นาย ก.ประมูลซื้อบ้านพักตำรวจไว้ 2 หลัง เป็นเงิน 364,000 บาท ในสัญญาการประมูลทำไว้ให้รื้อถอนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับจากวันที่ชำระเงิน หลังที่ 1 ชำระเงินวันที่ 21 มิ.ย.51 หลังที่ 2 ชำระเงินวันที่ 15 ก.ค.51 แล้วต่อมานำมาขายต่อให้กับผมในราคา 533,333 บาท ตกลงกันหลังละประมาณ 266,666 บาท ซึ่งผมได้ทำสัญญาซื้อขายทั้งสองหลังและได้วางเงินมัดจำ 270,000 บาท ส่วนเงินที่เหลือจะจ่ายให้ในวันรื้อถอนแต่ละหลัง ในจำนวนเงิน 270,000 บาท เป็นการมัดจำหลังที่ 1  170,000 บาท หลังที่ 2  100,000 บาท แต่ในสัญญาไม่ได้แยกเขียนรวมไปเลยว่ามัดจำ 270,000 บาท  ในการรื้อถอนมีการปรับเกลี่ยพื้นที่ให้เรียบร้อยด้วยซึ่งมีการตกลงกันว่าผมช่วยในการปรับเกลี่ยอีกจำนวน 10,000 บาท ซึ่งทำสัญญาซื้อขายและหนังสือมอบอำนาจให้กับผมในวันที่ 16 ก.ค.51 แต่สัญญาทั้งสองไม่มีการกำหนดวันและเวลาในการชำระเงินและวันสิ้นสุดสัญญา ก่อนรื้อถอนผมมีเวลาน้อยมากกลัวไม่ทันตามกำหนดในสัญญาประมูลผมกลัวว่าจะมีปัญหาเลยให้ นาย ก.ไปทำการยืดสัญญาบ้านพักหลังที่ 1 ออกไปอีก 30 วัน เป็นวันทำสัญญาวันที่ 21 ก.ค.51 หมดสัญญาวันที่ 21 ส.ค.51 ผมเริ่มทำการรื้อถอนวันที่ 25 ก.ค.51 และได้จ่ายเงินอีก 100,000 บาท เป็นอันว่าบ้านหลังที่ 1 จ่ายเงินครบหมดแล้ว ระหว่างรื้อถอนมีปัญหากับผู้ดูแลบ้านพักตลอดเวลาและได้ติดต่อ นาย ก.ให้มาเคลียร์แต่ นาย ก.ทำนิ่งเฉยไม่สนใจเท่าไหร่นัก ทำงานไม่สะดวกเลยกว่าจะรื้อถอนเสร็จใช้เวลา 10 วัน เสร็จวันที่ 3 ก.ค.51 ผมต้องนำไม้ไปลงแล้วก็จัดเรียงอีกซึ่งระหว่างเดินทางกลับรถผมเกิดประสบอุบัติเหตุชนกับรถมอเตอร์ไซด์ ผมกลัวว่าจะรื้อบ้านพักหลังที่ 2 ไม่ทันเลยให้ นาย ก.ไปยืดสัญญาต่ออีก 30 วัน แต่นาย ก.ไม่ยอมยืดสัญญาให้โดยอ้างว่าให้ผมชำระเงินส่วนที่เหลือให้หมดก่อนถึงจะยืดสัญญาให้ ซึ่งในตอนนั้นผมไม่ไว้ใจในความประพฤติของนาย ก.เลย ไม่กล้าที่จะจ่ายส่วนที่เหลือให้ก่อนการยืดสัญญากลัวว่าถ้าจ่ายแล้วเขาไม่ยืดสัญญาให้ก็จะมีปัญหาไปมากกว่านี้ ระหว่างที่ติดต่อกันผมอยู่ จ.นครสวรรค์ นาย ก.อยู่ จ.อุดรธานี การโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยรับและไม่อยากคุยด้วย ผมมารู้อีกทีว่า นาย ก.ได้ทำการรื้อถอนบ้านพักหลังที่ 2 ไปแล้วในวันวันที่ 20 ก.ค.51 แล้วนำไม้ไปสร้างให้วัดที่ไหนไม่แน่ชัดแต่ได้ข่าวมาที่ จ.เพชรบูรณ์ เป็นเงินหลายล้านบาท หลังจากนั้นผมก็ติดต่อกับ นาย ก.มาตลอดเรื่องเงินมัดจำให้คืนผมจำนวน 100,000 บาท เขาก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด โดยจะนำไม้มาแทนให้บ้าง จะทยอยคืนเงินให้บ้าง อ้างว่าสร้างวัดเงินยังไม่ออกไม่มีเงินผลัดไปเดือนโน้นมาโดยตลอดจน ผมรอจนไม่ไหวแล้วพอโทรไปเขาก็คุยเรื่องอื่นแล้วรีบวางสาย พอผมโทรไปอีกสายก็ไม่ว่างเป็นแบบนี้ทุกครั้ง ในกรณีนี้ผมจะมีวิธีการอย่างไรบ้างครับ ถ้าฟ้องมีโอกาสชนะหรือว่าเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมได้หรือไม่ ขอรบกวนผู้รู้หรือแนะนำด้วยครับ ปัจจุบันธุรกิจผมล้มเหลวจนไม่เหลืออะไรแล้วคับ