ดิฉันค้ำประกันการซื้อรถยนต์ให้เพื่อนบ้าน ขณะนี้ผู้เช่าซื้อได้นำรถยนต์คืนให้กับบริษัท เพราะไม่สามารถส่งค่างวดต่อไปได้  ดิฉันในฐานะผู้ค้ำประกัน ได้ติดต่อกับบริษัทไฟแนนซ์ตลอด บริษัทฯ แจ้งว่าขณะนี้รถคันดังกล่าวได้ขายทอดตลาดแล้วปรากฎว่าขาดทุน และบริษัทแจ้งให้ผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำ ไปชำระเงินส่วนที่ขาดทุน  ซึ่งดิฉันได้ติดต่อไปยังผู้เช่าซื้อเพื่อให้ผู้เช่าซื้อติดต่อไปยังบริษัทฯ  บริษัทฯแจ้งว่าผู้เช่าซื้อได้ติดต่อไปยังบริษัทแล้วและแจ้งว่าไม่สามารถชำระหนี้ ได้    ซึ่งหลังจากนี้ไปบริษัทก็ต้องดำเนินการบังคับคดีกับผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันต่อไป

       ดิฉันมีคำถามดังนี้

       1.  การบังคับคดีจะดำเนินการควบคู่กันไประหว่างผู้เช่าซื้อกับผู้ค้ำประกันใช่หรือไม่

       2.  การดำเนินในชั้นศาล ผู้เช่าซื้อหรือผู้ค้ำประกัน ต้องมีทนายไปแก้คดีหรือไม่  ถ้าไม่มีได้หรือไม่  ถ้าต้องใช้ทนายจะหาทนายอาสา ของสภาทนายความประจำจังหวัดได้หรือไม่ค่ะ

       3.  การฟ้อง/การดำเนินคดีทางแพ่ง จะฟ้อง ณ  สถานที่ใด (เช่น  ณ  ภูมิลำเนาของผู้เช่าซื้อ  หรือ ณ  สถานที่ทำสัญญา หรือ ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัท สำนักงานสาขาที่ทำสัญญา)  มีหลักเกณฑ์หรือข้อกฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ค่ะ

       4.  มีคนบอกว่าหลังจากศาลพิจารณาคดีให้ผู้เช่าซื้อหรือผู้ค้ำประกัน ชดใช้เงินให้บริษัทแล้ว การชำระหนี้ไม่มีอายุความ เราสามารถชำระหนี้ไปได้เรื่อย (มีก็ชำระไม่มีก็ไม่ต้องชำระ)  แต่ดิฉันว่ามันน่าจะมีอายุความและต้องมีการบังคับคดีตามมา

         5.  การพิจารณาคดี สามารถแบ่งการชำระหนี้ให้กับผู้ค้ำประกันส่วนหนึ่ง และผู้เช่าซื้อ ส่วนหนึ่ง  ได้หรือไม่