ReadyPlanet.com


ผู้รู้ช่วยแนะวิธีที่ส่งผลทางบวกแก่รูปคดีให้ผมหน่อยครับโดนทำร้ายร่างกายมา


สวัสดีครับ เรื่องของผมมีอยู่ ว่า ผมเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งครับ ในห้องที่ผมเรียนผมมีปัญหากับเพื่อนคนหนึ่ง คือเขาจะชอบแซวผมอยู่ตลอดแล้วผมเป็นคนเงียบๆก็เลยโดนแกล้งโดนแซวอยู่ตลอด จนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผมอยากพูดกับเค้าไปเลยว่าอย่ามายุ่งกับผมอีก วันศุกร์ตอนเย็นพอเลิกเรียนผมก็ขี่รถตามเขาไป เขาเข้าไปที่บ้านเพื่อนเค้า ผมก็ไม่รู้ว่าหลังไหน ก็เที่ยวถามคนโน้นคนนี้ เค้าก็ไม่บอก แล้วไอ้เพื่อนผม มันก็ตามไปด้วย 2 คน แล้วมันถือไม้เบสบอลไป ทั้งที่ผมก็ไม่อยากให้มันเอาไปบอกมันแล้วครับ แต่มันบอกเอาไปป้องกันตัวเผื่อฝ่ายโน้นจะรุมทำร้าย ผมก็ถามหาเค้ากับคนแถวนั้น คนแถวนั้นเค้าก็ไม่บอกผมว่าเค้าอยู่ไหน สุดท้ายก็จะกลับบ้าน คู่กรณีของผมเค้าก็โทรมาว่ามีอะไรกับเค้า แล้วผมก็บอกผมไม่พอใจเค้าที่เค้าชอบแกล้งผม ผมอยากเจอกับเค้าอยากคุยว่าต่างคนต่างอยู่ดีกว่าอย่ายุ่งกันเลย สารภาพตรงๆครับว่าตอนคุยโทรศัพท์กันต่างคนต่างโกรธกันแล้ว ก็คุยกันคำหยาบ ผมมารู้ทีหลังว่าเค้าเปิดลำโพงให้เพื่อนของเค้าได้ยินด้วย เพื่อนเค้าก็คงโกรธขึ้นมา แล้วเค้าก็บอกให้ผมไปหาที่บ้านของเพื่อนเค้าที่ผมไปหารอบแรกแต่ไม่เจอ มาทราบทีหลังว่าเค้าหลบอยู่ในนั้น เค้าไม่ออกมาเพราะระแวงว่าเพื่อนผมจะตีเค้า ทั้งที่ผมไม่มีเจตนาจะทำอย่างนั้นเลย พอเค้าโทรให้ผมไปหาที่บ้านเพื่อนเค้า พวกเพื่อน ผม 2 คนก็ขี่รถ ไปดูที่บ้านเพื่อนเค้า เพื่อนเค้ามี อยู่ 10 คน  ครับ เพื่อนผมก็ขี่รถกลับมาบอก ผมก็คิดแล้ว ถ้าผมไปบ้านเพื่อนเค้า ต้องไม่ได้คุยดีแน่ โดนรุมทำร้ายชัวร์ๆ เค้าก็เลยโทรมาอีก ผมก็เลยคิดว่า เราเจอกันครึ่งทางดีกว่า ไม่ต้องไปถิ่นใคร จะได้คุยกันดีๆ ผมเลยบอกเค้าว่านั้นเรามาคุยดีๆกันที่ ปั้มน้ำมันแล้วกัน เพราะปั้มน้ำมันมันเป็นกึ่งกลางของที่ๆผมอยู่กับที่เค้าอยู่ครับ แล้วผมก็คิดว่า คนมาเติมน้ำมันเยอะๆคงไม่มีใครกล้าตีใครในปั้มน้ำมันแน่ จะได้คุยกันดีๆ เพื่อนผม2คน ก็จะพาอาวุธไม้เบสบอล ไม้เหล็กไป ผมก็บอกเพื่อน ว่าอย่าเอาไปเลยอยากคุยดีๆ เพื่อนผมก็ไม่ได้เอาอาวุธไป ผมกับเพื่อนก็ไปรอเค้าที่ปั้มน้ำมัน สักพักพวกของเค้าก็มาครับนั่งรถกระบะกันมา เค้าก็ลงมาพูดว่า จาเอาไงว่ะ แล้วไม่ทันที่ผมจาได้คุยอะไร เพื่อนของเค้าก็ลงมาจากรถกระบะ ประมาณ6-7 คน 4คนเตรียมอาวุธมาพร้อมผมจำไม่ได้ว่าคืออาวุธอะไรแต่ที่แน่ๆเป็นของแข็งรุมทำร้ายผมคนเดียว เพื่อนผมอีก2คนมันก็วิ่งหางจุกตูดเพราะไม่มีอาวุธแล้วก็กลัวโดนรุม ผมโดน คน 4 คน ซึ่งเป็นเพื่อนของคู่กรณีผมรุมทำร้าย ที่ปั้มน้ำมัน ครับ หลังจากที่เพื่อนเค้ารุมผมเสร็จผมก็นอนอยู่ตรงนั้น ตอนนั้นก็ปากแตก หัวบวม มือเลือดออก แล้วคู่กรณีผมเค้าก็มาพูดว่าเค้าขอโทษเค้าไม่ได้ตั้งใจ เพื่อนเค้ามันใจร้อนเค้าห้ามเพื่อนเค้าไม่ได้ แล้วเพื่อนเค้าก็จะรุมผมอีก แต่เพื่อนอีก 3 คน ของ เค้า ก็ห้ามไว้ แล้วพวกเพื่อนเค้าก็ขี่รถกระบะกลับไป แล้วผมก็คุยกับเค้า 2 คน เค้าก็ขอโทษผม ว่าเค้าไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องเป็นอย่างงี้จริงๆ เค้าห้ามเพื่อนเค้าไม่ได้  