ค่าเลี้ยงดูบุตร

  เป็นเรื่องความรับผิดทางแพ่ง   ถ้ามีการเรียกร้องเพิ่ม  ก็ต้องใช้การพุดคุยเจรจาทำความเข้าใจกัน  ถ้าคุณอยู่ในฐานะที่จ่ายได้ ไม่เดือดร้อน ก็จ่ายไปเถอะครับ  ถ้าเห็นว่า เรียกร้องสูงเกินไป ก็ปฏิเสธได้  ถ้าเขาไม่พอใจ ต้องฟ้องศาล  คุณก็สามารถไปแถลงถึงเหตุผลและความจำเป็นว่า มีความสามารถจะจ่ายได้เท่าไร....พ่อของเด็ก  ก็มีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูบุตรด้วย   ทำไม จะเรียกร้องจากคุณฝ่ายเดียว  แบบนี้ ทำนองได้ทีขี่แพะไล่  คงคิดว่า คุณต้องจ่าย  ไม่มีทางปฏิเสธได้  ซึ่งไม่ใช่เช่นนั้น  ก็อยู่ที่ความเหมาะสม ตามควรแก่ฐานะความเป็นอยู่  ถ้ามีการฟ้อง   ก็ควรย้อนถามเขาว่า แล้ว พ่อจะไม่รับผิดชอบ ในการเลี้ยงดูบุตร บ้างเลยหรือ...

 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ

มีอีกเรื่องจะปรึกษาคะ...ในการหย่าครั้งนั้น ฝ่ายชายขอเป็นผู้ปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ฝ่ายชายไม่มีศักยภาพในการเลี้ยงดูบุตรเลย หากวันใดที่ฝ่ายชายเรียกร้องมากจนเกินไปเราสามารถฟ้องเป็นผู้ปกครองบุตรได้หรือไม่

ขอบคุณอีกครั้งคะ..คำแนะนำเป็นประโยชน์มากๆคะ

 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ

มีอีกเรื่องจะปรึกษาคะ...ในการหย่าครั้งนั้น ฝ่ายชายขอเป็นผู้ปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ฝ่ายชายไม่มีศักยภาพในการเลี้ยงดูบุตรเลย หากวันใดที่ฝ่ายชายเรียกร้องมากจนเกินไปเราสามารถฟ้องเป็นผู้ปกครองบุตรได้หรือไม่

และหากฝ่ายชายมีงานทำแล้ว ฝ่ายหญิงสามารถเรียกร้องค่าดูแลบุตรจากฝ่ายชายบ้างได้หรือไม่คะ (กรณีนี้ถามเผื่อขู่หรือต่อรองกับฝ่ายชายคะ)

ขอบคุณอีกครั้งคะ..คำแนะนำเป็นประโยชน์มากๆคะ

อำนาจการปกครองบุตร

 กรณีมีการหย่า  การปกครองบุตร ต้องใช้การเจรจากันว่าใครจะปกครองบุตร   ถ้าตกลงกันไม่ได้   แต่ละฝ่าย ก็ต้องอ้างความสามรถของตนว่า สามารถดูแลบุตรได้ดีกว่า   เช่น ฐานะความเป็นอยู่  การมีงานทำที่มั่นคง ที่ดีกว่า สภาพแวดล้อม(บ้านที่อยู่อาศัย) ดีกว่า สรุปคือ ตนมีความสามารถให้บุตรได้รับความผาสุก และบุตรได้รับประโยชน์ ดีกว่าอีกฝ่าย เป็นต้น...เรื่องค่าเลี้ยงดูบุตร  ฝ่ายชายก็มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรด้วย ตาม ปพพ. ม.1564 จะมาทำเนียนอ้างว่า ไม่มีงานทำ จึงไม่จ่าย คงไม่ได้ ....

 ขอบคุณมากคะ...ชัดเจนเลยคะ