊กกับต้มจืด ต้องกวาดบ้านถูบ้าน ล้างจาน จนแม่ยายบ่นว่าต้องมาทำอาหารเลี้ยงคน 3 คน ผมได้ยินก็เลยไม่กินข้าวที่บ้านอีกเลย

ตอนเช้าหาอาหารให้ลูกเสร็จก็ไปทำงาน ตอนเย็นก็รีบกลับมาเลี้ยงลูกแต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่กับลูก แล้วก็ขับรถ จยย. พาลูกไปกินข้าวที่ตลาดกัน 2 คน ทั้งๆ ที่เงินก็ไม่ค่อยจะมี เงินเดือน 9,320 บาท ต้องผ่อนรถยนต์เดือนละ 7,572 บาท ไหนจะค่าเดินทางไปทำงานวันละ 45 กม. ต้องขี่รถ จยย. ตลอด เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ค่าอาหารกลางวัน ค่าอาหารเย็น พาลูกไปกินข้าวก็กินข้าวที่เหลือจากลูก อยากจะสั่งกินต่างหากแต่ก็กลัวเงินไม่พอ ก็ยอมรับว่าไม่ได้ให้เงินภรรยา เพราะเงินไม่พอใช้จริงๆ ตอนแรกก็เคยคุยกับภรรยาว่าให้ทนๆไปก่อน พอผ่อนรถหมดก็สบายแล้ว เพราะภรรยาก็ยังมีแม่คอยช่วยเหลือ ไม่ต้องเป็นห่วงผม เคยให้ไปทำงานบัญชีในตัวอำเภอ เดือนละ 4,800 บาท แต่ภรรยาก็ไม่ทำ เพราะไม่เคยทำงาน(จบ ปวส.) ผมก็บอกว่าให้ทำไปก่อนจะได้มีรายได้ช่วงที่ยังผ่อนรถอยู่ อีก 2 ปีรถก็หมดแล้ว ไม่ต้องทำงานก็ได้ แต่ภรรยาไม่ฟัง และยังชอบเล่นการพนัน จนต้องขายทีวี คอมพิวเตอร์ที่ผมใช้ทำงาน

ครั้งหนึ่งลูกอายุได้ 3-4 เดือน(ลูกกินนมแม่ เพราะตกลงกันว่าจะให้ลูกกินเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย) ประมาณ 2 ทุ่ม ภรรยาออกไปเล่นการพนันตามงานศพกับแม่ยาย (แม่ยายเป็นเจ้ามือไฮโล) ปล่อยให้ผมเลี้ยงลูก ประมาณ 2 ทุ่ม 15 นาที ลูกก็ตื่นร้องให้จ้าเลย ผมเอานมชงให้กินลูกก็ไม่ยอมกิน ร้องตลอดผมสงสารลูกมาก โทรศัพท์ก็ไม่มี จะไปตามก็ไม่รู้ว่าเล่นการพนันกันที่ไหน ผมต้องอุ้มลูกอยู่อย่างนั้นถึง 5 ทุ่ม ก็ทะเลาะกันอีก แต่ก็โดนแม่ยายรุม เล็บข่วนหน้าเป็นแผลลึก ต้องลาโรงเรียนเป็นอาทิตย์เพราะอายเพื่อน

ครั้งสุดท้ายเมื่อ 22 ก.ย. 49 ตอนเช้าจะไปทำงานทะเลาะกับภรรยาอีก ผมบอกว่าอย่าทะเลาะกันเลยผมห่วงลูกไม่อยากจากลูกไป แม่ยายเข้ามาช่วย แล้วใช้มีดดายหญ้าฟันที่แก้มของผม(ทุกครั้งที่ทะเลาะกันผมจะไม่เคยทำร้ายภรรยาเลย) ผมต้องขับรถไปโรงพยาบาลเพื่อเย็บแผล 15 เข็ม พ่อผมพาไปแจ้งความทำร้ายร่างกายแต่สุดท้ายผมก็ไม่เอาเรื่อง ผมตัดสินใจไม่กลับไปที่บ้านอีก ไปอยู่บ้านพักครู แต่ก็เป็นห่วงลูก หลังจากออกจากบ้านผมก็ส่งเงินให้ลูกทุกเดือนไม่เคยขาด

พอวันศุกร์ก็จะไปรับลูกมาอยู่ด้วย วันอาทิตย์ก็ไปส่ง เป็นอยู่อย่างนี้ ขอหย่ากับภรรยา ภรรยาก็ไม่หย่าให้ ผมจึงไปลงบันทึกประจำวันว่าแยกกันอยู่กับภรรยาโดยไม่ได้มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกันเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2550 รถที่ผ่อนก็ตัดสินใจขายดาวน์ นำเงินมาแบ่งกัน ทั้งๆที่ผมเป็นคนผ่อน และผมตัดสินใจไว้ว่าจะไม่กลับไปอยู่เหมือนเดิมอีก จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ และเอาลูกมาอยู่ด้วย ที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงนะครับ นี่เป็นข้อมูลพอสังเขป อยากถามข้อกฎหมายหน่อยนะครับ

1.       เมื่อ วันที่ 25 ม.ค. 2551 ผมได้รู้จักกับเพื่อนครูผู้หญิงคนหนึ่งและดูใจกันมาถึงตอนนี้ ยังไม่มีอะไรกันนะครับ ซึ่งผมคิดว่าอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ และผมก็ได้บอกภรรยาเรื่องนี้ด้วย ผมจะฟ้องหย่าหรือทำสิ่งใดได้บ้างครับ เพราะภรรยาผมไม่ยอมหย่าให้ แฟนที่เป็นครูก็ไม่กล้าใกล้ชิดมากเพราะกลัวจะมีปัญหา ผมสงสารเพื่อนครูผู้หญิง เพราะเธอเป็นคนดี อยากทำให้ถูกต้องครับ  ขอให้ท่านได้ให้แนวทางแก่ผมด้วยครับ ขอบคุณครับ



ผู้ตั้งกระทู้ ครูต้น (bandonsamran-at-chaiyo-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2009-03-18 18:44:44 IP : 118.172.216.79


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2985029)

-ถ้าทนอยู่กันไม่ได้จริงๆ    ก็ควรใช้วิธีสมัครใจแยกกันอยู่เมื่อครบสามปีก็ฟ้องหย่าได้    ก่อนแยกกันอยู่ก็ควรให้ตำรวจทำบันทึกไว้ว่าจะแยกกันอยู่เพื่อใช้เป็นหลักฐานเมื่อครบสามปี.....

-ก่อนจดทะเบียนหย่า    ควรระมัดระวังในการมีสัมพันธ์กับหญิงอื่น   โดยเฉพาะเพื่อนครู   เพราะอาจถูกฟ้องเรียกค่าทดแทน   และถูกดำเนินการทางวินัยร้ายแรง  ซึ่งมีโทษถึงขั้นไล่ออก  อนาคตคงดับสูญครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-03-18 19:58:05 IP : 125.26.111.208



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.