ผมตอนนั้นตกใจก็เออๆเออๆไปว่าเออไม่มีอะไรต่อไปก็ต่างคนต่างอยู่และกันยังไงผมก็โดนรุมแล้วยอมรับครับตอนนั้นมึนหัวมากๆ แล้วก็มีรุ่นพี่คนนึงขี่รถเข้ามาซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่ผมเพิ่งรู้จักวันนั้นเองเค้าเป็นเพื่อนของเพื่อนของผมที่วิ่งตอนอยู่ในปั้มครับ เค้ารู้เหตุการณ์แล้วขี่ผ่านมาเห็นผมยืนคุยกับคู่กรณีอยู่ เค้าก็มาถามไหนว่าจะคุยกันดีๆ ทำไมต้องรุมทำร้ายกันด้วย ผมเป็นคนบอกเองไม่เอาอาวุธอะไรไป เค้าก็ชักปืนออกมาไม่ได้จ่อยิงนะครับแต่ชักออกมาให้คู่กรณีผมเห็น ผมก็บอกพี่ๆๆเครียกันจบแล้วไม่เป็นไร แล้วเค้าก็บอก ตกลงเครียกันได้น่ะ แล้วเค้าก็ขี่รถกลับไป ผมก็ขี่รถไปส่งคู่กรณีผมที่รถกระบะเพื่อนมันที่จอดอยู่มันบอกจบแล้วเพื่อนมันไม่ทำอะไรแล้ว พอผมไปส่งมันที่รถกระบะเพื่อนมันเพื่อนของมันก็จะรุมทำร้ายผมอีก แต่เพื่อนที่จะไม่รุมเค้าก็ห้ามไว้ แล้วมันก็ขอโทษขอโพยผมอีก แล้วผมก็ขี่รถไปโรงพยาบาล คู่กรณีผมก็ซ้อนท้ายตามมาโรงพยาบาลด้วย ตอนอยู่ในห้องฉุกเฉินเค้าก็ตามมาขอโทษขอโพยผมอีกครั้ง ว่าเค้าไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องเป็นอย่างงี้จริงๆ แล้วเค้าก็กลับไป ผมก็นอนในห้องฉุกเฉินให้พยาบาลทำแผล เบื้องต้นก็หัวบวม ปากแตก มือโดนบาด ข้อศอกบวมขึ้นมา ต้องดามแขนไว้ นาฬิกาหายไป คอนเทคเลนส์เลื่อนหลุดหายไปไหนก็ไม่รู้ แล้วผมก็กลับบ้านไป เล่าเรื่องให้พวกญาติๆฟัง เค้าบอกเรื่องอย่างนี้ยอมกันเฉยๆไม่ได้ อย่างงี้มันรุมทำร้ายกัน เค้าก็เลยพาผมไปโรงพัก แล้วก็โทรเรียกคู่กรณีผมให้มาคุยกันที่โรงพัก แต่คู่กรณีผมแล้วก็พวกเพื่อนเค้าที่รุมทำร้ายก็ไม่มากัน เค้าบอกเค้าไม่ผิด ญาติผมจึงแจ้งความว่าพวกเค้ารุมทำร้ายร่างกายผม แล้วผมก็กลับบ้านไป พอถึงประมาณเที่ยงคืนกว่าๆผมรู้สึกปวดหัวมากๆจากที่โดนรุมทำร้ายแล้วก็มีเลือดกำเดาออกจมูก ก็เลยไปโรงพยาบาล หมอวินิจฉัยว่าให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลไปก่อน พออีกวันญาติผมก็เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยแจ้งเรื่องให้อธิการบดีรับทราบ พวกอาจารย์ในคณะที่ผมเรียนก็โทรมาถามอาการกัน แล้วก็ถามเรื่องราวเป็นอย่างไร ผมก็บอกไปเรื่องผมโดนรุมทำร้าย ตอนนอนโรงพยาบาลพ่อของคู่กรณีผมเค้าก็มา เค้าก็มาถามเรื่อง แล้วเค้าบอกเค้าจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้ เพราะลูกเค้าเป็นตัวต้นเหตุแต่ลูกเค้าไม่ได้ตีผมด้วย เค้าจะขอรับผิดชอบเพราะลูกเค้าเป็นตัวต้นเรื่อง แต่พวกญาติๆผมอยากให้พวกเพื่อนๆเค้าที่ตีผมรับผิดชอบมากกว่า แต่พวกนั้นก็หายหัวไป สุดท้าย ทางญาติผมแล้วก็ผู้ปกครองของคู่กรณีผมก็ไปคุยกันที่โรงพัก ผมนอนอยู่โรงพยาบาล พอเสร็จเรื่อง ญาติผมก็มาบอกว่า ทางผู้ปกครองเค้าจะรับผิดชอบค่าพยาบาล โดยเบื้องต้นเค้าได้ให้เงินค่าทำขวัญ 3พันครับ แล้วก็หาห้องส่วนตัวในโรงพยาบาลที่ผมอยู่โดยเค้าได้มัดจำค่าห้องไป 6พัน บาท ให้ผมนอน ก็นอนอยู่โรงพยาบาล 4 วัน ครับ ตอนนี้ก็กลับมาปกติแล้ว แต่แขนผมยังต้องกายภาพบำบัดอยู่หมอบอกว่ากล้ามเนื้อโดนทุบอย่างแรง แต่หัวไม่เป็นอะไร ตอนนี้ก็กลับมาเรียนตามปกติแล้วครับ แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกับคู่กรณีผมเลย

