1. เมื่อได้รับคำสั่งศาลให้เป็นผู้จัดการมรดก    ก็ต้องทำบัญชีทรัพย์มรดกภายใน  15  วัน  และให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งเดือน  มีพยานที่มีส่วนได้เสียลงลายมือชื่อเป็นพยานรับรองอย่างน้อยสองคน  เพื่อยื่นต่อศาล.......แต่ในทางปฏิบัติไม่ค่อยมีผู้จัดการมรดกดำเนินการในเรื่องนี้...    เมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก   ก็มักไปจัดการโอนทรัพย์สินให้แก่ทายาท  และศาลคงไม่มีเวลามาตรวจสอบว่าผู้จัดการมรดกรายใดยื่นบัญชีทรัพย์มรดกหรือไม่    ปัญหาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อทายาทไม่ลงรอยกัน    ถ้าผู้จัดการมรดกไม่ทำบัญชีทรัพย์สิน  คงถูกยื่นถอดถอนจากการเป็นผู้จัดการมรดก  ก็คงมีความยุ่งยากตามมา.....

2.การยกบุตรให้คนอื่น    ถ้ายกให้เป็นบุตรบุญธรรม  ก็ไม่เสียสิทธิในการรับมรดก   คือมีสิทธิได้รับมรดกเหมือนทายาทที่เป็นบุตรคนอื่นๆ.......แต่ถ้ายกให้บุคคลอื่น  แบบทำผิดขั้นตอน   คือมอบบุตรให้คนอื่น   และบุคคลผู้นั้นไปแจ้งเท็จว่าเป็นบุตรของตน  และสมอ้างว่าเป็นบิดามารดาของเด็ก  ซึ่งมีตัวอย่างมากมายในสังคมไทย   ถ้าจะให้มีสิทธิรับมรดกคงต้องไปฟ้องร้องว่าการรับเด็กเป็นบุตรเป็นโมฆะ   เพราะไม่ดำเนินการตามกฎหมาย  ซึ่งคงยุ่งยากและเสียเวลาพอสมควร.........ถ้าทายาทอื่นๆซึ่งต่างก็ทราบดีว่าเด็กเป็นบุตรของเจ้ามรดก   เมื่อมีการแบ่งปันทรัพย์สิน จะแบ่งให้เด็กนั้นตามสิทธิ   กฎหมายก็ไม่ได้ห้ามไว้   ถ้าทายาททุกคนยินยอม  ซึ่งถ้าใช้วิธีนี้จะสะดวกไม่ต้องไปฟ้องร้องให้เสียเวลา......