สวัสดีครับ

ผมมีเรื่องปรึกษาครับ เมื่อปี 47 ผมได้ทำงานกับบริษัทจำหน่ายคอมพิวเตอร์ ผมทำงานแผนกช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ นายจ้างได้ให้รถมาใช้เพื่อที่ตอนเช้าเวลาทำงานได้ไปทำงานสะดวกหรือต้องไปบริการลูกค้าก่อนถึงจะเข้าบริษัท เมื่อวันที่ 3 ของเดือน กุมภาพันธ์ปี 47 ผมได้นำรถที่นายจ้างให้มาไว้ใช้งานจอดไว้ที่หน้าบ้านผมพอตอนประมาณ ตี 3ของวันถัดไปเพื่อนผมกับมาจากในตัวเมืองก็ได้มาบอกผมว่าไม่เห็นรถจอดอยู่หน้าบ้านแล้ว ผมก็ได้ไปแจ้งความกับ สถานีตำรวจเชิงทะเลจังหวัดภูเก็ต จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่พบรถคันดังกล่าวเลย แต่ทางเจ้านายผมเค้าได้ดำเนินคดีกับผมว่าผมยักยอกทรัพย์ ขโมยรถไปแอบซ่อน ได้ขึ้นศาลกันประมาณ 3 ครั้ง ศาลยกฟ้องเพราะพยานอ่อนมาก แต่เมื่อมาวันที่ 19 กรกฎาคม 2552 ได้มีหมายศาลมาให้ไปฟังคำพิภาคษาที่ศาลอุทธรณ์ภาค8 แสดงว่าเจ้านายเค้าขอยื่นอุทธรณ์ใช่ไหมครับ เรื่องผ่านมาประมาณ 4-5 ปีแล้วทำไม่เค้าถึงจะมายื่นอุทธรณ์ตอนนี้ละครับ และในกรณีนี้ผมจะสามารถชนะคดีได้ไหมครับ เค้าหาว่าผมติดการพนันฟุตบอล หาว่าผมเอารถไปขาย เค้าจะเอาเงิน 200,000 บาท ผมไม่มีให้เค้าหรอกเพราะผมต้องทำงาน ไหนจะลูก 2 คนอีกต้องเรียนหนังสือ ไหนจะภรรยาอีก เพราะภรรยาก็ไม่ได้ทำงานอะไร ผมต้องทำอยู่คนเดียว ศาลเคยให้เจรจากันแล้วแต่เจรจาไม่ได้ ทั้ง ๆที่ผมไม่เคยเล่นการพนันเลย เหล้ายาก็ไม่เคยแตะต้อง เพราะผมนับถือศาสนาอิสลาม ถ้าทำอย่างนั้นพ่อผมคงทุบผมตายเลย ผมขอคำปรึกษาและคำแนะนำนะครับว่าผมต้องทำอย่างไรดี การขึ้นศาลครั้งก่อนผมขอให้รองนายก อบต.ที่บ้านช่วยเหลือท่านก็ดีช่วยเอาตำแหน่งค้ำประกันให้ ตอนแรกเอา ชโนดที่ดินของแม่ค้ำประกัน จนรองนายกอบต.ท่านก็มาช่วยจัดการหาทนายให้หมดทุกอย่างเลย แต่เคราวนี้ผมยังนึกไม่ออกแลยว่าจะทำอย่างไรต้องหาทนายคนเดิมหรือเปล่าเพราะเค้ามีข้อมูลของเก่าอยู่แล้ว

ผมขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

สมมาศ คหาปนะ