เรื่องราวก็เป็นอย่างนี้แหละครับ ท่าพิมพ์ไม่ถูกหลักภาษาไทยยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ผมอยากทราบว่า ในทางกฎหมายผมสามารถเอาผิดกับพวกเพื่อนเค้าที่รุมทำร้ายผมได้ขนาดไหนครับ แล้วนาฬิกาผมกับคอนเทคเลนส์ที่เลื่อนหลุดไป ผมสามารถให้เค้ารับผิดชอบได้หรือเปล่าครับ แล้วก็เรื่องตอนนี้ถึงอธิการบดีของทางมหาวิทยาลัยแล้ว เดี๋ญวเค้าจะต้องนัดผมคุยกับคู่กรณีผมอีกที ซึ่งอาจารย์ผมเค้าก็บอกเรื่องถึงอธิการแล้วมันเป็นเรื่องใหญ่ ผมจะโดนพักการเรียนหรือเปล่าครับ แล้วผมจะให้การกับตำรวจและอธิการยังไงดีครับ ผมมันคนขี้ตื่นเต้น แล้วก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องกฎหมาย กลัวจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบคู่กรณีผม    ช่วยแนะนำด้วยครับ

                                                        ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงครับ


ผู้ตั้งกระทู้ ชายแมน :: วันที่ลงประกาศ 2009-06-22 21:14:33 IP : 119.42.84.247


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3023906)
-คุณก็มีส่วนผิดไม่น้อย   ที่ไปเที่ยวตามหาคู่กรณีเพื่อเคลียร์ใจกัน   ปรกติคนทั่วๆไปเขาไม่ทำกันหรอก  แถมยังโทรฯไปนัดแนะให้เขามาคุยตกลงกัน  ก็เป็นโอกาสให้เขาพาเพื่อนมารุมสกรัมคุณ   เขาก็ยังมีลีลาเหนือชั้น   ว่าเขาไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับเพื่อน   มีการขอโทษขอโพยเพื่อตบตาคุณ    ที่ได้จัดการคุณได้สมใจ......ก็เป็นกรณีถูกทำร้ายร่างกาย...มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี   แม้เป็นคดียอมความไม่ได้     แต่ตำรวจมักให้คุณตกลงกันเอง  สุดท้ายเรื่องก็จบลงที่โรงพัก......ถ้าฝ่ายคุณไม่ยินยอม  แม้เรื่องไปถึงศาล   โอกาสที่พวกเขาจะถูกลงโทษถึงขั้นจำคุกแทบไม่มี   ประเด็นมีอยู่ว่า  คุณไปเที่ยวเสาะหาคู่กรณี   คล้ายๆสมัครใจไปทะเลาะวิวาท   ยิ่งทำให้คุณเสียเปรียบในเรื่องรูปคดีพอสมควร......ดังนั้นถ้ามีการเจราจากัน   และฝ่ายเขายอมชดใช้ให้ตามสมควร   ก็น่าจะตกลง  เพื่อยุติปัญหาด้วยดี.....ต้องจำเป็นบทเรียนราคาแพงว่าคนผิดใจกัน   หรือคนไม่กินเส้นกัน   เขาไม่ไปเคลียร์ใจกันหรอก   เพราะสุดท้ายมักจบลงด้วยการทำร้ายกันหรืออาจถึงขั้นฆ่าแกงกัน  เพราะมีตัวอย่างในเรื่องนี้มากมาย    คนไม่ถูกกันไม่กินเส้นกัน   ต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างไป   แซวได้แซวไป    สุดท้ายเขาก็ล้าไปเอง   ไม่เห็นต้องไปเคลียร์ให้เสียเวลาครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้เฒ่า วันที่ตอบ 2009-06-23 11:01:40 IP : 125.26.111.194



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.